ทัวร์เดี่ยว ตอน "WoW!!! Indonesia"
- Bike Addict
- ขาประจำ
- โพสต์: 2521
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2008, 15:11
- team: หาดใหญ่ลื่นไหล
- Bike: Canyon Ultimate CF SLX, Trek 520,
Re: ทัวร์เดี่ยว ตอน "WoW!!! Indonesia"
หลังจากเสร็จงานแต่งงานแล้ว ซีจิตก็ขับรถไปส่งผมต่อที่บ้านของครอบครัวที่สองที่ผมต้องไปพักด้วย นั้นคือ
ครอบครัวของ คุณ ไดแอสตี้ ซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่ใหญ่โต ถึงผู้จัดการฝ่ายขาย แต่เป็นคนที่มีอารมณ์สนุกสนาน อยู่ด้วยไม่เครียดเลยครับ
บ้านไดแอสตี้ เป็นครอบครัวใหญ่ คืออยู่กัน คือ คุณตา คุณยาย 2 คน (ไม่ต้องแปลกใจ อินโดนีซียมีภรรยาได้ตั้งสามนะคร๊าบบบ )ไดแอสตี้ สามีคุณไดแอสตี้
น้องเซซ่าลูกสาวไดแอสตี้ และน้องสาวไดแอสตี้ อ้อ ยังมีคนรับใช้อีก สามคน หุ หุ
เท่าที่เล่าก็พอรับรู้ได้ว่า ครอบครัวนี้ เพอเฟ็คขนาดใหน นั้นคือ มีฐานะ การศึกษาดีเพราะในครอบครัวจบโท ต่างประเทศกันทั้งนั้น แถมคุณตาเคยเป็นเจ้าหน้าราชการระดับสูงก่อนจะเกษียณ
ดังนั้นบรรยากาศก็ไม่เหมือนกับครอบครัวแรกอย่างแน่นอน แต่ที่เหมือนกันคือทั้งสองครอบครัวใจดีมากครับ
ตอนทานข้าวที่บ้านนี้ผม กินข้าวกับกับข้าวหลากหลาย ส่วนใหญ่จะเป็นของเผ็ด ที่ผมบ่อยั้นอยู่แล้ว ทราบทีหลังว่า คุณตาคุณยายเป็นคนอาเจะห์ ในสุมาตราดังนั้นอาหารเย็น
จึงเป็นเหมือนเมนูปาดังที่แสนอร่อยครับ
ครอบครัว คุณไดแอสตี้ คุณไดแอสตี้นั่งขวาสุด
ครอบครัวของ คุณ ไดแอสตี้ ซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่ใหญ่โต ถึงผู้จัดการฝ่ายขาย แต่เป็นคนที่มีอารมณ์สนุกสนาน อยู่ด้วยไม่เครียดเลยครับ
บ้านไดแอสตี้ เป็นครอบครัวใหญ่ คืออยู่กัน คือ คุณตา คุณยาย 2 คน (ไม่ต้องแปลกใจ อินโดนีซียมีภรรยาได้ตั้งสามนะคร๊าบบบ )ไดแอสตี้ สามีคุณไดแอสตี้
น้องเซซ่าลูกสาวไดแอสตี้ และน้องสาวไดแอสตี้ อ้อ ยังมีคนรับใช้อีก สามคน หุ หุ
เท่าที่เล่าก็พอรับรู้ได้ว่า ครอบครัวนี้ เพอเฟ็คขนาดใหน นั้นคือ มีฐานะ การศึกษาดีเพราะในครอบครัวจบโท ต่างประเทศกันทั้งนั้น แถมคุณตาเคยเป็นเจ้าหน้าราชการระดับสูงก่อนจะเกษียณ
ดังนั้นบรรยากาศก็ไม่เหมือนกับครอบครัวแรกอย่างแน่นอน แต่ที่เหมือนกันคือทั้งสองครอบครัวใจดีมากครับ
ตอนทานข้าวที่บ้านนี้ผม กินข้าวกับกับข้าวหลากหลาย ส่วนใหญ่จะเป็นของเผ็ด ที่ผมบ่อยั้นอยู่แล้ว ทราบทีหลังว่า คุณตาคุณยายเป็นคนอาเจะห์ ในสุมาตราดังนั้นอาหารเย็น
จึงเป็นเหมือนเมนูปาดังที่แสนอร่อยครับ
ครอบครัว คุณไดแอสตี้ คุณไดแอสตี้นั่งขวาสุด
- Bike Addict
- ขาประจำ
- โพสต์: 2521
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2008, 15:11
- team: หาดใหญ่ลื่นไหล
- Bike: Canyon Ultimate CF SLX, Trek 520,
Re: ทัวร์เดี่ยว ตอน "WoW!!! Indonesia"
มื้อเย็น ผมทานร่วมกับ ไดแอสตี้ สามีคุณไดแอสตี้ ก็ได้พูดคุยกันทั่วไป จนไปถึงเรื่องการเมือง
และเรื่องสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งไดแอสตี้นั้นถามผมว่า สถานการณ์เป็นไงบ้างปลอดภัยหรือเปล่า
ที่ไดแอสตี้ถามถึง ก็คงด้วยคณพ่อ หรือคุณตา ที่ผมได้นั่งคุยด้วยในช่วงแรก (คุณตาเก่งภาษาอังกฤษ) แกเล่าว่าแกเคยดูแลในเรื่อง
ในเรื่องเกี่ยวกับความไม่สงบในอาเจะห์ ก่อนที่อาเจะห์จะแยกตัวออกจากอินโดนีเซียในภายหลัง
สิ่งที่คุณตารับทราบมาในเรื่องสามจังหวัดชายแดนในบางเรื่องก็ไม่ตรงกับความจริงในเรื่อง แต่เอาเป็นว่าผมก็ตอบและอธิบายในข้อเท็จจริงให้กับท่าน
คุณตาเองยังเล่าว่าได้เคยมีโอกาสได้ไปเมืองไทยหลายครั้ง และยังประทับใจภูเก็ตเป็นที่สุด มีโอกาสจะไปอีกครั้ง
อ้อ ที่วกมาเล่าเรื่องคุณตา ก็เพียงจะบอกว่าเพราะในครอบครัวคงได้คุยกันเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ มั้ง เลยทำให้มีความสนใจในเรื่องปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพิเศษ
หลังมื้อเย็น ผมก็ขอตัวไปเข้านอนแต่หัวค่ำเช่นเดิม และเตรียมไสลด์บางส่วน เพื่อไปแชร์ประสบการณ์ให้กับเพื่อนที่บริษัทในวันพรุ่งนี้
