ทัวร์ริ่ง / ลาว - ซาปาเวียดนาม

รายงาน/รูป "สรุปทริป" จากที่ได้ปั่นมา
พัทธวรรณ์ K.
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 75
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2015, 16:41
team: ฅนปั่นอิสระ
Bike: Touring เสือหมอบ เสือภูเขา
ติดต่อ:

Re: สรุปทริปทัวร์ริ่ง / ลาว - ซาปาเวียดนาม

โพสต์ โดย พัทธวรรณ์ K. »

18 เมษายน ซาปา ดินแดนโรแมนติก แห่งเวียดนามเหนือ
ตอนที่ 4:แซลมอนเมดอินเวียดนาม

สถานีต่อไปคือ ไปดูบ่อเลี้ยงปลาแซลมอล บริเวณร้านอาหาร Nhà hàng Thác Bạc Sapa đặc sản cá Tầm, cá Hồi ปลาแซลมอน คือ ปลาที่พบกระจายพันธุ์อยู่ในซีกโลกทางเหนือ คือ อเมริกาเหนือ อลาสกา, ไซบีเรีย, ยุโรปเหนือ, เอเชียเหนือ และเอเชียตะวันออก ปลาแซลมอนผสมพันธุ์ในน้ำจืดแต่ชีวิตส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในมหาสมุทร (ปลาน้ำกร่อย) มีเพียงส่วนน้อยที่อาศัยอยู่ในทะเลสาบ ปลาแซลมอนวางไข่ในช่วงฤดูฝน และฤดูหนาวในทะเลสาบน้ำจืด หรือแม่น้ำที่มีปริมาณออกซิเจน ถ้าดูตามแหล่งกำเนิดของปลาแซลมอนแล้วไม่น่าจะสามารถเลี้ยงในภูมิประเทศในแถบอาเซียนได้

แต่วันนี้รัฐบาลเวียดนามหนึ่งในประเทศสมาชิกอาเซียนได้เพาะพันธุ์ปลาแซลมอนได้สำเร็จแล้ว เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสหลุดพ้นจากความยากจน ด้วยความช่วยเหลือของผู้เชี่ยวชาญจากประเทศฟินแลนด์ ฟาร์มปลาแซลมอนอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลเวียดนาม สังกัดกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบท ทำหน้าที่เป็นศูนย์การวิจัยและเพาะพันธุ์ปลาแซลมอน ปลาสเตอร์เจียน ปลาสีขาว ทั้งหมดเป็นพันธุ์ปลาที่นำเข้าจากประเทศฟินแลนด์รวมทั้งอาหารที่ใช้เลี้ยงปลา แหล่งเพาะพันธุ์ทั้งหมดมี 2 แห่ง คือ เมืองซาปา และเมืองดาลัด

เนื่องจากเป็นเมืองที่มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี ทำให้เหมาะแก่การเลี้ยงปลาแซลมอน ที่ต้องเลี้ยงในน้ำที่มีอุณหภูมิระหว่าง 14-22 C เฉพาะเมืองซาปามีผู้เลี้ยงปลาประมาณ 30 ราย ใช้เวลาในการเลี้ยงประมาณ 2-3 ปีจึงสามารถจับขายได้ ราคาเนื้อปลาอยู่ที่ 15 ดอลลาร์/กิโลกรัม ไข่ปลาแซลมอน 60 ดอลลาร์/กิโลกรัม ส่วนปลาสเตอร์เจียนและปลาสีขาวใช้เวลาเลี้ยงเพียง 1 ปีก็สามารถจับขายได้แต่ราคาถูกกว่าและได้รับความนิยมน้อยกว่าปลาแซลมอนมาก เมนูปลาแซลมอนที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด คือ ปลาดิบหรือซาซิมิ และยังเป็นเมนูยอดนิยมของที่นักท่องเที่ยวจากประเทศไทยอีกด้วย

นอกจากฟาร์มปลาแซลมอนจะวิจัยและเพาะพันธุ์ปลาแล้วยังเลี้ยงเพื่อขายให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาดูงานของฟาร์มได้ทานเนื้อปลาแบบสดๆ ใหม่ๆ จากฟาร์มอีกด้วย (ข้อความบางส่วนคัดมาจากบทความส่วนอาเซียน สำนักการประชาสัมพันธ์ต่างประเทศ)




