ปั่นจักรยาน ”กลัว” อะไรกันบ้าง?
กฏการใช้บอร์ด
บอร์ดสำหรับ นักปั่นทัวร์ริ่ง นักปั่นระยะทางไกล พูดคุยเรื่องอุปกรณ์ เทคนิตการปั่น ที่พัก หรือการกินอยู่
บอร์ดสำหรับ นักปั่นทัวร์ริ่ง นักปั่นระยะทางไกล พูดคุยเรื่องอุปกรณ์ เทคนิตการปั่น ที่พัก หรือการกินอยู่
-
- สมาชิก
- โพสต์: 21
- ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ค. 2014, 09:19
ปั่นจักรยาน ”กลัว” อะไรกันบ้าง?
คงต้องขออนุญาตบอร์ดก่อนนะครับ พอดี กระทู้ที่อ้างถึงนั้นอยู่ที่บอร์ดนี้ ก็เลยอยากให้ต่อเนื่องกันไป แต่ถ้าทางบอร์ดเห็นว่าไม่สมควรก็ต้องขออภัยด้วยครับ
คือ ได้ย้อนกลับไปอ่านกระทู้เรื่อง “เราปั่นไปหาอะไร?” http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 7&t=933937 ของท่าน สส แล้วก็เลยเกิดสงสัยขึ้นมา เมื่อวันศุกร์ ที่ ๘ ขี่จักยานกลับบ้าน คือบ้านผมอยู่นนทบุรี แต่ที่ทำงานอยู่ชลบุรี ไม่ได้ขี่เป็นปกตินะครับ ปกติก็ขับรถไป-กลับ ยกเว้นช่วงวันหยุดยาว แล้ววันก่อนวันทำงานต้องแน่ใจด้วยว่าจะมีเวลาขี่กลับ ถึงจะปั่น ไม่งั้นปั่นกลับบ้านแล้วจะไปทำงานต้องให้ทางบ้านไปส่งเป็นที่วุ่นวาย แล้ววันหยุดยาวนี้วันที่ ๑๒ ต้องกลับไปทำภารกิจตอนเย็นที่ทำงานอยู่แล้วก็เลยตัดสินใจปั่นกลับ ตอนขี่กลับบ้านก็เจออุปสรรคที่ผมกลัวมากสำหรับการขี่ในที่โล่งระยะยาวๆ ซึ่งหลายท่านอาจจะมองว่าเป็นเรื่องจิ๊บๆ ก็ได้ เอาเป็นว่าเดี๋ยวเล่าอุปสรรคที่พอจะนึกออกตอนนี้และสามารถจัดการได้ก่อน
๑. รถพัง อย่างยางแตกหรืออะไรพวกนี้ที่เป็นการพังแบบพื้นๆ อันนี้ การขี่ระยะยาวๆ ที่จริงระยะสั้นก็ด้วยนะผมว่า อะไหล่สำรองหรือเครื่องไม้เครื่องมือควรจะมีติดรถไว้อยู่แล้ว ไม่น่าจะเป็นปัญหา แต่ถ้าถึงขนาดล้อบิด ตีนผีหัก อันนี้ก็คงต้องว่ากันไปตามมีตามเกิดละครับ
๒. ผู้ใช้ทางร่วมกัน ไม่ว่าจะรถเล็กรถใหญ่ ใช้ตามกฎหมาย หรือใช้ตามกฎหมายแต่ไร้มารยาทและใช้แบบผิดกฎหมาย เช่น พวกย้อนศร สำหรับผู้ใช้ทางร่วมกันนี้ ผมจะระลึกไว้เสมอว่า ผู้ขับรถต่างๆ เหล่านั้นท่านมองไม่เห็นผม ดังนั้น ผมจึงใช้เบรคบ่อยมากแล้วก็ยอมให้พวกเขาหรือเธอทำอะไรไปตามสะดวก ที่จริงแม้ในการขับรถในช่วงที่รีบแสนจะรีบแล้วรถก็ติดนั้น ถ้ามีรถมาเบียดมาแทรกผมก็ยอมนะครับ เพราะถ้าไม่ยอมแล้วรถเกิดสะกิดกันขึ้นมา คราวนี้ต้องรอประกันอีกครึ่งค่อนชั่วโมง ไอ้งานที่รีบจะไปจัดการนั้นก็เป็นไม่ต้องไปแล้ว เสียงานแล้วยังเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ หากเหตุบานปลายอาจจะมีเรื่องอื่นๆ ตามมาอีก โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าชีวิตผมมีค่าสามารถทำประโยชน์ให้กับครอบครัว สังคม หรือประเทศชาติมากกว่าจะเอาไปแลกกับเรื่องแค่นั้นหรือแลกกับคนเหล่านั้นนะครับ