ตื่นเช้าผมติดรถไดแอสตี้และสัมภาระทั้งหมดไป เพราะผมไม่ได้พักที่นี้แล้ว ต้องย้ายไปพักกับครอบครัวที่สามต่อไป หุ หุ เร่ร่อนจริงๆ เลย
ตอนเช้าเลยได้มีโอกาสไปส่งน้องเซซ่าไปโรงเรียนด้วย เลยแวะเข้าไปดูที่โรงเรียนอนุบาลซักหน่อย
และเรื่องสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งไดแอสตี้นั้นถามผมว่า สถานการณ์เป็นไงบ้างปลอดภัยหรือเปล่า
ที่ไดแอสตี้ถามถึง ก็คงด้วยคณพ่อ หรือคุณตา ที่ผมได้นั่งคุยด้วยในช่วงแรก (คุณตาเก่งภาษาอังกฤษ) แกเล่าว่าแกเคยดูแลในเรื่อง
ในเรื่องเกี่ยวกับความไม่สงบในอาเจะห์ ก่อนที่อาเจะห์จะแยกตัวออกจากอินโดนีเซียในภายหลัง
สิ่งที่คุณตารับทราบมาในเรื่องสามจังหวัดชายแดนในบางเรื่องก็ไม่ตรงกับความจริงในเรื่อง แต่เอาเป็นว่าผมก็ตอบและอธิบายในข้อเท็จจริงให้กับท่าน
คุณตาเองยังเล่าว่าได้เคยมีโอกาสได้ไปเมืองไทยหลายครั้ง และยังประทับใจภูเก็ตเป็นที่สุด มีโอกาสจะไปอีกครั้ง
อ้อ ที่วกมาเล่าเรื่องคุณตา ก็เพียงจะบอกว่าเพราะในครอบครัวคงได้คุยกันเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ มั้ง เลยทำให้มีความสนใจในเรื่องปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพิเศษ
หลังมื้อเย็น ผมก็ขอตัวไปเข้านอนแต่หัวค่ำเช่นเดิม และเตรียมไสลด์บางส่วน เพื่อไปแชร์ประสบการณ์ให้กับเพื่อนที่บริษัทในวันพรุ่งนี้
ตื่นเช้าผมติดรถไดแอสตี้และสัมภาระทั้งหมดไป เพราะผมไม่ได้พักที่นี้แล้ว ต้องย้ายไปพักกับครอบครัวที่สามต่อไป หุ หุ เร่ร่อนจริงๆ เลย
ตอนเช้าเลยได้มีโอกาสไปส่งน้องเซซ่าไปโรงเรียนด้วย เลยแวะเข้าไปดูที่โรงเรียนอนุบาลซักหน่อย
- Bike Addict
- ขาประจำ
- โพสต์: 2521
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2008, 15:11
- team: หาดใหญ่ลื่นไหล
- Bike: Canyon Ultimate CF SLX, Trek 520,
Re: ทัวร์เดี่ยว ตอน "WoW!!! Indonesia"
หลังจากส่ง เซซ่า เข้าโรงเรียนแล้ว ผมก็มีภาระกิจต่อ ด้วยการไปเยี่ยมเพื่อนออฟฟิศที่อยู่ในจาการ์ต้า แต่อยู่ในเขตที่ดูแล้วไม่วุ่นวายนัก
ท่าให้ผมบอกว่าเหมือนเขตใหนในกรุงเทพ คงต้องบอกว่าเหมือนแถวบางปู สมุทรปราการ มั้ง ตัวออฟฟิศ จะอยู่หน้าโรงงานของผลิตยาของบริษัท
และเมอร์คอินโดนีเซียนั้นเป็น สาขาหนึ่งเดียวในอาเซี่ยนที่มีโรงงานผลิตด้วย ที่เหลือก็จะเป็นแค่ออฟฟิศ อย่างเดียว
ท่าให้ผมบอกว่าเหมือนเขตใหนในกรุงเทพ คงต้องบอกว่าเหมือนแถวบางปู สมุทรปราการ มั้ง ตัวออฟฟิศ จะอยู่หน้าโรงงานของผลิตยาของบริษัท
และเมอร์คอินโดนีเซียนั้นเป็น สาขาหนึ่งเดียวในอาเซี่ยนที่มีโรงงานผลิตด้วย ที่เหลือก็จะเป็นแค่ออฟฟิศ อย่างเดียว
- Bike Addict
- ขาประจำ
- โพสต์: 2521
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2008, 15:11
- team: หาดใหญ่ลื่นไหล
- Bike: Canyon Ultimate CF SLX, Trek 520,
Re: ทัวร์เดี่ยว ตอน "WoW!!! Indonesia"
ที่ออฟฟิศจะต่างกะออฟฟิศ ที่กรุงเทพ ก็ตรงมีพนักงานใส่เสริฟ ทั้งผู้ชายและผู้หญิง คอยเติมน้ำอุ่น น้ำชา แก้วมัก ให้ทุกโต๊ะ
หมายถึงพนักงานทุกคนมาถึงที่ทำงาน บนโต๊ะตอนเช้าก็จะมีแก้วน้ำที่ว่าและ ช๊อกโกแลต หนึ่งชิ้นวางอยู่
ผมไม่มีที่นั่งเป็นหลักแหล่ง ดังนั้นในตอนแรกเขาให้ไปนั่งโต๊ะผู้จัดการฝ่าย (คนที่ลูกชายแต่งงาน วันนี้ลา)
แต่ติดขัดตรงที่ใช้อินเตอร์เนตไม่ได้ ผมจำต้องส่งเมลคอนเฟิร์ม การเดินทางไปยังประเทศต่อไป นั้นคือสิงคโปร์
เลยจำต้องขอช่วยฝ่าย IT ในเรื่องอินเตอร์เนต แต่ติดว่าโต๊ะที่ผมนั่งนั้นติดเรื่องของซิเคียวริติ้ ในการใช้อินเตอร์เนต
ทางฝ่าย IT เลยบอกให้ผมย้ายไปนั่งในแผนก IT เพราะที่นั้นมีอินเตอร์เนตต่อตรงไม่ผ่านระบบซิเคียวริติ้
หลังจากส่งเมลเสร็จแล้ว ผมก็เดินขึ้นไปแล้วขอให้ ไดแอสตี้ช่วยพาไปแนะนำ และเยี่ยมชมแผนกต่างๆ
ผมได้ใช้โอกาสนี้ทำหน้าที่ เอาของฝาก (จดหมาย การ์ด ของที่ระลึกเล็กๆ ) ที่เพื่อนๆ ในออฟฟิศที่กรุงเทพ ฝากถึงเพื่อนๆ ที่ออฟฟิศอินโดนีเซีย
หมายถึงพนักงานทุกคนมาถึงที่ทำงาน บนโต๊ะตอนเช้าก็จะมีแก้วน้ำที่ว่าและ ช๊อกโกแลต หนึ่งชิ้นวางอยู่
ผมไม่มีที่นั่งเป็นหลักแหล่ง ดังนั้นในตอนแรกเขาให้ไปนั่งโต๊ะผู้จัดการฝ่าย (คนที่ลูกชายแต่งงาน วันนี้ลา)