ประมาณ 12:00น. ก็มาถึงบริเวณบ่อเลี้ยงปลาแซลมอล บริเวณร้านอาหาร Nhà hàng Thác Bạc Sapa đặc sản cá Tầm, cá Hồi จริงๆ แล้วไม่สนใจมาดูปลาแต่มันอยู่ในแพคเกจทัวร์เส้นทางวันนี้นะ ยอมรับนะว่าเป็นคนชอบกินปลาดิบเป็นชีวิตจิตใจ ไม่รู้ทำไมวันนั้นลืมนึกอยากกิน มาถึงถิ่นปลาแซลมอล ยืนประชันหน้าปลาระยะประชิดแหวกว่ายตัวเป็นๆ อวดโฉมไปมา เชื้อเชิญกินฉันสิ กินฉันสิ ดูเพลินลืมนึกกินเลย อดได้กินเล้ย
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ

ข้องบ่อปลาเจอน้องหมาล่ามโซ่ไว้กันโขมย เพราะคนที่นี่กินน้องหมา
รูปภาพ
แก้ไขล่าสุดโดย พัทธวรรณ์ K. เมื่อ 14 เม.ย. 2018, 12:45, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
พัทธวรรณ์ K.
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 75
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2015, 16:41
team: ฅนปั่นอิสระ
Bike: Touring เสือหมอบ เสือภูเขา
ติดต่อ:

Re: สรุปทริปทัวร์ริ่ง / ลาว - ซาปาเวียดนาม

โพสต์ โดย พัทธวรรณ์ K. »

18 เมษายน ซาปา ดินแดนโรแมนติก แห่งเวียดนามเหนือ
ตอนที่ 5: สวน Nha Hang Mong Mu Sapa

สวนม้งมูสีสันแห่งความฝัน อยู่ริมถนนระหว่างนั่งรถไปขึ้นกระเช้าลอยฟ้าฟานซิปังห่างกันไม่ถึง 10นาที ถามว่าสวนนี้ประทับใจไหม วันนั้นเดินถ่ายรูปโน่นนั่นนี่ก็รู้สึกสวยปกติธรรมดานะ เพราะทำเลดี อากาศดี และธรรมชาติวิวทิวทัศน์ที่นี่ดีอยู่แล้ว ทุกสิ่งรวมกันสวยนะคะ จัดสวนบนพื้นที่ลดหลั่นลาดลงไปตามไหล่เขาเหมือนทุ่งนาบันไดที่นี่ ถ้าเทียบฝีมือสวนนี้ ให้คนไทยได้มีโอกาสมาออกแบบจัดสวน แสดงฝึมือคงเนรมิตสวนนี้ให้กลายเป็นแดนสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ สวยกว่านี้แน่นอนคะ

ระหว่างนั่งในรถมองก้อนเมฆลอยเอื่อยๆ ก็ให้ย้อนนึกถึงปลาแซลมอล อดลืมชิมปลาได้ไงนะ
รูปภาพ
รูปภาพ

ในคลิป เห็นสวนด้านในขาดการดูแลเอาใจใส่พอสมควร


ภาพวิวตกแต่งสวนหย่่อมอยู่ริมถนนบนพื้นที่บริเวณนิดเดียว ด้านมีโต๊ะเก้าอี้จัดเป็นห้องในขายของฝาก และครื่องดื่ม
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ

เดินทะลุสวนดอกไม้ลงบันไดไปชื่นชมวิวจัดสวนดอกไม้ด้านหลัง เป็นสวนดอกไม้ลาดลงตามแนวเขาลักษณะชันดิ่งลงไป ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นวิวภูเขาอีกฝั่งมองเห็นฝูงวัวเดินเล็มหญ้าตามไหล่เขาอย่างสบายใจ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ

ฝั่งตรงข้ามเป็นเขาหัวโล้น นาขั้นบันได และแปลงเกษตร
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
แก้ไขล่าสุดโดย พัทธวรรณ์ K. เมื่อ 14 เม.ย. 2018, 14:06, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
พัทธวรรณ์ K.
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 75
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2015, 16:41
team: ฅนปั่นอิสระ
Bike: Touring เสือหมอบ เสือภูเขา
ติดต่อ:

Re: สรุปทริปทัวร์ริ่ง / ลาว - ซาปาเวียดนาม

โพสต์ โดย พัทธวรรณ์ K. »