๓. สภาพทาง ต้องทำใจกับสภาพทางบ้านเราครับ เส้นบางนา-ตราดที่ปิดปรับปรุงเป็นช่วงๆ มาเป็นปีแล้ว ไอ้ส่วนที่เปิดให้ใช้ก่อนดูแล้วก็ไม่เห็นว่ามันจะดีกว่าเดิมตรงไหน ตอนนี้ผมขี่ไฮบริดที่ว่าซื้อมาราคาสี่พันแปดเป็นหลัก เพราะเอาไปไว้ที่ชลบุรีด้วยส่วนเสือภูเขาเอากลับมาทิ้งไว้ที่นนทบุรี ด้วยความเคยชินกับยางหน้ากว้าง มาขี่ยางหน้าแคบเล็กๆ กับสภาพถนนที่เคยใช้ยางหน้ากว้างลุยได้ก็เลยเริ่มจะสะสมสถิติการกลิ้งอีกแล้ว อันนี้ก็แก้ด้วยการตั้งสติเวลาเจอสภาพทางแย่ๆ ว่า ยางเล็กนะเว้ย ระวังหน่อย ก็ดีขึ้นบ้าง ทางดินทางทราย ใครเห็นทางแล้วยังจะเข้าไปขี่แสดงว่ายอมรับสภาพทางได้ คงไม่ใช่ปัญหา ส่วนเรื่องขึ้นเขา-ลงเขา ก็ว่าไปตามสภาพภูมิประเทศก่อนไปขี่คงได้ศึกษาสภาพทางและทำใจกันไว้บ้างแล้ว อย่าทำแบบผมตอนยังหนุ่มๆ ห้าวๆ ไม่ศึกษาทางเลยนึกจะไปก็ไป สุดท้ายไปไม่รอด กลับไม่ได้ไปไม่ถึง
๔. น้องหมา ข้อนี้ เท่าที่อ่านดูมีการแก้เกมกันหลายวิธี ส่วนของผมนี่ถ้าเจอน้องหมาสกัดจะใช้วิธีพุ่งเข้าไปหาเลยพอถึงตัวก็เบรกแรงๆ ให้ล้อหลังไถล เหล่าน้องหมาจะเกิดอาการชะงักกับสิ่งที่เกิดขึ้นนิดนึง บางตัวอาจจะวิ่งถอยไปเลย เปิดโอกาสให้เราขี่ผ่านไปแบบสบายๆ ยกเว้นกรณีที่ขี่เข้าไปในซอยย่อยไม่รู้จัก ที่เดาไม่ถูกว่าทางข้างหน้าเป็นยังไงอันนี้ต้องถอยเหมือนกันครับ ขี่ผ่านไปเกิดไปไหนต่อไม่ได้หรือไปต่อลำบากจะไปโดนหมาหมู่ข้างใน ส่วนที่แก้ไม่ได้เลยก็คือน้องหมาที่อยู่ข้างทางไม่มีอาการคุกคามอะไรแต่พอเราขี่ผ่านก็ลุกพรวดพราดออกมาตัดหน้าซะงั้น กรณีนี้เคยพากลิ้งทั้งคนทั้งหมามาบ้างเหมือนกัน
๕. แดด-ร้อน อันนี้ ไม่มีปัญหาผมตัวดำอยู่แล้วดำเพิ่มอีกนิดคงไม่เป็นไร ตอนกลางคืนมืดๆ ก็พยายามยิ้มเข้าไว้ คนอื่นเห็นฟันจะได้รู้ว่าเรายังอยู่ ส่วนเรื่องร้อน เวลาขี่จักรยานนี่จะรู้สึกร้อนน้อยกว่าการยืนกลางแดดนะ รู้สึกเหมือนกันไหม?
๖. ฝุ่น-ฝน ฝุ่นสร้างปัญหาให้กับคนใส่แว่นสายตาอย่างผมบ้าง แต่ไม่บ่อย เพราะฝุ่นมันไม่ได้ฟุ้งอยู่ตลอดเวลาหรือตลอดเส้นทาง ข้อดีของการปั่นเดียวบนทางฝุ่นก็คือ ไม่มีใครมาตะกุยฝุ่นหรือโคลนใส่หน้าเรา ยกเว้นเราจะตะกุยมันขึ้นมาเอง ส่วนฝนนั้นถ้าตกเปาะแปะถึงปานกลางก็ขี่ลุยได้ หมวกผมติดแก๊ปทุกใบ ถึงจะใส่แว่นสายตา ถ้าฝนตกผมจะก้มหน้าลงอีกนิดให้แก๊ปกันฝนโดนแว่น แล้วมองลอดระหว่างช่องของแก๊ปเอาถ้าต้องการมองไปข้างหน้าไกลๆ แต่ถ้าตกหนักมาก ต้องจอดหาที่หลบฝนครับ ปลอดภัยกว่า คนที่ขับรถนี่ถ้าฝนตกหนักมากๆ อย่าว่าแต่จักรยานเลยครับ รถข้างหน้าถ้าไม่เปิดไฟหรี่ก็แทบจะมองไม่เห็นเหมือนกัน