แต่ติดขัดตรงที่ใช้อินเตอร์เนตไม่ได้ ผมจำต้องส่งเมลคอนเฟิร์ม การเดินทางไปยังประเทศต่อไป นั้นคือสิงคโปร์
เลยจำต้องขอช่วยฝ่าย IT ในเรื่องอินเตอร์เนต แต่ติดว่าโต๊ะที่ผมนั่งนั้นติดเรื่องของซิเคียวริติ้ ในการใช้อินเตอร์เนต
ทางฝ่าย IT เลยบอกให้ผมย้ายไปนั่งในแผนก IT เพราะที่นั้นมีอินเตอร์เนตต่อตรงไม่ผ่านระบบซิเคียวริติ้
หลังจากส่งเมลเสร็จแล้ว ผมก็เดินขึ้นไปแล้วขอให้ ไดแอสตี้ช่วยพาไปแนะนำ และเยี่ยมชมแผนกต่างๆ
ผมได้ใช้โอกาสนี้ทำหน้าที่ เอาของฝาก (จดหมาย การ์ด ของที่ระลึกเล็กๆ ) ที่เพื่อนๆ ในออฟฟิศที่กรุงเทพ ฝากถึงเพื่อนๆ ที่ออฟฟิศอินโดนีเซีย
- Bike Addict
- ขาประจำ
- โพสต์: 2521
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2008, 15:11
- team: หาดใหญ่ลื่นไหล
- Bike: Canyon Ultimate CF SLX, Trek 520,
Re: ทัวร์เดี่ยว ตอน "WoW!!! Indonesia"
ตอนเที่ยง ผมก็ได้ออกไปทานข้าวกับ ไดแอสตี้และทีมแผนกเคมีภัณฑ์ ประชาสัมพันธ์ รวมห้าคน ออกไปทานกันข้างนอก
ตอนแรกผมขอว่าจะไปทานในโรงงาน แต่ ไดแอสตี้บอกผมว่า มาทั้งที ออกไปข้างนอกดีกว่า ตอนขี่จักรยานรณรงค์ก็ได้กินข้าวที่โรงอาหารแล้วนิ
ก็คงจะเหมือนผมเวลามีแขกมาที่ออฟฟิศ ก็พยายามออกไปให้จากตัวออฟฟิศซักหน่อยนึง ประมาณนั้น
ไดแอสตี้พาเราไปกินพิซซ่า และแนะนำ เอรี่ ซึ่งผมต้องไปพักกับเขาด้วยในคืนสุดท้าย ของจาการ์ต้า
ตกบ่ายสามโมงครึ่ง ช่วงคอฟฟี่เบรคของโรงงาน ผมได้มีโอกาสได้เป็นเล่าแชร์ประสบการณ์ให้กับเพื่อนๆ พนักงานที่โน้นด้วยครับ
ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง และเพื่อนก็ได้ร่วมกันเขียนอวยพรให้ในป้ายไวนิล ให้ผมประสบความสำเร็จในการเดินทางตามฝันในครั้งนี้ด้วยครับ
ตอนแรกผมขอว่าจะไปทานในโรงงาน แต่ ไดแอสตี้บอกผมว่า มาทั้งที ออกไปข้างนอกดีกว่า ตอนขี่จักรยานรณรงค์ก็ได้กินข้าวที่โรงอาหารแล้วนิ
ก็คงจะเหมือนผมเวลามีแขกมาที่ออฟฟิศ ก็พยายามออกไปให้จากตัวออฟฟิศซักหน่อยนึง ประมาณนั้น
ไดแอสตี้พาเราไปกินพิซซ่า และแนะนำ เอรี่ ซึ่งผมต้องไปพักกับเขาด้วยในคืนสุดท้าย ของจาการ์ต้า
ตกบ่ายสามโมงครึ่ง ช่วงคอฟฟี่เบรคของโรงงาน ผมได้มีโอกาสได้เป็นเล่าแชร์ประสบการณ์ให้กับเพื่อนๆ พนักงานที่โน้นด้วยครับ
ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง และเพื่อนก็ได้ร่วมกันเขียนอวยพรให้ในป้ายไวนิล ให้ผมประสบความสำเร็จในการเดินทางตามฝันในครั้งนี้ด้วยครับ
- Bike Addict
- ขาประจำ
- โพสต์: 2521
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2008, 15:11
- team: หาดใหญ่ลื่นไหล
- Bike: Canyon Ultimate CF SLX, Trek 520,
Re: ทัวร์เดี่ยว ตอน "WoW!!! Indonesia"
หลังจากแชร์ประสบการณ์กับเพื่อนที่บริษัทแล้ว ผมถือโอกาสไปเยี่ยมห้องเจ้านายเก่าที่รับผมเข้าทำงานที่บริษัท
ท่านเป็นคนไทย ชื่อพี่สุมณฑา ผมเรียกว่า พี่มล ท่านเจริญเติบโตในหน้าที่การงานจนตอนนี้ได้เป็น MD ที่เมอร์ค อินโดนีซีย
การที่ผมเลือกเส้นทางที่อินโดนีเซีย ด้วยสาเหตุนึง คืออยากมาเยี่ยมพี่มลด้วย เพราะพี่มลเป็นคนที่หัวหน้าที่ใจดี เป็นที่รักของลูกน้องทุกคน
แต่น่าเสียดายอย่างยิ่ง ที่ในวันนี้ พี่มล ติดภาระกิจ ต้องไปประชุมที่ประเทศไทย สวนทางกันเสียงั้น
แต่ตอนที่มาถึงบาหลี พี่มล ก็ได้ต่อสายคุยกับผม สองสามครั้ง แกบอกผมว่า แกภูมิใจที่เลือกผมเข้าทำงานในวันนั้น และผมแกภูมิใจที่ผมได้มีส่วนกับ Event ระดับภูมิภาค
ได้ฟังผมก็น้ำตาซึม ต้องขอบคุณพี่มล ที่รักและคอยให้กำลังใจ ให้โอกาส ให้หน้าที่การงาน กับผม เหมือนได้เปลี่ยนชีวิตผมตั้งแต่วันที่พี่มลได้รับผมเข้าทำงาน
วันนี้ผมเลยขออนุญาติ เยี่ยมชมห้องพี่มล กับเลขา หน้าห้องพี่มล
ผมก็เห็นรูปถ่ายอันนี้ครับ มันเป็นรูปการ์ตูน ที่พวกเราช่วยกันทำให้พี่มล ในวันที่พี่มลต้องย้ายไปทำงานที่บริษัทแม่ ในประเทศเยอรมันนี
รูปถ่ายอันนี้แกยังเก็บเอาไว้ และแขวนไว้ที่ห้องแกด้วย เห็นแล้วน้ำตาจะไหล
ผมได้เอารูปนี้ไปให้พี่ๆ ที่อยู่ในรูปได้ดูด้วย ทุกคนก็ต่างปลาบปลื้มใจเป็นที่สุดครับ
รูปผมเป็นอยู่ตรงใหน ให้ทายซิ