18 เมษายน ซาปา ดินแดนโรแมนติก แห่งเวียดนามเหนือ
ตอนที่ 6:Fansipan Mountain
12.50น. เราก็มาถึงจุดขึ้นยอดเขาฟานซิปันสูงสุดในเอเชียใต้ กระเช้าฟานซิปัน เป็นกระเช้าแบบ 3 สายแบบไม่หยุดพัก เป็นเจ้าของสถิติใหม่ที่ยาวที่สุดในโลก โดยมีความยาวถึง 6,292 เมตร หรือ 6 กิโลนะ และมีความสูงต่างของจุดเริ่มและจุดสิ้นสุดถึง 1,410 เมตร เรียกว่าลอยขึ้นไปสูงมากกิโลกว่ากันเลยทีเดียว ใช้เวลา 15 - 20 นาทีเพื่อไปถึงยอดฟานซิปัน พี่มายอยากขึ้นจังเลยคะ อยากจะเจอกับอะไรที่แตกต่างจากปั่นบ้าง ถ้าได้ขึ้นคงจะสนุก วิงคงจะสวย ความมันส์ ความตื่นตาตื่นใจ ความตื่นเต้นต้องมีกลับไปเล่าสู่ครอบครัวฟังแน่ๆ ถือว่าเป็นเหตุผลที่ดั้นด้นมาที่ซาปา ตั้งใจจะล่องลอยฝ่าหมอกหนาทึบวันนี้ให้ทะลุฟ้า ฟ้า..า....า.... ล่องลอยวิ่งขึ้นทะลุเมฆ เมฆ ..ฆ ..ฆ แต่หมอกตอนนี้หนาเหลือเกิน ฝนก็ตกๆหยุดๆ บรรยากาศช่างไม่เป็นใจ ถามว่าไปได้ไหมก็ได้นะแต่ไปถึงแล้วก็ไม่เห็นวิว วิว ..ว ..ว ไม่เห็นอะไร ไม่เห็นแม้แต่กระเช้า ไม่เห็นแม้แต่ผู้คน หรือพรรคพวกตัวเองเดินอยู่ไหนกันบ้าง ฟ้าปิดทั้งวันชั่งน่าเสียดายจัง ค่าขึ้นกระเช้า 600,000 ดอง แต่ต้องเดินขึ้นเขาอีก 600 ขั้น สำหรับคนที่แก่ หรือเด็กเล็กมีบริการรถรางขึ้นไปจนถึงยอดเขาคิดเพิ่มคนละ 100,000 ดอง เด็กต่ำกว่า 100 เซนติเมตรฟรี ทำให้สามารถเที่ยวได้ทั้งครอบครัว ไม่ต้องทิ้งคนแก่ให้นั่งรอด้านล่าง

นี่ก็บ่ายโมงแล้วเห็นหมอกเบื้องหลังพวกเราไหมคะ จางลงซะที่ไหน ล่องลอยขาวโพลนยังกับกระดาษ A4 ไหลเอื่อยผ่านมาแล้วก็ผ่านไปเป็นระลอกๆ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ

เนื่องจากตรงนี้เป็นสถานที่กว้าง ถูกตกแต่งประดับประดาสวยงามที่แตกต่างกันแต่ละจุดที่เดินผ่าน พวกเราทั้ง 9คนถูกสะกดดึงดูดเดินกระจัดกระจายแยกย้ายกันหายแว๊ปไปในสายหมอก
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ


ท่ามกลางสายหมอกที่ลงหนาจัดดูเหมือนกับว่าพี่มายเดินหลงทางอยู่คนเดียว จึงเซลฟี่ถ่ายตัวเองเป็นหลักฐานไว้ ถ้าถูกลักพาตัวไปจะรู้ว่าคนสวยใจเสาะอยู่ตรงนี้
รูปภาพ
รูปภาพ

เห็นพี่เล็กเดินคนเดียวตรงนั้นด้านข้างเวที ตามไปดีกว่า
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ

เดินกับพี่เล็กไปเรื่อยๆ ไม่เจอกระเช้า ไม่เจอใครไม่รู้จะเดินไปทิศใด หมอกบดบังทุกสิ่งอย่างมองไปทางไหนก็ขาวโพลน
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ

หมอกทำให้เดินหาสถานีขึ้นกระเช้าไม่เจอ ว๊าาาาา ความฝันจะได้เหาะ ได้ลอยละลิ่วทะลุฟ้าทะลุเมฆพังลงหล่ะทีนี้ ฝนเริ่มปรอยลงมาอีกแล้ว ทำไงดีคะ ชวนพี่เล็กเดินกลับไปที่รถดีกว่า เห็นมีรถคันอื่นๆมีจอดเพิ่มขึ้น
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ

จึงต้องวิ่งกลับขึ้นรถถึงที่พักอย่างถอดใจ
รูปภาพ
แก้ไขล่าสุดโดย พัทธวรรณ์ K. เมื่อ 14 เม.ย. 2018, 14:53, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
พัทธวรรณ์ K.
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 75
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2015, 16:41
team: ฅนปั่นอิสระ
Bike: Touring เสือหมอบ เสือภูเขา
ติดต่อ:

Re: สรุปทริปทัวร์ริ่ง / ลาว - ซาปาเวียดนาม

โพสต์ โดย พัทธวรรณ์ K. »

18 เมษายน ซาปา ดินแดนโรแมนติก แห่งเวียดนามเหนือ
ตอนที่ 7: เดินชิวๆชมเมืองซาปา
โบสถ์คริสต์เมืองซาปาเป็นสัญลักษณ์ของเมือง มีคนเอ่ยว่าถ้ามาถึงเมืองซาปาแล้ว แต่ไม่มาบริเวณจัตุรัสใจกลางเมืองตรงที่ตั้งของโบสถ์คริสต์เก่าๆ นี้ซึ่งเป็นศูนย์กลางของเมืองซาปา และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวคริสต์ที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้ ถือว่ามาไม่ถึงซาปา เพื่อแสดงจุดยืนว่าพวกเรามาถึงแล้วนะ ก็นัดรวมตัวกันยืนยิงรูปสองสามรูปพอเป็นพิธีหน้าโบสถ์คริสต์ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่เบื้องหลังเรา จากหน้าโบสถ์คริสต์มองข้ามเลยต้นสนไปจะเห็นถนนสองเส้นตัดกัน ถนนฝั่งนั้นน่าไปเดินหาอาหารกินจัง บ่ายโมงครึ่งแล้วยังไม่ได้กินอะไรเลย

ท้องร้องแล้วเดินแยกย้ายกลุ่มเลือกร้านอาหารที่มีคนต่างชาติเข้า น่าจะอร่อยกินถูกปากกว่าอาหารพื้นเมือง คิดๆดูมันก็น่าแปลกนะ “แหนมเนือง” อาหารเวียดนามที่ขึ้นชื่อในบ้านเราว่าอร่อยหนักหนา แต่ที่นี่ไม่เห็นมีขาย พี่มายพยายามมองหาร้านขายแหนมเนืองตั้งแต่ข้ามถิ่นมาไม่เห็นสักร้าน ที่นี่พี่มายทดลองสั่งสุกี้มาหนึ่งหม้อ รสชาติจืดชืดเหมือนกินต้มผักใส่น้ำซุปแต่ลืมปรุงรถ น้ำจิ้มสุกี้ปรุงรสก็ไม่มีให้เลย ไม่ใช่สุกี้เหมือนบ้านเรา แต่ขอยอมรับว่าพิชช่าอร่อยมาก และขนมเค้กก็อร่อย

หลังจากนั้นพวกเราก็เดินเท้าไปตามถนนสายหลักชมตลาดในเมืองซาปา มีคนพื้นเมืองขายของให้กับนักท่องเที่ยวสองข้างทาง สินค้าที่วางขายมีทั้งของสดและของแห้งบนถนนภายในเมือง ตลาดเมืองซาปาแบ่งออกเป็นสองชั้น ชั้นล่างเป็นตลาดสดส่วนชั้นบนเป็นตลาดขายเสื้อผ้า พวกของก๊อปปี้ราคาถูกมีเกือบทุกแบรนด์เนมดังๆ แม้แต่เสื้อกันหนาวขนเป็ดถ้าท่านใดมีฝีมือในการคุยถูกใจต่อราคากับร้าน ท่านก็อาจจะได้เสื้อถูกกว่าบ้านเรา 3-4เท่าเลย และสินค้าอีกประเภทของชาวเขาขายเสื้อผ้าขายของชนเผ่าต่างๆ ซึ่งมานั่งเย็บปักถักร้อยกันเป็นแถวสีสันของเสื้อผ้าสวยสดตามสไตล์ ของที่นี่เป็น พี่มายไม่นึกสนใจซื้ออะไรเพราะเดินทางทัวร์ริ่ง กระเป๋าอัดเต็มพิกัดเกินกว่าที่จะยัดอะไรเพิ่มได้อีกแล้ว สักพักก็กลับห้อง