ตอนนี้นึกไม่ออกว่ายังมีอะไรอีก ก็ไปสิ่งที่ผมกลัวมากในการขี่ระยะยาวๆ เลยละกัน นั่นก็คือ
๗. ลม ครับ ลมแรงๆ ที่ให้ความรู้สึกในขณะที่กำลังประสบอยู่นั้นว่าชาตินี้ท่านจะไม่หยุดพัดอีกแล้ว ลมแรงๆ ที่พัดส่งมาจากข้างหลังนั้นบางทีก็ทำให้ครึ้มอกครึ้มใจเวลาเหลือบมองไมล์ได้เหมือนกัน แต่ลมที่พัดมาข้างหน้าตรงๆ นั้น แทบจะเรียกว่า พัดมาฆ่ากันเลยที่เดียว เพราะผมอยู่ในพวกปั่นเดี่ยว ไม่มีกลุ่ม ไม่มีกำหนดการ ไม่มีใครมาแบ่งเบาภาระที่จะต้องสู้กับแรงลม อย่างเมื่อวันศุกร์ก็โดนลมพัดใส่ตั้งแต่บางปะกงจนถึงบางนาเลย เข้าด้านหน้าบ้าง ด้านข้างบ้าง มีให้พักหายใจหายคอ หรือให้ทำเวลาบ้างก็น้อยนิดแถมด้วยฝนประปรายเป็นระยะ กลับถึงบ้านด้วยสภาพกะปลกกะเปลี้ย มอมแมม ให้ลูกๆ มันฮาตรึมแถมแม่บ้านสมน้ำหน้าอีก เจ็บใจ้เจ็บใจ เฮ้อ...ตรู ดันทุรังจริงๆ เลยยยยย ....
คือ ได้ย้อนกลับไปอ่านกระทู้เรื่อง “เราปั่นไปหาอะไร?” http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 7&t=933937 ของท่าน สส แล้วก็เลยเกิดสงสัยขึ้นมา เมื่อวันศุกร์ ที่ ๘ ขี่จักยานกลับบ้าน คือบ้านผมอยู่นนทบุรี แต่ที่ทำงานอยู่ชลบุรี ไม่ได้ขี่เป็นปกตินะครับ ปกติก็ขับรถไป-กลับ ยกเว้นช่วงวันหยุดยาว แล้ววันก่อนวันทำงานต้องแน่ใจด้วยว่าจะมีเวลาขี่กลับ ถึงจะปั่น ไม่งั้นปั่นกลับบ้านแล้วจะไปทำงานต้องให้ทางบ้านไปส่งเป็นที่วุ่นวาย แล้ววันหยุดยาวนี้วันที่ ๑๒ ต้องกลับไปทำภารกิจตอนเย็นที่ทำงานอยู่แล้วก็เลยตัดสินใจปั่นกลับ ตอนขี่กลับบ้านก็เจออุปสรรคที่ผมกลัวมากสำหรับการขี่ในที่โล่งระยะยาวๆ ซึ่งหลายท่านอาจจะมองว่าเป็นเรื่องจิ๊บๆ ก็ได้ เอาเป็นว่าเดี๋ยวเล่าอุปสรรคที่พอจะนึกออกตอนนี้และสามารถจัดการได้ก่อน
๑. รถพัง อย่างยางแตกหรืออะไรพวกนี้ที่เป็นการพังแบบพื้นๆ อันนี้ การขี่ระยะยาวๆ ที่จริงระยะสั้นก็ด้วยนะผมว่า อะไหล่สำรองหรือเครื่องไม้เครื่องมือควรจะมีติดรถไว้อยู่แล้ว ไม่น่าจะเป็นปัญหา แต่ถ้าถึงขนาดล้อบิด ตีนผีหัก อันนี้ก็คงต้องว่ากันไปตามมีตามเกิดละครับ