ท่านเป็นคนไทย ชื่อพี่สุมณฑา ผมเรียกว่า พี่มล ท่านเจริญเติบโตในหน้าที่การงานจนตอนนี้ได้เป็น MD ที่เมอร์ค อินโดนีซีย
การที่ผมเลือกเส้นทางที่อินโดนีเซีย ด้วยสาเหตุนึง คืออยากมาเยี่ยมพี่มลด้วย เพราะพี่มลเป็นคนที่หัวหน้าที่ใจดี เป็นที่รักของลูกน้องทุกคน
แต่น่าเสียดายอย่างยิ่ง ที่ในวันนี้ พี่มล ติดภาระกิจ ต้องไปประชุมที่ประเทศไทย สวนทางกันเสียงั้น
แต่ตอนที่มาถึงบาหลี พี่มล ก็ได้ต่อสายคุยกับผม สองสามครั้ง แกบอกผมว่า แกภูมิใจที่เลือกผมเข้าทำงานในวันนั้น และผมแกภูมิใจที่ผมได้มีส่วนกับ Event ระดับภูมิภาค
ได้ฟังผมก็น้ำตาซึม ต้องขอบคุณพี่มล ที่รักและคอยให้กำลังใจ ให้โอกาส ให้หน้าที่การงาน กับผม เหมือนได้เปลี่ยนชีวิตผมตั้งแต่วันที่พี่มลได้รับผมเข้าทำงาน
วันนี้ผมเลยขออนุญาติ เยี่ยมชมห้องพี่มล กับเลขา หน้าห้องพี่มล
ผมก็เห็นรูปถ่ายอันนี้ครับ มันเป็นรูปการ์ตูน ที่พวกเราช่วยกันทำให้พี่มล ในวันที่พี่มลต้องย้ายไปทำงานที่บริษัทแม่ ในประเทศเยอรมันนี
รูปถ่ายอันนี้แกยังเก็บเอาไว้ และแขวนไว้ที่ห้องแกด้วย เห็นแล้วน้ำตาจะไหล
ผมได้เอารูปนี้ไปให้พี่ๆ ที่อยู่ในรูปได้ดูด้วย ทุกคนก็ต่างปลาบปลื้มใจเป็นที่สุดครับ
รูปผมเป็นอยู่ตรงใหน ให้ทายซิ
- Bike Addict
- ขาประจำ
- โพสต์: 2521
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2008, 15:11
- team: หาดใหญ่ลื่นไหล
- Bike: Canyon Ultimate CF SLX, Trek 520,
Re: ทัวร์เดี่ยว ตอน "WoW!!! Indonesia"
เสร็จการบบรรยาย ผมก็ออกไปร่ำลา น้ำตาแตก กับ ทีมงาน WoW Indonesia เพราะพรุ่งนี้เช้ามืด ผมก็ต้องออกเดินทางไปสิงคโปร์แล้ว
ทีมงานก็ประกอบด้ย แมรี่ ป้า Kiki และ Nikken ป้า kiki เอาหนังสือพิมพ์ Jakarta Post ที่ลงข่าว การขี่จักรยานมาให้ผมดูด้วยครับ
และผมมีแขกที่แอบมาเซอร์ไพรซ์ พร้อมทำของที่ระลึกมาให้ นั้นคือ ดอร์ล๊อก ช่างถ่ายภาพ
ที่ผมจะไม่มีวันลืม เมื่อนึกถึงเสียงหัวเราะเกรียวของผู้คนรอบข้างที่ถูกแกยิงด้วยมุขแลตามด้วยการลั่นด้วยชัตเตอร์
เขาอัดรูปและทำภาพพิเศษใส่กรอบมาให้ของขวัญผม ชึ่งผมชอบมันมาก ขอบคุณมากด๊อล๊อก
คอมันรู้สึกแห้งๆ อีกแล้วครับ ดราม่าจริงๆ
พวกเราถ่ายรูปกันเป็นที่ระลึก ในความผูกพัน เกือบหนึ่งเดือนที่ต้องโทรหากันตลอด ยังกะคนในครอบครัว
ป้า Kiki บอกผมว่า สามีแกยังโทรหาสามีแกไม่บ่อยเท่าผมเลย
ทีมงานก็ประกอบด้ย แมรี่ ป้า Kiki และ Nikken ป้า kiki เอาหนังสือพิมพ์ Jakarta Post ที่ลงข่าว การขี่จักรยานมาให้ผมดูด้วยครับ
และผมมีแขกที่แอบมาเซอร์ไพรซ์ พร้อมทำของที่ระลึกมาให้ นั้นคือ ดอร์ล๊อก ช่างถ่ายภาพ
ที่ผมจะไม่มีวันลืม เมื่อนึกถึงเสียงหัวเราะเกรียวของผู้คนรอบข้างที่ถูกแกยิงด้วยมุขแลตามด้วยการลั่นด้วยชัตเตอร์
เขาอัดรูปและทำภาพพิเศษใส่กรอบมาให้ของขวัญผม ชึ่งผมชอบมันมาก ขอบคุณมากด๊อล๊อก
คอมันรู้สึกแห้งๆ อีกแล้วครับ ดราม่าจริงๆ
พวกเราถ่ายรูปกันเป็นที่ระลึก ในความผูกพัน เกือบหนึ่งเดือนที่ต้องโทรหากันตลอด ยังกะคนในครอบครัว
ป้า Kiki บอกผมว่า สามีแกยังโทรหาสามีแกไม่บ่อยเท่าผมเลย
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 1556
- ลงทะเบียนเมื่อ: 19 มี.ค. 2010, 13:25
- ติดต่อ:
Re: ทัวร์เดี่ยว ตอน "WoW!!! Indonesia"
- Bike Addict
- ขาประจำ
- โพสต์: 2521
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2008, 15:11
- team: หาดใหญ่ลื่นไหล
- Bike: Canyon Ultimate CF SLX, Trek 520,
Re: ทัวร์เดี่ยว ตอน "WoW!!! Indonesia"
เก่งมาก เดี๋ยว มารับ เช๊คของขวัญมูลค่า 10,000 บาทนะครับ
ใช้ได้ที่ K&K สาขาที่จมน้ำมิด นะครับท่าน
- Bike Addict
- ขาประจำ
- โพสต์: 2521
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2008, 15:11
- team: หาดใหญ่ลื่นไหล
- Bike: Canyon Ultimate CF SLX, Trek 520,
Re: ทัวร์เดี่ยว ตอน "WoW!!! Indonesia"
ตกเย็นผมก็ไปลา ไดแอสตี้ กับเพื่อนๆ ที่เหลืออยู่ที่บริษัท และก็ไปขึ้นรถ Areis
ซึ่ง Areis นั้นขับรถไม่เป็น จึงต้องมีคนขับรถครับ คนขับรถของ Areis ขับพาวกไปมาเกือบชั่วโมงจนค่ำทั้งๆ ที่
