OTO สรุปทริป การเดินทาง 35 วัน ไทย-ลาว-เวียดนาม-ลาว-ไทย

[PtM]

อย่าลืมปั่นเผื่อกันบ้างนะครับ คุณธานินทร์ ขอให้โชคดีในการเดินทางครับ...

[ธานินทร์ 520]

สวัสดีครับพี่ปกรณ์ PtM ขอบคุณสำหรับคำอวยพรในการเดินทาง
ผมจะทำงานให้ดีที่สุด เพื่อรักษาคุณภาพและให้ชาวต่างชาติมาเที่ยวในเมืองไทยและประเทศเพื่อนบ้าน
เพื่อนำเงินเข้าประเทศไทยให้มากที่สุดครับ แล้วจะเที่ยวเผื่อครับ ก็หวังว่าทริปนี้จะได้ดูเส้นทางใหม่อีกนิดหน่อย
ที่ไม่เหมือนกับทริปที่ผ่านมา เพราะไปทำงานครั้งนี้มีไกด์ดูแลการเดินทางด้วย มีรถบริการอีกต่างหาก
มีข้อมูลอะไรใหม่ๆจะเก็บไว้บอกทุกคนครับ.....

[mtb.hilander]

ผมละสงสารพี่จัง เดี๋ยวไปปั่นที่โน่น เดี๋ยวไปปั่นที่นี่ สงสารจริงๆนะพี่

ยกให้พี่ธานินท์เป็น กูรู ปั่นจักรยานคงไมผิดนัก

สงสารจริงๆ พี่ สงสารรถนะ

[นิดหน่อย]

สวัสดีคะคุณธานินทร์ เที่ยวถึงไหนแล้วค่ะ หน้าอิจฉาจัง จำทีมงานได้ไหมคะ บ้านทรายทองไง**** :D เห็นภาพสวย ๆ ๆ สบายจัยจัง เบื้อทะเลแล้ว ขอภาพอีก ทีมงานขอมาคะ :lol:

[kowjee]

สวัสดีครับ..คุณธานินทร์ 520
หลังจากเจอกันที่ข่วงท่าแพเมื่อปีก่อนๆ(กำลังจะออกทริปไปแม่ฮ่องสอน มั้ง)แล้วเรา ก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย มาเจอกันอีกทีโดยบังเอิญเมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่๒๖ตค.ก็ตรงทางขึ้นหอดูดาวบนดอยสุเทพ นี่ถ้าไม่ได้..คุณน้อย520 เรียกไว้ผมคงจะเลยจุดนั้นไปแล้ว ดีใจครับที่ได้เจอกันอีกครั้งเสียดายว่าเวลาที่ได้สนทนากันมีน้อยเพราะผมต้องกลับไปทำงานต่อ(ทำงานสะสมโควต้าเอาไว้ออกทริปยาวในปีต่อไป ) เข้ามาชมเรื่องราวในกระทู้นี้ขอบอกว่า..ยอดเยี่ยมเลยครับ

ซาปา กับ ดาลาด มีหลายๆอย่างที่คล้ายกันที่แน่ๆทั้งสองเมืองเป็นเมืองน่าอยู่มาก






[img]http://www.thaimtb.com/forum/download/file.php?id=16984[/img

คุณธานินทร์ 520 อย่ามัวแต่แอบอิจฉาคนทางเหนือบ้านใกล้ดอยเลยครับ ผมแอบอิจฉาคุณธานินทร์ 520 มากกว่าที่ได้ปั่นtouringตลอดทั้งปี

ขอบคุณครับ

[kowjee]

ปล. คุณธานินทร์ 520 น่าไปสำรวจที่นี่นะครับ(ผมไปมาเมื่อช่วงเดือน กค.ที่ผ่านมา) ส่วนใน..โฮจิมินท์ซิตี้ ก็คงเหมือนๆกับฮานอยหรือเมืองหลวงในหลายๆประเทศครับ

[bell mania]