๒. ผู้ใช้ทางร่วมกัน ไม่ว่าจะรถเล็กรถใหญ่ ใช้ตามกฎหมาย หรือใช้ตามกฎหมายแต่ไร้มารยาทและใช้แบบผิดกฎหมาย เช่น พวกย้อนศร สำหรับผู้ใช้ทางร่วมกันนี้ ผมจะระลึกไว้เสมอว่า ผู้ขับรถต่างๆ เหล่านั้นท่านมองไม่เห็นผม ดังนั้น ผมจึงใช้เบรคบ่อยมากแล้วก็ยอมให้พวกเขาหรือเธอทำอะไรไปตามสะดวก ที่จริงแม้ในการขับรถในช่วงที่รีบแสนจะรีบแล้วรถก็ติดนั้น ถ้ามีรถมาเบียดมาแทรกผมก็ยอมนะครับ เพราะถ้าไม่ยอมแล้วรถเกิดสะกิดกันขึ้นมา คราวนี้ต้องรอประกันอีกครึ่งค่อนชั่วโมง ไอ้งานที่รีบจะไปจัดการนั้นก็เป็นไม่ต้องไปแล้ว เสียงานแล้วยังเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ หากเหตุบานปลายอาจจะมีเรื่องอื่นๆ ตามมาอีก โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าชีวิตผมมีค่าสามารถทำประโยชน์ให้กับครอบครัว สังคม หรือประเทศชาติมากกว่าจะเอาไปแลกกับเรื่องแค่นั้นหรือแลกกับคนเหล่านั้นนะครับ
๓. สภาพทาง ต้องทำใจกับสภาพทางบ้านเราครับ เส้นบางนา-ตราดที่ปิดปรับปรุงเป็นช่วงๆ มาเป็นปีแล้ว ไอ้ส่วนที่เปิดให้ใช้ก่อนดูแล้วก็ไม่เห็นว่ามันจะดีกว่าเดิมตรงไหน ตอนนี้ผมขี่ไฮบริดที่ว่าซื้อมาราคาสี่พันแปดเป็นหลัก เพราะเอาไปไว้ที่ชลบุรีด้วยส่วนเสือภูเขาเอากลับมาทิ้งไว้ที่นนทบุรี ด้วยความเคยชินกับยางหน้ากว้าง มาขี่ยางหน้าแคบเล็กๆ กับสภาพถนนที่เคยใช้ยางหน้ากว้างลุยได้ก็เลยเริ่มจะสะสมสถิติการกลิ้งอีกแล้ว อันนี้ก็แก้ด้วยการตั้งสติเวลาเจอสภาพทางแย่ๆ ว่า ยางเล็กนะเว้ย ระวังหน่อย ก็ดีขึ้นบ้าง ทางดินทางทราย ใครเห็นทางแล้วยังจะเข้าไปขี่แสดงว่ายอมรับสภาพทางได้ คงไม่ใช่ปัญหา ส่วนเรื่องขึ้นเขา-ลงเขา ก็ว่าไปตามสภาพภูมิประเทศก่อนไปขี่คงได้ศึกษาสภาพทางและทำใจกันไว้บ้างแล้ว อย่าทำแบบผมตอนยังหนุ่มๆ ห้าวๆ ไม่ศึกษาทางเลยนึกจะไปก็ไป สุดท้ายไปไม่รอด กลับไม่ได้ไปไม่ถึง
๔. น้องหมา ข้อนี้ เท่าที่อ่านดูมีการแก้เกมกันหลายวิธี ส่วนของผมนี่ถ้าเจอน้องหมาสกัดจะใช้วิธีพุ่งเข้าไปหาเลยพอถึงตัวก็เบรกแรงๆ ให้ล้อหลังไถล เหล่าน้องหมาจะเกิดอาการชะงักกับสิ่งที่เกิดขึ้นนิดนึง บางตัวอาจจะวิ่งถอยไปเลย เปิดโอกาสให้เราขี่ผ่านไปแบบสบายๆ ยกเว้นกรณีที่ขี่เข้าไปในซอยย่อยไม่รู้จัก ที่เดาไม่ถูกว่าทางข้างหน้าเป็นยังไงอันนี้ต้องถอยเหมือนกันครับ ขี่ผ่านไปเกิดไปไหนต่อไม่ได้หรือไปต่อลำบากจะไปโดนหมาหมู่ข้างใน ส่วนที่แก้ไม่ได้เลยก็คือน้องหมาที่อยู่ข้างทางไม่มีอาการคุกคามอะไรแต่พอเราขี่ผ่านก็ลุกพรวดพราดออกมาตัดหน้าซะงั้น กรณีนี้เคยพากลิ้งทั้งคนทั้งหมามาบ้างเหมือนกัน
๕. แดด-ร้อน อันนี้ ไม่มีปัญหาผมตัวดำอยู่แล้วดำเพิ่มอีกนิดคงไม่เป็นไร ตอนกลางคืนมืดๆ ก็พยายามยิ้มเข้าไว้ คนอื่นเห็นฟันจะได้รู้ว่าเรายังอยู่ ส่วนเรื่องร้อน เวลาขี่จักรยานนี่จะรู้สึกร้อนน้อยกว่าการยืนกลางแดดนะ รู้สึกเหมือนกันไหม?