อยู่ไม่ไกลจากออฟฟิศเท่าไหร่ แต่ด้วยพิษจราจรอันติดขัด
บ้าน Areis อยู่ในหมู่บ้านคนร่ำรวยครับ มียามเฝ้าหน้าบ้าน มีบ้านเป็นห้องชุด
มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนต ส่วนกลางด้วย Areis คะยั้นคะยอให้ผมไปใช้บริการ แต่ผมบอกแกว่า คงไม่ต้องดีกว่า ออกกำลังจนเบื่อแล้วขอตัวนอนดีก่าครับ
บ้าน Areis นั้น มีคนรับใช้สองคน คนนึงกำลังเรียนปริญญาตรีอยู่ มีหน้าที่ดูแลลูก Areis อีกคนทำงานบ้านอย่างเดียวดูเงียบขรึม
อันทีจริงครอบครัว Areis มีกันแค่สามคน คือภรรยาที่ทำงานอยู่แบงค์ชื่อดัง และลูกชาย ซึ่งเป็นเด็กพิเศษ แต่มีคนใช้สองคน มันเลยดูอบอุ่นกันจนเกือบร้อนเมื่อรวมเอาผมไปด้วยครับ
ก่อนมาบ้าน Areis ไดแอสตี้เที่ยวบอกผมว่า แกเป็นคนร่ำรวยมาก มาเห็นกะตาเลยต้องเชื่อครับ และยังบอกผมว่าแกจะพูดมากเป็นพิเศษ ต้องรีบตัดบท แกพูดด้วยความเป็นห่วงผม
แต่ที่ได้พูดคุยกันกับ Areis เขาเป็นคนที่น่ารักมาก และผมก็ยังชื่นชมในความเป็นพ่อของเขาด้วย จนผมยึดเอาเขาเป็นไอดอล สำหรับในความเสียสละให้ลูกเลยทีเดียว
ที่เล่าไปก็เห็นว่าเขาเป็นคนเพอเฟค์ คือการศึกษาสูง ครอบครัวร่ำรวย มีชาติตระกูล (ดูจากรูปถ่ายจะเห็นว่าคุณพ่อคุณแม่ของ Aries ใส่ชุดราชการชั้นสูง)
แต่นั้นแหละครับ สวรรค์ก็ช่างกลั่นแกล้ง Areis ก็มีเรื่องทุกข์ใจอยู่นั้นคือเรื่องลูก แกบอกกับผมตรงๆ ก่อนที่ผมจะเข้าบ้านเรื่องลูกที่เป็นเด็กพิเศษ และพฤติกรรมซึ่งอาจจะทำให้ผมรำคาญได้
ซึ่งผมบอกว่าไม่เป็นไร และก็ได้เล่นกันกับลูก Areis ซักพัก ซึ่งสิ่งที่ว่าพิเศษนั้นของลูก Areis นั้นคือ น้องเป็นเด็กออทิศติก
ชอบใช้เสียงดัง ดูเหมือนก้าวร้าวและชอบเล่นมือถือมากดเล่นจนบางครั้งลบเอาเบอร์ที่เมมไว้ไปด้วย
Aries ก็เตือนผมว่าให้เก็บมือถือไว้ดีๆ ตลอดเวลา Areis ก็พยายามให้ลูกเล่นกับผม เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ลูก พูดคุยกับลูกอย่างสนุกสนานด้วยรอยยิ้มตลอดเวลา
ผมชื่นชม Areis มากในการดูแลลูกของ เขาใส่ใจ และอดทนมากๆ ทุ่มเทให้กับลูกอย่างที่สุด โดยจ้างพี่เลี้ยงที่ผมพูดถึงในตอนต้นเพื่อดูแลลูก
และ Areis ก็หมั่นพาน้องออกไปสังคมและอธิบายให้ทุกคนฟังอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยหรืออายในกริยาหรือความก้าวร้าวของน้อง เพื่อให้น้องสามมารถปรับตัวเข้ากับสังคมภายนอกได้
ผมรับรู้ความรักและความเสียสละอันยิ่งใหญ่ของทั้งคู่ Areis บอกกับผมว่า เขาห่วงอย่างเดียวว่า ถ้าสิ้นเขาทั้งสองไปลูกเขาจะอยู่อย่างไร ฟังแล้วก็อึ้งครับ
ผมกับ Areis นั่งทานอาหารเย็นด้วยกัน แกมีเครื่องกรองน้ำและสร้างแร่ธาตุอะไรของแกไม่รู้มาโชว์ผมและชักชวนให้ดื่มด้วยกัน
แหะๆ ผมละไม่ค่อยเห็นด้วยเรื่องแร่ธาตุที่แกบอกถึงประโยชน์ต่อร่างกายเลย
ซักพัก ภรรยา Areis ก็กลับมาและร่วมสมทบพูดคุย สอบถามเรื่องราวการเดินทางของผมอย่างสนอกสนใจ
และดูทั้งคู่จะชื่นชอบกับปรัชญาชีวิต ที่ผมเป่าหูให้ฟัง อิ อิ
เมื่อได้เวลาผมก็เลยขอตัวไปนอน เพราผมต้องตื่นตั้งแต่ตีสามเพื่อเดินทางไปยังสนามบิน
Aries บอกผมว่าแกได้จองรถรีมมูซีน ให้แล้ว ส่วนจักรยานผมได้แพ๊คใส่กล่องไว้ตั้งแต่วันที่เสาร์ที่ขี่จักรยานเสร็จและเอามาไว้ที่บ้าน Aries เรียบร้อยแล้วเช่นกัน
ตีสามเป๊งๆๆๆ ผมก็เด้งอัติโนมัติ Aries ก็ตั้งนาฬิกาปลุก และออกมาส่งผมขึ้นรถเพื่อไปที่สนามบิน
พระเจ้าช่วย Aries จัดรถ Alphat (เขียนถูกมั๊ย) คันเบอเริ่มมาให้ ชีวิตนี้เพิ่งจะเคยได้นั่ง ปรกติได้แต่เหลือบดูบนท้องถนน
Aries บอกว่า เขาให้เช็คค่ารถให้กับผมและบอกวิธีใช้ นั้นคือ กรอกเงินตามมิเตอร์ที่เห็น + ค่าทิป ที่ผมจะให้
แล้วบอกก็บอกลา Aries โบกมือบ๊าย บาย
และถือเป็นการโบกมือ ลาเมืองจาการ์ต้า ไปในตัว
ซึ่ง Areis นั้นขับรถไม่เป็น จึงต้องมีคนขับรถครับ คนขับรถของ Areis ขับพาวกไปมาเกือบชั่วโมงจนค่ำทั้งๆ ที่
อยู่ไม่ไกลจากออฟฟิศเท่าไหร่ แต่ด้วยพิษจราจรอันติดขัด
บ้าน Areis อยู่ในหมู่บ้านคนร่ำรวยครับ มียามเฝ้าหน้าบ้าน มีบ้านเป็นห้องชุด
มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนต ส่วนกลางด้วย Areis คะยั้นคะยอให้ผมไปใช้บริการ แต่ผมบอกแกว่า คงไม่ต้องดีกว่า ออกกำลังจนเบื่อแล้วขอตัวนอนดีก่าครับ