นี่ยังไม่จบใช่ไหมครับ
เป็นกระทู้ที่ครองใจมหาชนอย่างล้นหลาม ยิ่งกระทู้ในชมรมอยุธยาของพี่มุก ที่แกไปทะลุจีนด้วยนะครับ
ผมอ่านจนเก็บเอาไปฝันเป็นเรื่องราวด้วยความฝันว่า สักวันก็คงต้องไปแบบนี้บ้าง ขาดเวลาและทรัพย์อย่างเดียว... วันนี้ได้พูดคุยกับพี่มุกพอหอมปากหอมคอ(คุยกันทางโทรศัพท์ครึ่งชั่วโมง)
ขนาดไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

เป็นภาพความสวยงามที่เอาง่ายๆว่า แค่ดูผ่านภาพ อ่านผ่านตัวอักษร ยังตื่นตาตื่นใจขนาดนี้
แล้ว
กลิ่นใบข้าว กลิ่นดินโดนไอฝนหอมๆ กลิ่นเหงื่อ กลิ่นลม ที่อยู่ในสถานการณ์จริงมันจะจับจิตจับใจขนาดไหน

ครับ มันไม่ใช่เป็นแรงบันดาลใจของใครหลายๆคน รวมทั้งผมด้วย แต่อย่างเดียว
แต่
ตอนนี้ ข้างขวาบ่าย2สองโมงของอุษาคเนย์ โลกกำลังเบิกตามองการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อยู่
ขอบคุณพี่ๆในทริปที่เอื้อเฟื้อประสบการณ์ในการเล่าสู่กันฟังนะครับ
อ้อ มาเล่าต่อให้จบนะครับ

[ธานินทร์ 520]

คุณ mtb.hilander ไม่ต้องสงสารผมเลยเต็มใจทำครับ เหนื่อย แต่ได้เที่ยว (ได้เงินด้วย)
และได้ทำในสิ่งที่เรารัก ผมยอมทิ้งธุรกิจที่พ่อแม่สร้างไว้ให้ ยกให้น้องชายกับน้องสาว
ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ และเป็นงานบริการที่มันอยู่ในใจของผมที่มีให้กับคนอื่นได้
เห็นเขามีความสุข เราก็มีความสุขครับ

คุณ นิดหน่อย บ้านทรายทอง (ผมจำไม่ได้จริงๆครับ) ช่วยบอกผมอีกนิดเป็นใครอยู่ที่ไหน
ผมยังรายงานไม่จบครับ มีภาพให้ชมต่อแน่นอน เพราะยังต้องลงมาเวียดนามกลาง
และลาวใต้ จึงจะจบการเดินทางที่อุบลฯครับ....

คุณ kowjee สวัสดีครับเสียดายวันนั้นมีเวลาน้อยไปครับไม่นั้นมีเรื่องคุยกันเยอะแน่ครับ
ก็ไม่ได้เจอกันนาน เห็นเบาะ Brooks สีน้ำตาลแบบนั้นผมก็อยากได้ติดเสือหมอบเหมือนกัน
ส่วนเรื่อง Dalat เห็นแล้วก็อยากจะไปอยู่ครับ อยากไปนานแล้วแต่ผมรอให้ด่านระหว่าง
เวียดนามกับเขมร ให้เปิดอยู่ครับไปแล้วทริปจะได้สมบูรณ์ ส่วนปีหน้าก็ยังจะไปสำรวจเวียดนาม
อีกสองสามเส้นครับ เพราะอาจจะต้องไปทำแผนที่เส้นทางจักรยานให้กับบริษัทที่เขาทำเรื่องงานพิมพ์
ผมเป็นผู้สำรวจและจัดทำข้อมูลให้เขา ผมไม่เก่งเรื่องงานพิมพ์ แต่ไปเก็บข้อมูลผมชอบ
ก็เหมือนทำทัวร์นั่นหละ ได้เที่ยวได้เงินด้วย มีความสุขดีครับ และผมเองก็จะได้เส้นทาง
สำหรับทำธุรกิจของผมเองด้วย โดยที่เขาจ่ายเงินให้ ทำงานทีเดียวได้สองงาน