๖. ฝุ่น-ฝน ฝุ่นสร้างปัญหาให้กับคนใส่แว่นสายตาอย่างผมบ้าง แต่ไม่บ่อย เพราะฝุ่นมันไม่ได้ฟุ้งอยู่ตลอดเวลาหรือตลอดเส้นทาง ข้อดีของการปั่นเดียวบนทางฝุ่นก็คือ ไม่มีใครมาตะกุยฝุ่นหรือโคลนใส่หน้าเรา ยกเว้นเราจะตะกุยมันขึ้นมาเอง ส่วนฝนนั้นถ้าตกเปาะแปะถึงปานกลางก็ขี่ลุยได้ หมวกผมติดแก๊ปทุกใบ ถึงจะใส่แว่นสายตา ถ้าฝนตกผมจะก้มหน้าลงอีกนิดให้แก๊ปกันฝนโดนแว่น แล้วมองลอดระหว่างช่องของแก๊ปเอาถ้าต้องการมองไปข้างหน้าไกลๆ แต่ถ้าตกหนักมาก ต้องจอดหาที่หลบฝนครับ ปลอดภัยกว่า คนที่ขับรถนี่ถ้าฝนตกหนักมากๆ อย่าว่าแต่จักรยานเลยครับ รถข้างหน้าถ้าไม่เปิดไฟหรี่ก็แทบจะมองไม่เห็นเหมือนกัน
ตอนนี้นึกไม่ออกว่ายังมีอะไรอีก ก็ไปสิ่งที่ผมกลัวมากในการขี่ระยะยาวๆ เลยละกัน นั่นก็คือ
๗. ลม ครับ ลมแรงๆ ที่ให้ความรู้สึกในขณะที่กำลังประสบอยู่นั้นว่าชาตินี้ท่านจะไม่หยุดพัดอีกแล้ว ลมแรงๆ ที่พัดส่งมาจากข้างหลังนั้นบางทีก็ทำให้ครึ้มอกครึ้มใจเวลาเหลือบมองไมล์ได้เหมือนกัน แต่ลมที่พัดมาข้างหน้าตรงๆ นั้น แทบจะเรียกว่า พัดมาฆ่ากันเลยที่เดียว เพราะผมอยู่ในพวกปั่นเดี่ยว ไม่มีกลุ่ม ไม่มีกำหนดการ ไม่มีใครมาแบ่งเบาภาระที่จะต้องสู้กับแรงลม อย่างเมื่อวันศุกร์ก็โดนลมพัดใส่ตั้งแต่บางปะกงจนถึงบางนาเลย เข้าด้านหน้าบ้าง ด้านข้างบ้าง มีให้พักหายใจหายคอ หรือให้ทำเวลาบ้างก็น้อยนิดแถมด้วยฝนประปรายเป็นระยะ กลับถึงบ้านด้วยสภาพกะปลกกะเปลี้ย มอมแมม ให้ลูกๆ มันฮาตรึมแถมแม่บ้านสมน้ำหน้าอีก เจ็บใจ้เจ็บใจ เฮ้อ...ตรู ดันทุรังจริงๆ เลยยยยย ....
- ble@11
- ขาประจำ
- โพสต์: 296
- ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2011, 20:26
- Tel: 191
- Bike: Bike Friday
- ตำแหน่ง: แจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด
Re: ปั่นจักรยาน ”กลัว” อะไรกันบ้าง?
ผมกลัวรถเป็นรอยคับ
- แอ้ม
- ขาประจำ
- โพสต์: 826
- ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ส.ค. 2011, 19:45
- team: Ride Decorate
- Bike: Bianchi Nirone7 , Merida Reacto 400 , Cannondale CAAD8
- ttpong
- ขาประจำ
- โพสต์: 217
- ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2012, 23:56
- Tel: 0853090006
- team: Mosquito
- Bike: FUJI SST SLM
- ตำแหน่ง: 6/2 ถ.ราชวิถี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร
- ติดต่อ:
- oHm-K1300R
- ขาประจำ
- โพสต์: 102
- ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ธ.ค. 2013, 11:29
- Tel: 0878887077
- ตำแหน่ง: นครศรีธรรมราช
- ติดต่อ:
Re: ปั่นจักรยาน ”กลัว” อะไรกันบ้าง?
กลัวรถตัดหน้าและโดนสอยตรูดครับ
- ว่าวต้องลม
- ขาประจำ
- โพสต์: 715
- ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ค. 2013, 18:27
- Bike: Focus Cayo Evo 4.0
Re: ปั่นจักรยาน ”กลัว” อะไรกันบ้าง?
กลัวเมียด่าเวลาไปปั่น
งานพิมพ์ด่วน รอรับได้เลยยยยยยยย บริการรับพิมพ์สิ่งพิมพ์ทุกชนิด http://www.thaiutsaha.com
- j3rd
- สมาชิก
- โพสต์: 59
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 19:21
- Tel: 0898151715
- Bike: TREK 4500
- ติดต่อ:
Re: ปั่นจักรยาน ”กลัว” อะไรกันบ้าง?
หมา หลุม รถยนต์ครับ
- ohzero
- ขาประจำ
- โพสต์: 116
- ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.พ. 2012, 08:13
- Tel: 0869030303
- Bike: Chevrolet TOURING, Chevrolet รถพับ 16",BMX Meadow
- ตำแหน่ง: 1/75 หมู่บ้านริมธาร บรมราชชนนี 55 ปิ่นเกล้า-นครชัยศรี ตลิ่งชัน กทม.
- ติดต่อ:
Re: ปั่นจักรยาน ”กลัว” อะไรกันบ้าง?