บ้าน Areis นั้น มีคนรับใช้สองคน คนนึงกำลังเรียนปริญญาตรีอยู่ มีหน้าที่ดูแลลูก Areis อีกคนทำงานบ้านอย่างเดียวดูเงียบขรึม
อันทีจริงครอบครัว Areis มีกันแค่สามคน คือภรรยาที่ทำงานอยู่แบงค์ชื่อดัง และลูกชาย ซึ่งเป็นเด็กพิเศษ แต่มีคนใช้สองคน มันเลยดูอบอุ่นกันจนเกือบร้อนเมื่อรวมเอาผมไปด้วยครับ
ก่อนมาบ้าน Areis ไดแอสตี้เที่ยวบอกผมว่า แกเป็นคนร่ำรวยมาก มาเห็นกะตาเลยต้องเชื่อครับ และยังบอกผมว่าแกจะพูดมากเป็นพิเศษ ต้องรีบตัดบท แกพูดด้วยความเป็นห่วงผม
แต่ที่ได้พูดคุยกันกับ Areis เขาเป็นคนที่น่ารักมาก และผมก็ยังชื่นชมในความเป็นพ่อของเขาด้วย จนผมยึดเอาเขาเป็นไอดอล สำหรับในความเสียสละให้ลูกเลยทีเดียว
ที่เล่าไปก็เห็นว่าเขาเป็นคนเพอเฟค์ คือการศึกษาสูง ครอบครัวร่ำรวย มีชาติตระกูล (ดูจากรูปถ่ายจะเห็นว่าคุณพ่อคุณแม่ของ Aries ใส่ชุดราชการชั้นสูง)
แต่นั้นแหละครับ สวรรค์ก็ช่างกลั่นแกล้ง Areis ก็มีเรื่องทุกข์ใจอยู่นั้นคือเรื่องลูก แกบอกกับผมตรงๆ ก่อนที่ผมจะเข้าบ้านเรื่องลูกที่เป็นเด็กพิเศษ และพฤติกรรมซึ่งอาจจะทำให้ผมรำคาญได้
ซึ่งผมบอกว่าไม่เป็นไร และก็ได้เล่นกันกับลูก Areis ซักพัก ซึ่งสิ่งที่ว่าพิเศษนั้นของลูก Areis นั้นคือ น้องเป็นเด็กออทิศติก
ชอบใช้เสียงดัง ดูเหมือนก้าวร้าวและชอบเล่นมือถือมากดเล่นจนบางครั้งลบเอาเบอร์ที่เมมไว้ไปด้วย
Aries ก็เตือนผมว่าให้เก็บมือถือไว้ดีๆ ตลอดเวลา Areis ก็พยายามให้ลูกเล่นกับผม เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ลูก พูดคุยกับลูกอย่างสนุกสนานด้วยรอยยิ้มตลอดเวลา
ผมชื่นชม Areis มากในการดูแลลูกของ เขาใส่ใจ และอดทนมากๆ ทุ่มเทให้กับลูกอย่างที่สุด โดยจ้างพี่เลี้ยงที่ผมพูดถึงในตอนต้นเพื่อดูแลลูก
และ Areis ก็หมั่นพาน้องออกไปสังคมและอธิบายให้ทุกคนฟังอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยหรืออายในกริยาหรือความก้าวร้าวของน้อง เพื่อให้น้องสามมารถปรับตัวเข้ากับสังคมภายนอกได้
ผมรับรู้ความรักและความเสียสละอันยิ่งใหญ่ของทั้งคู่ Areis บอกกับผมว่า เขาห่วงอย่างเดียวว่า ถ้าสิ้นเขาทั้งสองไปลูกเขาจะอยู่อย่างไร ฟังแล้วก็อึ้งครับ
ผมกับ Areis นั่งทานอาหารเย็นด้วยกัน แกมีเครื่องกรองน้ำและสร้างแร่ธาตุอะไรของแกไม่รู้มาโชว์ผมและชักชวนให้ดื่มด้วยกัน
แหะๆ ผมละไม่ค่อยเห็นด้วยเรื่องแร่ธาตุที่แกบอกถึงประโยชน์ต่อร่างกายเลย
ซักพัก ภรรยา Areis ก็กลับมาและร่วมสมทบพูดคุย สอบถามเรื่องราวการเดินทางของผมอย่างสนอกสนใจ
และดูทั้งคู่จะชื่นชอบกับปรัชญาชีวิต ที่ผมเป่าหูให้ฟัง อิ อิ
เมื่อได้เวลาผมก็เลยขอตัวไปนอน เพราผมต้องตื่นตั้งแต่ตีสามเพื่อเดินทางไปยังสนามบิน
Aries บอกผมว่าแกได้จองรถรีมมูซีน ให้แล้ว ส่วนจักรยานผมได้แพ๊คใส่กล่องไว้ตั้งแต่วันที่เสาร์ที่ขี่จักรยานเสร็จและเอามาไว้ที่บ้าน Aries เรียบร้อยแล้วเช่นกัน
ตีสามเป๊งๆๆๆ ผมก็เด้งอัติโนมัติ Aries ก็ตั้งนาฬิกาปลุก และออกมาส่งผมขึ้นรถเพื่อไปที่สนามบิน
พระเจ้าช่วย Aries จัดรถ Alphat (เขียนถูกมั๊ย) คันเบอเริ่มมาให้ ชีวิตนี้เพิ่งจะเคยได้นั่ง ปรกติได้แต่เหลือบดูบนท้องถนน
Aries บอกว่า เขาให้เช็คค่ารถให้กับผมและบอกวิธีใช้ นั้นคือ กรอกเงินตามมิเตอร์ที่เห็น + ค่าทิป ที่ผมจะให้
แล้วบอกก็บอกลา Aries โบกมือบ๊าย บาย
และถือเป็นการโบกมือ ลาเมืองจาการ์ต้า ไปในตัว
แก้ไขล่าสุดโดย Bike Addict เมื่อ 20 พ.ย. 2010, 08:11, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
- DraftBeer
- ขาประจำ
- โพสต์: 4495
- ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2008, 17:08
- Tel: 0814461178
- team: รั้งท้ายทีมลื่นไหล
- Bike: Dale-Red, Venge-Red, Titanos-XX1, Tendem, CRF250X, MSX
- ตำแหน่ง: 15 ซ.ผาสุก2 ถ.กาญจนวนิช อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110
- ติดต่อ:
Re: ทัวร์เดี่ยว ตอน "WoW!!! Indonesia"
บิ้วรมณ์ขึ้นแล้วเหรอ
>> ☞ ห า ด ใ ห ญ่ ลื่ น ไ ห ล ► ► ► ► ที ม เ ร า ไ ม่ ไ ด้ มี แ ค่ จั ก ร ย า น !