คุณ bell mania ทริปยังรายงานไม่จบครับ แต่ก็ยังไม่ทราบจะหาเวลาได้มากแค่ไหน
เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่งานผมยุ่งมากที่สุด ส่วนข้อมูลโดยรวมผมจะทำให้ละเอียดอีกครั้ง
แต่คาดว่าน่าจะเป็นปีหน้าเลย เพราะงานผมจะยุ่งไปจนถึงต้นเดือนมีค.2009ครับ
เราทุกคนควรจะฝันและจะต้องทำความฝันให้เป็นจริง จะได้แค่ไหนก็ถือว่าดีแล้ว
ดีกว่าที่เราไม่คิดจะฝันเพราะมันจะไม่มีโอกาสเลยครับ

[ธานินทร์ 520]

สวัสดีเพื่อนๆที่ยังติดตามการรายงานทริป
ช่วงที่ผ่านมาก็เดินทางปั่นจักรยานนำเที่ยวชาวต่างชาติ
ก็เดินทางอยู่ทางภาคเหนือของไทย ลาวและเวียดนาม
วันนี้พอจะมีเวลานิดหน่อยก็ขอรายงานทริป ก่อนที่วันจันทร์นี้
จะขึ้นเหนืออีกรอบ เพื่อนๆหลายคนก็เพิ่งกลับจากการเดินทางไกล
บางคนก็ยังเดินทางกว่าจะกลับมาก็หลังวันที่ 10 ธค. ไปแล้ว

ผมขอรายงานทริปต่อจากที่ค้างไว้นะครับ
วันนี้เราก็เดินทางต่อจากเกาแคตไฮ ไปยังเกาะแคตบา หรือที่รู้จักกันว่าฮาลองเบย์
เพราะเกาะแคตบา อยู่ในอ่าวฮาลองนั่นเองครับ

[ธานินทร์ 520]

บรรยากาศในอ่าว ที่เกาะแคตบา

[ธานินทร์ 520]

ระหว่างเดินทางไปยังเมืองฮาลอง
หรือที่เรียกกันว่าฮาลองซิตี้

[ธานินทร์ 520]

และแล้วเราก็เดินทางมาถึงเมืองฮาลอง
ซึ่งเป็นเมืองท่า ที่นักท่องเที่ยวที่จะเที่ยวฮาลองเบย์จะต้องมาลงเรือที่นี่

[ธานินทร์ 520]

เที่ยงกว่าเราก็ขึ้นฝั่ง หลังจากนั่งเรือล่องอ่าวฮาลองมาครึ่งวัน
หาโรงแรมที่พักได้ก็ออกไปทานอาหารเที่ยง ตอนเย็นเราก็ปั่นจักรยาน
ข้ามสะพานแขวนที่สร้างเสร็จเมื่อไม่นานมานี้ ไปเที่ยวอีกฝั่งหนึ่ง
หาเบียร์ดื่มนั่งชมความงาม และดูความเป็นอยู่ของชาวเมือง

[ธานินทร์ 520]