รถยนต์ ครับ
กลัวตายอย่างเดียว
กลัวตายอย่างเดียว
OHzerO Studio
รับออกแบบ-เขียนแบบ ,จัดทำหุ่นจำลอง อาคารสถาปัตยกรรมทุกประเภท
mobile : 086-903-0303(แบ๊งค์) 081-414-2141(ยุ้ย) email : ohzerostudio@gmail.com
http://www.facebook.com/pages/%E0%B9%82 ... 3891487313
รับออกแบบ-เขียนแบบ ,จัดทำหุ่นจำลอง อาคารสถาปัตยกรรมทุกประเภท
mobile : 086-903-0303(แบ๊งค์) 081-414-2141(ยุ้ย) email : ohzerostudio@gmail.com
http://www.facebook.com/pages/%E0%B9%82 ... 3891487313
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 158
- ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2014, 12:24
- team: Bangkok Architecture Tour On Bike, น่าถีบนัก
- Bike: Trinx FA2007, Chevy FK207, Fuji F3(1974), Bridgestone Roadman, Tokyo Bike CS, Fuji Palette
Re: ปั่นจักรยาน ”กลัว” อะไรกันบ้าง?
เรียงตามลำดับ นะครับ
1.กลัวสภาพถนน
2.กลัวรถใหญ่ เช่น รถเมล์ รถบรรทุกสิบล้อ
3.ฝน
4.มอเตอร์ไซค์ที่ไม่เปิดไฟในยามกลางคืน
1.กลัวสภาพถนน
2.กลัวรถใหญ่ เช่น รถเมล์ รถบรรทุกสิบล้อ
3.ฝน
4.มอเตอร์ไซค์ที่ไม่เปิดไฟในยามกลางคืน
- เสือ Spectrum
- ขาประจำ
- โพสต์: 4450
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 12:58
- Tel: -
- team: 99 City Bike
- Bike: LA Spectrum
Re: ปั่นจักรยาน ”กลัว” อะไรกันบ้าง?
1. กรณี "รถเสีย" คงต้องแยกประเด็นความเสียหายว่าจะไปทางมากหนือน้อย
ปัญหาธรรมดาที่เกิดได้บ่อยมากสำหรับผู้ปั่นจักรยานคือยางแตก/ยางรั่ว ยางรั่วนี่เรามักแก้ปัญหาด้วยการหาตำแหน่งที่ยางนอกก่อนว่ารั่วเพราะอะไรเช่นมีเศษของแหลมทิ่มตำอยู่ แล้วเอาต้นเหคุออกไปก่อน พกยางในสำรองไปเปลี่ยนจะรวดเร็วกว่าการปะยาง ส่วนยางในที่รั่วก็เก็บเอาไว้ทำในเวลาที่สะดวกเช่นตอนถึงปลายทางหรือเข้าที่พักแล้ว ถ้าเราเสียเวลาปะยางเกินกว่า 1/2 ชั่วโมงก็ถือว่าเสียเวลาไปมากสำหรับทริปนั้นแล้วครับ
ยางนอกแตกเป็นทางยาวเพราะยางเก่าหรือเหตุอื่นๆ หากจำเป็นต้องปั่นฯ ต่อบางท่านก็ใช้ต้นหญ้ายัดใส้แทนยางในก็พอปั่นฯ ต่อได้ในความเร็วที่ต่ำกว่าปรกติ แต่ก็พอปั่นฯ ต่อได้อีกระยะทางหนึ่งครับ
แต่ถ้าจักรยานอยู่ในสภาพที่ปั่นฯ ต่อไม่ได้ การถอดล้อหน้า/ล้อหลังออก มัดกับเฟรมก็พอจะหิ้วขึ้นรถทั่วไปได้ทั้งรถเก๋งและกระบะครับ
2. ปัญหาเส้นทางและรถอื่นๆ ที่ใช้ทางร่วมกัน คงขึ้นอยู่กับทักษะและการสังเกตุเส้นทางครับ บางเส้นทางต้องยอมรับว่าไม่เหมาะหรือยากกับการใช้จักรยาน แต่บางเส้นทางก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคการอ่าน Line หรือเลือกโซนที่เหมาะสมบนถนนสำหรับการปั่นฯ
สิ่งที่ทำให้มือใหม่รำคาญหรือเหนื่อยมากคือการต้องเบรคและออกตัวบ่อยๆ แต่ถ้าเรากะจังหวะเรื่องความเร็วดีๆ บางครั้งอาจจะใช้การเบรคแค่ล้อหลังล้อเดียว (แทนการเบรคสองมือเพื่อให้รถหยุดซึ่งทำให้การออกตัวหนักและยากขึ้น) แค่เพื่อชลอความเร็วและเร่งต่อในจังหวะที่เหมาะสมก็จะช่วยให้การปั่นฯ ลื่นไหลและสบายขึ้นครับ