ถึงพวกเราจะไม่นำหน้าสุด แต่ก็ไม่เคยหลุดจากขบวน............รั้งท้าย team
ถึงพวกเราจะไม่นำหน้าสุด แต่ก็ไม่เคยหลุดจากขบวน............รั้งท้าย team
- Bike Addict
- ขาประจำ
- โพสต์: 2521
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2008, 15:11
- team: หาดใหญ่ลื่นไหล
- Bike: Canyon Ultimate CF SLX, Trek 520,
Re: ทัวร์เดี่ยว ตอน "WoW!!! Indonesia"
กะให้จบจะได้ไม่ข้ามปี คร๊าบบบบDraftBeer เขียน:บิ้วรมณ์ขึ้นแล้วเหรอ
- วุด ส้มบางมด..ครับ
- ขาประจำ
- โพสต์: 1359
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 19:29
- Tel: 081-4896586
- team: บางมด
- Bike: Fuji,สับถังเก่าๆ
Re: ทัวร์เดี่ยว ตอน "WoW!!! Indonesia"
อินโดฯจบได้ประทับใจ ติดตามชมภาคต่อ เส้นทางยังอีกยาวไกลเหนื่อยก็พักไหวก็ไปต่อ สู้ๆครับ
ไม่มีครั้งสุดท้ายของการเริ่มต้น การพ่ายแพ้มันก็แค่ประสบการณ์
- Bike Addict
- ขาประจำ
- โพสต์: 2521
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2008, 15:11
- team: หาดใหญ่ลื่นไหล
- Bike: Canyon Ultimate CF SLX, Trek 520,
Re: ทัวร์เดี่ยว ตอน "WoW!!! Indonesia"
อิ อิ คุณวุด พูดซะน่ากลัวจริง ผมกะจะชิงปิดทริปกันที่ จาการ์ต้า เสียเลย แหะๆ บอกตามตรงสรุปทริปนี้มันใช้เวลาและกินเวลาเยอะทีเดียวครับวุด ส้มบางมด..ครับ เขียน:อินโดฯจบได้ประทับใจ ติดตามชมภาคต่อ เส้นทางยังอีกยาวไกลเหนื่อยก็พักไหวก็ไปต่อ สู้ๆครับ
- Bike Addict
- ขาประจำ
- โพสต์: 2521
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2008, 15:11
- team: หาดใหญ่ลื่นไหล
- Bike: Canyon Ultimate CF SLX, Trek 520,
Re: ทัวร์เดี่ยว ตอน "WoW!!! Indonesia"
ในความมืดผมมองออกไปจากหน้าต่างรถ ผมก็เห็นความเงียบสงบ เส้นทางไฮเวย์ที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตาที่มองเห็นได้จากไฟส่องสว่าง
จาการ์ต้าในเช้ามืดในวันนี้มันดูสงบ เงียบ เหมือนอาลัยอาวรณ์กับผมที่จะจากไป แต่แท้จริงแล้วมันเป็นความรู้สึกของผมในตอนนั้นต่างหากละ
ที่อาลัยอาวรณ์ต่อมัน อินโดนีเซีย ประเทศที่ตอนแรกคิดว่า คงจะหามิตรจากผู้คนไม่ได้ และคงจะต้องคอยระมัดระวังตัวให้รัดกุมเวลาจะเดินทางในประเทศนี้
แต่ฉไนสิ่งที่ผมได้ผมได้พบประสบมามันช่างตาลปัตรแบบหน้ามือหลังฝ่าเท้า มันน่าหัวเราะกับความโง่เขลาของผมในตอนนั้น
สิ่งที่ผมได้พานพบเจอะเจอล้วยมีแต่ ความเป็นมิตร การช่วยเหลือ ความมีน้ำใจของผู้คนที่น่ารัก และกอร์ปกับบความสวยงามของภูมิประเทศที่สวยงามวิจิตรที่ผมได้เจอ
ทำเอาในเวลานี้ผมรู้สึกหวั่นหวั่นใจจริงๆ ที่กำลังจะจากประเทศนี้ไปเลย แล้วผมคงได้มาเยี่ยมเธออีกนะ เมืองชวาที่รัก
เมื่อไปถึงยังสนามบิน ผมก็กรอกเช็คเพื่อจ่ายเงินให้กับคนขับรถ และให้ทิปไป 10000 RP
เมื่อผมขนของลงจากรถโดยมีคนรถช่วยกันยกจักรยานมาให้ ผมตัดสินใจเรียกรถเข็นบริการที่สนามบินเพื่อขนจักรยานไปเช๊คอิน
คนเข็นช่วยบริการผมเป็นอย่างดีเลยทีเดียว ตอนที่เช็คอิน ผมต้องแยกเอาจักรยานไปโหลดในช่องสำหรับโหลดของ โอเวอร์ไซค์ เขาก็ตามไปส่งถึงที่
ผมมีปัญหาเล็กน้อยกับสายการบิน สิงคโปร์แอร์ไลน์ เพราะน้ำหนักผมเกินอยู่ ต้องจ่ายเงินอีก 10000 บาท แต่ผมขอถ่ายเอาของบางอย่างใส่กระเป๋าที่จะหิ้วขึ้นเครื่อง
เพื่อลดน้ำหนัก แต่ก็ยังเกินอีกอยู่ดี คิดไว้ในใจว่ายังดีกว่าเสียเต็ม แต่เมื่อไปโหลดปรากฏว่าทางสายการบินไม่ได้คิดน้ำหนักเพิ่มแต่อย่างไร โอ้ แท้งก์ก๊อด
ที่สนามบินนี้จะต้องจ่ายค่าภาษีสนามบินแยกต่างหากจากค่าตั๋วที่เราซื้อมาครับ ดังนั้นผมจึงต้องจ่ายค่าภาษีสนามบินที่เคาน์เตอร์เช๊คอินด้วย
คนเข็นของก็ยังเข็นเอากระเป๋าท้ายใบเล็กของผมตามผมไปอีก จนผมบอกไม่เป็นไรแล้วผมขนเองได้แล้ว
และก็มอบน้ำใจเป็นเงินอินโดนีเซียที่เหลือในกระเป๋า เกือบ 25000 RP ให้เขาไป เขาทำตาโตแบบไม่เชื่อสายตา
ผมบอกเขาว่า นี้แหละของคุณ แล้วยิ้ม เขาขอบคุณผมใหญ่ เข้ามาจับไม้จับมือ