บ่ายโมงครึ่งแล้วหมอกยังปกคลุมทั้งเมืองซาปา ขอย้ำเน้นๆเดือนนี้เดือนเมษายนนะ ประเทศเรากำลังร้อนตับแล๊บดิ้นกระแด่วๆ แต่พวกเรากำลังเดินหนาวกันที่นี่
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ

วันนี้หนาวแค่ไหนมาดูกัน พี่มายใส่เสื้อตั้งห้าตัว
รูปภาพ
รูปภาพ

พี่ลีกับพี่เล็กสองสาวออกไปสนุกสนากับการซ๊อปปิ้งเสื้อกันหนาว เจอร้านที่ลดราคาดีซื้อกระจายใหญ่เลย
แก้ไขล่าสุดโดย พัทธวรรณ์ K. เมื่อ 14 เม.ย. 2018, 15:11, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง
พัทธวรรณ์ K.
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 75
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2015, 16:41
team: ฅนปั่นอิสระ
Bike: Touring เสือหมอบ เสือภูเขา
ติดต่อ:

Re: สรุปทริปทัวร์ริ่ง / ลาว - ซาปาเวียดนาม

โพสต์ โดย พัทธวรรณ์ K. »

18 เมษายน ซาปา ดินแดนโรแมนติก แห่งเวียดนามเหนือ
ตอนที่ 8: ณ สถานีรถบัส ซาปา-ฮานอย
ในที่สุดก็ถึงเวลาจากลาเมืองซาปาเดินทางกลับบ้าน วันเวลาช่างเดินเร็วยิ่งนักยังมีอีกหลายที่ไม่ได้เที่ยวดูรู้เห็น กลุ่มเรา 9คนแตกออกเป็นสองกลุ่มคือ กลุ่มแรกพี่หัวหน้ากบ พี่ดาบ พี่เถ้าแก่น้อย พี่มาย พี่มล พี่กุยจะเดินทางไปฮานอยต่อรถเข้าเวียงจันทร์ แล้วข้ามประตูพรมแดนลาว-ไทยเข้าหนองคายแยกย้ายกันกลับบ้าน และกลุ่มสองคือกลุ่มพี่ลี พี่เล็ก พี่แดงจะเดินทางไปเที่ยวต่อฮาลอง เบย์ อ่าวมรดกโลกของเวียดนาม อ่าวที่มีความสวยงามอันดับที่ 33 ของโลก ประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่ประมาณ 1,960 เกาะ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกาะหินปูนซึ่งก่อตัวมาตั้งแต่เมื่อ 500 ล้านปีที่แล้ว เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ย ทางตอนเหนือของเวียดนาม อยู่ห่างจากกรุงฮานอยที่กลุ่มพี่มายจะขึ้นรถนอนไป 170 กิโลเมตร มันคงจะสวยงามมากๆ พี่มายยังนึกเสียดายย้อนหลังทำไมไม่ตามกลุ่มพี่ลีไปเที่ยวต่อทีเดียวเลย

20.30 พวกเราทั้ง 9ชีวิตก็พร้อมออกเดินทางไปสถานีรถบัส
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ

ที่สถานีขนส่งที่ซาปาเรียบๆง่ายๆ ถามหาห้องน้ำเจ้าหน้าที่ชีไปที่กำแพงโล่งๆ คงหมายความว่าฉี่ใส่กำแพงตรงไหนก็ได้ประมาณนั้นมั้งคะ จากรูปกำแพงด้านข้างรถบัสที่มองเห็นจึงเป็นที่ฉี่ของเรา 555
รูปภาพ

ตรงนี้พี่มายเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกอีกหลายรูป หลังจากผจญภัยด้วยกันมาจนถึงวันนี้ ก็นึกอาวรณ์ไม่อยากจากกันเลย แต่ถึงเวลาก็จำใจต้องแยกย้ายกัน
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ

รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
พัทธวรรณ์ K.
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 75
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2015, 16:41
team: ฅนปั่นอิสระ
Bike: Touring เสือหมอบ เสือภูเขา
ติดต่อ:

Re: สรุปทริปทัวร์ริ่ง / ลาว - ซาปาเวียดนาม

โพสต์ โดย พัทธวรรณ์ K. »

18 เมษายน ซาปา ดินแดนโรแมนติก แห่งเวียดนามเหนือ
ตอนที่ 9:ลาก่อน ซาปา เวียดนาม
10:00น. ลาก่อน ซาปา เวียดนาม ดินแดนแห่งขุนเขาสูงเหนือเมฆ เปรียบดั่งสวรรค์บนดินที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้เขียวขจี มีน้ำตกน้อยๆ ไหลเอื่อยๆ ให้เห็นกระจัดกระจายทั่วไป ตลอดระยะทางระหว่างทางปั่นผ่านตรงไหนพอแลเห็น ก็รู้สึกชุ่มฉ่ำชื่นใจมีความสุขทั้งวัน สมกับเป็นดินแดนสวรรค์ ที่นี่มีเสน่ห์เติมเต็มนักฝันด้วยสายหมอกสลับสายฝนและก้อนเมฆที่แปรปรวนตลอดเวลาน่าตื่นตาตื่นใจไม่น่าบื่อ บรรยากาศก็แสนโรแมนติกแท้ถ้าได้มากับคนรัก บ๊ายบาย ซาปา หวังว่าจะได้เดินทางมาเยือนอีกครั้ง

บรรยากาศภายในรถนอน ซาปา - ฮานอย เป็นรถนอนแบ่งออกเป็นสามแถวแต่ละแถวมีสองชั้น คนขายาวได้นอนชั้นบน คนขาสั้นได้นอนชั้นล่าง สามารถเหยียดนอนได้เต็มตัวเกือบ 170องศา นับดูคร่าวๆประมาณ 30ที่นอน มีผ้าห่มให้ ไม่มีอาหารเครื่องดื่มเสิร์ฟ และภายในรถไม่มีห้องน้ำ รถชนิดนี้ประเทศไทยไม่มีนะ ตอนขึ้นรถทุกคนต้องถอดรองเท้า พี่มายเมารถจึงยานอนหลับหนึ่งเม็ดช่วยได้ แต่ขอแนะนำอย่ากินยานอนหลับขณะเดินทางคนเดียวเด็ดขาดนะ

บรรยากาศภายในรถนอน
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
พัทธวรรณ์ K.
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 75
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2015, 16:41
team: ฅนปั่นอิสระ
Bike: Touring เสือหมอบ เสือภูเขา
ติดต่อ:

Re: สรุปทริปทัวร์ริ่ง / ลาว - ซาปาเวียดนาม

โพสต์ โดย พัทธวรรณ์ K. »

19 เมษายน ฮานอย เสน่ห์ที่แตกต่าง
ตอนที่ 1: เช้านี้ที่ฮานอย
เวลาประมาณ 04.00น. ถูกลูกรถทัวร์ปลุกกะทันหันให้ขนของใต้รถทัวร์ลงข้างทาง ตื่นเดินตามคนอื่นลงมาแบบงงๆ เพราะฤทธิ์ยานอนหลับ และยาแก้อ๊วกตั้งแต่หัวค่ำ จึงสลึมสลืองัวเงียอยากนอนต่อแต่ก็ไม่ได้ ฝนก็ตกปรอยๆพวกเรายืนแอบชายคาห้องแถวอยู่ริมถนนที่ปิดร้านดูว่างเปล่า มองดูทิศไหนก็ไม่เห็นผู้คน รีบประกอบรถเอาโน่นนั่นนี่แขวนและมัดให้ดี พอเสร็จแล้วก็มองไปรอบๆ อีกทีถนนโล่ง ผู้คนไม่มี โดยรอบเงียบกริบ ทำไมไม่มีคนและรถวิ่งเต็มถนนอย่างที่เห็นในทีวีนะ กรุงเทพรถวิ่งทั้งวันทั้งคืนร้านอาหารมีเปิดขายโต้รุ่งตลอดคืน