วันนี้เป็นวันที่ตื่นเต้นที่สุดวันหนึ่งในทริปนี้
ก็ตั้งแต่เช้าเราถ่ายรูปกับครอบครัวเจ้าของโรงแรม
ก็มีทั้งแม่ ลูกและแม่บ้าน แล้วเราก็ปั่นออกไปขนส่ง
เพื่อจะขึ้นรถบัสไปฮานอย เรารู้แค่ว่าปั่นออกไปตรงอย่างเดียวอย่าเลี้ยวไปไหน
ให้ไปทางทิศทางที่จะไปโรงพยาบาล เราปั่นไปไม่นานก็ได้พบกับเพื่อนนักปั่น
อีกกลุ่มมาจากฮ่องกงจะไปขนส่งเช่นกัน และแล้วเราก็ต้องหลงทางด้วยกัน
เพราะเราจะถามชาวบ้านว่า Bus Station ไม่มีใครเข้าใจเลย จนเราปั่นเลยไปไกล
จนไปออกถนนใหญ่อีกด้าน เราได้พูดคุยกับคนๆหนึ่งที่พอพูดภาษาอังกฤษได้
เขาบอกให้ปั่นตามเขาไป เพราะเขาขี่มอเตอร์ไซด์ แล้วเขาก็พาเราวกกลับไปในเมือง
เราก็คิดว่าเราปั่นหลงไปเอง เพราะตอนแรกที่โรงแรมเขาบอกไม่ไกล ที่ไหนได้
ภาษาอังกฤษก็ยังมีปัญหาอีก เพราะเขาเข้าใจผิดอีกระหว่างคำว่าฮาลอง กับ ฮานอย
เขาพาเรากลับไปฮาลอง ทั้งๆที่เราอยากไปฮานอยครับ

[ธานินทร์ 520]

ลืมบอกไปวันนี้คุณปกรณ์แยกการเดินทางกับเรา
เพราะคุณปกรณ์มีเวลาอีกสองสามวันจะบินกลับไทย
วันที่มีเหลืออยู่ก็เลยปั่นย้อนกลับไปสนามบินที่ฮานอย

ส่วนผมกับแปะเม้งเราเองก็ต้องการลดเวลาการเดินทางก็เลยขึ้นรถบัส
จากฮาลองไปฮานอย และจากฮานอย เราขึ้นรถนอน (รถบัสปรับที่นั่งสองที่เป็นที่นอน)
เรานั่งจากฮานอยไปเว้ แล้วจากเว้เราปั่นไปดานัง ฮอยอาน ไปชายแดนลาว
แล้วปั่นกลับเข้าไทยที่อุบลฯ ซึ่งช่วงสุดท้ายนี้เราปั่นตลอดทางตั้งแต่เว้ (เวียดนาม)
ลาว และอุบลฯ (ไทย)

ส่วนวันนี้ก็ยังไม่จบเรื่องที่เราตื่นเต้น ก็ตอนที่เรามาถึงฮานอย เราต้องปั่นกลับไปโรงแรม
ที่เราจองตั๋วรถไว้ แต่ตอนที่เราปั่นทางเป็นถนนคล้ายๆทางยกระดับ พอถึงทางแยกที่ผมตั้งใจไว้ว่าจะเลี้ยวซ้าย
แต่จริงจะต้องเลี้ยวซ้ายก่อนถึงทางแยก แต่เราไม่รู้เราปั่นไปจนถึงแยก พอรู้ว่าเลี้ยวซ้ายไม่ได้
และตำรวจก็เป่านกหวีดเรียกแต่ผมกับแปะตัดสินใจไม่หยุดและตัดสินใจเลี้ยวขวา
เราหารู้ไม่ว่าถ้าเลี้ยวขวาจะต้องข้ามสะพาน และสะพานนี้ไม่อนุญาตให้จักรยานปั่นบนนี้อีก
เราทำผิดทีเดียวสองกระทงเลยครับ แต่ตำรวจเขาก็ไม่ตามไม่ว่าอะไรอีก
ซึ่งผมเองก็มาคิดได้ว่าสะพานนี้ไม่อนุญาตให้จักรยานขึ้นแน่เพราะไม่เห็นจักรยานปั่นข้างๆเราเลย
ซึ่งเมื่อข้ามมาแล้วก็จะต้องปั่นย้อนกลับเพื่อเข้าเมืองผมเลยสังเกตุดูป้ายที่สะพาน มีป้ายห้ามจักรยานจริงๆ
เราเลยต้องปั่นไปหาอีกสะพานหนึ่งเพื่อปั่นเข้าเมือง และไม่ให้ตำรวจจับเราด้วย

วันนี้ทั้งหลงทาง ทั้งโดนตำรวจเรียก แต่ก็ผ่านไปด้วยดีครับ