3. สภาพเส้นทาง ยิ่งยางเล็กก็ควรจะทำการบ้านด้วยการมองล่วงหน้าให้ไกลมากขึ้นเพื่อเลือก Line ทีเหมาะสมบนถนน คืออาจจะต้องปั่นฯ อ้อมหลุม (ถ้าทำได้) หรือย้ายไปอยู่ตำแหน่งอื่นบนเลนที่เราปั่นฯ แต่ก็ต้องระลึกไว้เสมอว่าการเปลี่ยนทิศทางหรือตำแหน่งบนถนนที่มีรถอื่นใช้ทางร่วมอยู่ด้วย ควรระวังอันตรายจากการถูกเฉี่ยวชนให้มาก การให้สัญญาณเพื่อเปลี่ยนตำแหน่งหรือค่อยๆ เปลี่ยนเลนจะปลอดภัยกว่าการเลือกเปลี่ยนเลนกระทันหันครับ
ปัญหาธรรมดาที่เกิดได้บ่อยมากสำหรับผู้ปั่นจักรยานคือยางแตก/ยางรั่ว ยางรั่วนี่เรามักแก้ปัญหาด้วยการหาตำแหน่งที่ยางนอกก่อนว่ารั่วเพราะอะไรเช่นมีเศษของแหลมทิ่มตำอยู่ แล้วเอาต้นเหคุออกไปก่อน พกยางในสำรองไปเปลี่ยนจะรวดเร็วกว่าการปะยาง ส่วนยางในที่รั่วก็เก็บเอาไว้ทำในเวลาที่สะดวกเช่นตอนถึงปลายทางหรือเข้าที่พักแล้ว ถ้าเราเสียเวลาปะยางเกินกว่า 1/2 ชั่วโมงก็ถือว่าเสียเวลาไปมากสำหรับทริปนั้นแล้วครับ
ยางนอกแตกเป็นทางยาวเพราะยางเก่าหรือเหตุอื่นๆ หากจำเป็นต้องปั่นฯ ต่อบางท่านก็ใช้ต้นหญ้ายัดใส้แทนยางในก็พอปั่นฯ ต่อได้ในความเร็วที่ต่ำกว่าปรกติ แต่ก็พอปั่นฯ ต่อได้อีกระยะทางหนึ่งครับ
แต่ถ้าจักรยานอยู่ในสภาพที่ปั่นฯ ต่อไม่ได้ การถอดล้อหน้า/ล้อหลังออก มัดกับเฟรมก็พอจะหิ้วขึ้นรถทั่วไปได้ทั้งรถเก๋งและกระบะครับ
2. ปัญหาเส้นทางและรถอื่นๆ ที่ใช้ทางร่วมกัน คงขึ้นอยู่กับทักษะและการสังเกตุเส้นทางครับ บางเส้นทางต้องยอมรับว่าไม่เหมาะหรือยากกับการใช้จักรยาน แต่บางเส้นทางก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคการอ่าน Line หรือเลือกโซนที่เหมาะสมบนถนนสำหรับการปั่นฯ
สิ่งที่ทำให้มือใหม่รำคาญหรือเหนื่อยมากคือการต้องเบรคและออกตัวบ่อยๆ แต่ถ้าเรากะจังหวะเรื่องความเร็วดีๆ บางครั้งอาจจะใช้การเบรคแค่ล้อหลังล้อเดียว (แทนการเบรคสองมือเพื่อให้รถหยุดซึ่งทำให้การออกตัวหนักและยากขึ้น) แค่เพื่อชลอความเร็วและเร่งต่อในจังหวะที่เหมาะสมก็จะช่วยให้การปั่นฯ ลื่นไหลและสบายขึ้นครับ
3. สภาพเส้นทาง ยิ่งยางเล็กก็ควรจะทำการบ้านด้วยการมองล่วงหน้าให้ไกลมากขึ้นเพื่อเลือก Line ทีเหมาะสมบนถนน คืออาจจะต้องปั่นฯ อ้อมหลุม (ถ้าทำได้) หรือย้ายไปอยู่ตำแหน่งอื่นบนเลนที่เราปั่นฯ แต่ก็ต้องระลึกไว้เสมอว่าการเปลี่ยนทิศทางหรือตำแหน่งบนถนนที่มีรถอื่นใช้ทางร่วมอยู่ด้วย ควรระวังอันตรายจากการถูกเฉี่ยวชนให้มาก การให้สัญญาณเพื่อเปลี่ยนตำแหน่งหรือค่อยๆ เปลี่ยนเลนจะปลอดภัยกว่าการเลือกเปลี่ยนเลนกระทันหันครับ
เมื่อพ้นไปจากการ "แพ้" หรือ "ชนะ" เราก็จะได้อยู่ในที่ที่ไม่มี "ความทุกข์ใจ"
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 3727
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ก.ย. 2010, 21:14
- Bike: NEObike16 14 ,Giant escept3,Peugeot crique,BSroadman,giant revice
Re: ปั่นจักรยาน ”กลัว” อะไรกันบ้าง?