ผมเดินเข้าไปที่ชั้นสองเพื่อ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ก็เห็นได้ว่ามีชาวอินโดที่ไม่ผ่านตรงตรวจคนเข้าเมืองก็หลายคนเลย
คาดว่าอาจจะมีปัญหาในเรื่องหลักฐานไม่ครบ หรือทางอินโดกลัวว่าพลเมืองเขาจะไปเป็นแรงงานผิดกฏหมายในมาเลย์เซียสิงคโปร์
ผมเดินไปเรื่อยไปยัง Gate เที่ยวบินของผมออกตอน เช้าตรู่เลยคือ 6.00 น. ในเวลานี้เป็นเวลาตีห้า ผมก็เดินเตล็ดเตร่ไปเรื่อยๆ
ร้านค้าต่างในสนามบินยังไม่เปิดบริการ เห็นตู้หยอดเหรียญเครื่องดื่มกระป๋องอยู่ เลยหยอดเอาโค๊กมากินหนึ่งกระป๋องแก้กระหาย
ผมเห็นป้ายอันนี้ แล้วชอบมาก มันบ่งบอกได้ดีถึงความเป็นอาเซียนของเรา ที่มีวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน หากเราเปิดใจและสามัคคีกันในหมู่ประเทศ
เราก็จะมีความยิ่งใหญ่ สามารถคานมหาอำนาจต่างๆ ได้ และพวกเขาเหล่านั้นคงไม่รู้จักเราดีเท่าพวกเรา ครอบครัวอาเซียน
จาการ์ต้าในเช้ามืดในวันนี้มันดูสงบ เงียบ เหมือนอาลัยอาวรณ์กับผมที่จะจากไป แต่แท้จริงแล้วมันเป็นความรู้สึกของผมในตอนนั้นต่างหากละ
ที่อาลัยอาวรณ์ต่อมัน อินโดนีเซีย ประเทศที่ตอนแรกคิดว่า คงจะหามิตรจากผู้คนไม่ได้ และคงจะต้องคอยระมัดระวังตัวให้รัดกุมเวลาจะเดินทางในประเทศนี้
แต่ฉไนสิ่งที่ผมได้ผมได้พบประสบมามันช่างตาลปัตรแบบหน้ามือหลังฝ่าเท้า มันน่าหัวเราะกับความโง่เขลาของผมในตอนนั้น
สิ่งที่ผมได้พานพบเจอะเจอล้วยมีแต่ ความเป็นมิตร การช่วยเหลือ ความมีน้ำใจของผู้คนที่น่ารัก และกอร์ปกับบความสวยงามของภูมิประเทศที่สวยงามวิจิตรที่ผมได้เจอ
ทำเอาในเวลานี้ผมรู้สึกหวั่นหวั่นใจจริงๆ ที่กำลังจะจากประเทศนี้ไปเลย แล้วผมคงได้มาเยี่ยมเธออีกนะ เมืองชวาที่รัก
เมื่อไปถึงยังสนามบิน ผมก็กรอกเช็คเพื่อจ่ายเงินให้กับคนขับรถ และให้ทิปไป 10000 RP
เมื่อผมขนของลงจากรถโดยมีคนรถช่วยกันยกจักรยานมาให้ ผมตัดสินใจเรียกรถเข็นบริการที่สนามบินเพื่อขนจักรยานไปเช๊คอิน
คนเข็นช่วยบริการผมเป็นอย่างดีเลยทีเดียว ตอนที่เช็คอิน ผมต้องแยกเอาจักรยานไปโหลดในช่องสำหรับโหลดของ โอเวอร์ไซค์ เขาก็ตามไปส่งถึงที่
ผมมีปัญหาเล็กน้อยกับสายการบิน สิงคโปร์แอร์ไลน์ เพราะน้ำหนักผมเกินอยู่ ต้องจ่ายเงินอีก 10000 บาท แต่ผมขอถ่ายเอาของบางอย่างใส่กระเป๋าที่จะหิ้วขึ้นเครื่อง
เพื่อลดน้ำหนัก แต่ก็ยังเกินอีกอยู่ดี คิดไว้ในใจว่ายังดีกว่าเสียเต็ม แต่เมื่อไปโหลดปรากฏว่าทางสายการบินไม่ได้คิดน้ำหนักเพิ่มแต่อย่างไร โอ้ แท้งก์ก๊อด
ที่สนามบินนี้จะต้องจ่ายค่าภาษีสนามบินแยกต่างหากจากค่าตั๋วที่เราซื้อมาครับ ดังนั้นผมจึงต้องจ่ายค่าภาษีสนามบินที่เคาน์เตอร์เช๊คอินด้วย
คนเข็นของก็ยังเข็นเอากระเป๋าท้ายใบเล็กของผมตามผมไปอีก จนผมบอกไม่เป็นไรแล้วผมขนเองได้แล้ว
และก็มอบน้ำใจเป็นเงินอินโดนีเซียที่เหลือในกระเป๋า เกือบ 25000 RP ให้เขาไป เขาทำตาโตแบบไม่เชื่อสายตา
ผมบอกเขาว่า นี้แหละของคุณ แล้วยิ้ม เขาขอบคุณผมใหญ่ เข้ามาจับไม้จับมือ
ผมเดินเข้าไปที่ชั้นสองเพื่อ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ก็เห็นได้ว่ามีชาวอินโดที่ไม่ผ่านตรงตรวจคนเข้าเมืองก็หลายคนเลย
คาดว่าอาจจะมีปัญหาในเรื่องหลักฐานไม่ครบ หรือทางอินโดกลัวว่าพลเมืองเขาจะไปเป็นแรงงานผิดกฏหมายในมาเลย์เซียสิงคโปร์
ผมเดินไปเรื่อยไปยัง Gate เที่ยวบินของผมออกตอน เช้าตรู่เลยคือ 6.00 น. ในเวลานี้เป็นเวลาตีห้า ผมก็เดินเตล็ดเตร่ไปเรื่อยๆ
ร้านค้าต่างในสนามบินยังไม่เปิดบริการ เห็นตู้หยอดเหรียญเครื่องดื่มกระป๋องอยู่ เลยหยอดเอาโค๊กมากินหนึ่งกระป๋องแก้กระหาย
ผมเห็นป้ายอันนี้ แล้วชอบมาก มันบ่งบอกได้ดีถึงความเป็นอาเซียนของเรา ที่มีวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน หากเราเปิดใจและสามัคคีกันในหมู่ประเทศ
เราก็จะมีความยิ่งใหญ่ สามารถคานมหาอำนาจต่างๆ ได้ และพวกเขาเหล่านั้นคงไม่รู้จักเราดีเท่าพวกเรา ครอบครัวอาเซียน