ผมปั่นเพื่อเอาชนะตัวเอง (ลดความอ้วน เพิ่มกล้ามเนื้อ พึ่งพาตัวเองทิ้งความสุขสบาย)วนรอบหาเกียร์ต่ำ พยายามหยุดขาให้น้อยสุดตลอดทาง
ปัญหาเรื่อง เปลี่ยนยางระหว่างทาง ต่อโซ่ เจอหมา เด็กแว้น ร้อน ฝน เหนื่อย ทางขรุขระ เหงื่อพลากโทรม เสื้อผ้าเปลอะเปียก ไม่อยู่ในหัว ผมชอบด้วยซ้ำเพราะทำให้การปั่นแต่ละวันมีสีสรร
สิ่งที่ผมไม่ชอบก็คือ คนแกล้งให้เราตกใจ ให้ล้ม นักปั่นสไตร์หรูหราขี้เก็กปั่นเสี่ยงๆ ที่ชอบใช้สายตาและวาจาดูถูกสไตร์ของเรา
ร้านค้าที่เน้นบริการลูกค้ากลุ่มที่ชอบใช้เงินเยอะๆซื้อความสะดวก ที่ชอบรังเกียจลูกค้าประเภททำทุกอย่างด้วยตัวเองเลือกของคุ้มค่ากว่าของหรู
และ คนที่ชอบถามว่า ปั่นทำไม ไม่เหนื่อยหรอ ไม่ซื้อม.ไซด์ล่ะ กรูปั่นเพราะกรูไม่อยากมีความคิดอ่านเหมือนคุณมรึงนี่หละ
ปัญหาเรื่อง เปลี่ยนยางระหว่างทาง ต่อโซ่ เจอหมา เด็กแว้น ร้อน ฝน เหนื่อย ทางขรุขระ เหงื่อพลากโทรม เสื้อผ้าเปลอะเปียก ไม่อยู่ในหัว ผมชอบด้วยซ้ำเพราะทำให้การปั่นแต่ละวันมีสีสรร
สิ่งที่ผมไม่ชอบก็คือ คนแกล้งให้เราตกใจ ให้ล้ม นักปั่นสไตร์หรูหราขี้เก็กปั่นเสี่ยงๆ ที่ชอบใช้สายตาและวาจาดูถูกสไตร์ของเรา
ร้านค้าที่เน้นบริการลูกค้ากลุ่มที่ชอบใช้เงินเยอะๆซื้อความสะดวก ที่ชอบรังเกียจลูกค้าประเภททำทุกอย่างด้วยตัวเองเลือกของคุ้มค่ากว่าของหรู
และ คนที่ชอบถามว่า ปั่นทำไม ไม่เหนื่อยหรอ ไม่ซื้อม.ไซด์ล่ะ กรูปั่นเพราะกรูไม่อยากมีความคิดอ่านเหมือนคุณมรึงนี่หละ
ความเจ็บปวดของคุณ จะกลายเป็นตัวของคุณ
- จำรัส ละหานทราย
- ขาประจำ
- โพสต์: 1039
- ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ม.ค. 2011, 10:47
- Tel: 087 261 7279
- team: -
Re: ปั่นจักรยาน ”กลัว” อะไรกันบ้าง?
กลัวเมียไม่อนุมัติวีซ่า ครับ
- Winnie the Liverpool
- ขาประจำ
- โพสต์: 292
- ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2011, 06:26
- team: Good Morning Na Korn In
- Bike: รถพับ --> เสือภูเขา --> Cannondale SC600 --> Trek Madone 3.1 2013 --> e5 2013-->BMC SLR01&eMonda 2015
Re: ปั่นจักรยาน ”กลัว” อะไรกันบ้าง?
กลัวไม่ได้ ปั่น ครับ
เช่น ฝนตก , ถนนเปียก , ติดธุระ , เมียบ่น ฯลฯ
ส่วนเรื่อง รถยนต์ รถใหญ่ ถือเป็นสุดวิสัย ครับ เราระวัง เขาไม่ระวัง ก็ กรรมใครกรรมมัน ครับ
เช่น ฝนตก , ถนนเปียก , ติดธุระ , เมียบ่น ฯลฯ
ส่วนเรื่อง รถยนต์ รถใหญ่ ถือเป็นสุดวิสัย ครับ เราระวัง เขาไม่ระวัง ก็ กรรมใครกรรมมัน ครับ
- GoPee
- ขาประจำ
- โพสต์: 1665
- ลงทะเบียนเมื่อ: 25 พ.ย. 2012, 10:58
- Tel: 088-9877957
- Bike: ็Haro Trail 29 inc
- ตำแหน่ง: ประชานิเวศน์3
- ติดต่อ:
Re: ปั่นจักรยาน ”กลัว” อะไรกันบ้าง?
กลัวกลับมาเปิดร้านไม่ทัน เป็นทุกเช้าเลยครับ
-
- สมาชิก
- โพสต์: 50
- ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2014, 20:27
- team: อิสระ
Re: ปั่นจักรยาน ”กลัว” อะไรกันบ้าง?
กลัวใจตัวเอง
ปั่นไปไม่ถึงเป้าหมาย
ปั่นไปไม่ถึงเป้าหมาย
จิต เมตตา นิพพาน สุข เกิด เป็นปกติ เป็นธรรมดา เป็นธรรมชาติ ปลง ปล่อย วาง สุดท้าย.....