ปั่นตามกันไปตั้งหลักที่สวนสาธารณะรอบทะเลสาบคืนดาบ เป็นทะเลสาบน้ำจืดและสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงใจกลางกรุงฮานอย น้ำในทะเลสาบโดยปกติจะเป็นสีเขียวจึงได้อีกชื่อหนึ่งว่า "ทะเลสาบหลุกถวี" หรือ "ทะเลสาบน้ำเขียว" ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เป็นเขตเมืองเก่า มีตำนานเล่าขานกันถึงสถานที่แห่งนี้เป็นตำนานการสร้างชาติเวียดนามว่า ในศตวรรษที่ 15 จักรพรรดิเล เหล่ย แห่งราชวงศ์เล ได้ใช้ดาบศักดิ์สิทธิ์ในการขับไล่ชาวจีนแห่งราชวงศ์หมิงที่รุกราน ให้ออกไปจากเวียดนาม ในขณะที่พระองค์ประทับบนเรือ ณ ทะเลสาบแห่งนี้ ก็มีตะพาบยักษ์ตัวหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำและบอกให้พระองค์ส่งดาบนั้นกลับคืนแด่จ้าวมังกร ดาบนั้นก็ได้พุ่งออกจากฝักดาบเข้าไปในปากของตะพาบก่อนที่จะหายกลับลงไปสู่ใต้ผิวน้ำ อันเป็นที่มาของชื่อทะเลสาบคืนดาบ

ถ้าปวดฉี่ปวดหนักคิดจะหาห้องน้ำแถวๆนี้ พวกเราปั่นวนจนรอบทะเลสาบนี้ก็ไม่มี เห็นมีที่หนึ่งเดาว่าเป็นห้องน้ำแต่ก็ปิด พูดจาสื่อสารถามไถ่อะไรกันกับคนที่นี่ก็ไม่รู้เรื่อง เขาฟังเราพูดยังไม่จบแล้วก็หันหน้ากลับไปทำงานตัวเองต่อ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
แก้ไขล่าสุดโดย พัทธวรรณ์ K. เมื่อ 07 ส.ค. 2017, 07:12, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
พัทธวรรณ์ K.
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 75
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2015, 16:41
team: ฅนปั่นอิสระ
Bike: Touring เสือหมอบ เสือภูเขา
ติดต่อ:

Re: สรุปทริปทัวร์ริ่ง / ลาว - ซาปาเวียดนาม

โพสต์ โดย พัทธวรรณ์ K. »

19 เมษายน ฮานอย เสน่ห์ที่แตกต่าง
ตอนที่ 2: วุ่นๆกับการปั่นวนหาห้องพัก

ตั้งแต่นาทีลงจากรถพวกเราก็ออกตะเวนหาที่พัก หาที่ตั้งหลัก ปั่นไปหาหลายแห่งยังไม่เปิด และมีบางแห่งเปิดแต่แพงไป บางแห่งว่างแต่ไม่ยอมรับนักปั่น บางแห่งยอมรับแต่ห้องเป็นห้องรวม10คนขึ้นไปต้องทิ้งจักรยานไว้อีกที่และห้องนอนอยู่อีกที่ ซึ่งนั่นพวกเราไม่ทำแน่ๆ วนหาตลอดเช้าก็ไม่ได้ห้องที่ลงตัวสักทีหรืออาจเพราะว่าสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง แต่พวกเราก็ไม่ล้มเลิกความพยายาม จึงวางแผนใหม่ไหนๆก็ไม่ได้ห้องพักเปลี่ยนเป็นปั่นเที่ยวสถานที่สำคัญแถวนี้ก่อนดีกว่า พอสายๆจึงจะปั่นไปสถานีขนส่งซึ่งอยู่ห่างออกไปอีกประมาณ 7กม. เพื่อติดต่อซื้อตั๋วเดินทางไปเวียงจันทร์

พวกเราปั่นวนมาจนถึงโบสถ์เซนต์โจเซฟนิกายโรมันคาทอลิก ตั้งอยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบคืนดาบ เป็นโบสถ์คริสต์อายุหลายร้อยปีและยังประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอยู่ ชาวเวียดนามจะเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าโบสถ์ใหญ่ ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของเจดีย์ บ่าว เทียน แต่ในยุคที่ฝรั่งเศสเข้ามาปกครองเวียดนามได้ทำลายเจดีย์แห่งนี้ และสร้างโบสถ์คริสต์ขึ้นมาแทนโดยให้เหตุผลว่าเพื่อพัฒนาเวียดนามให้มีโบสถ์ที่สวยงามเหมือนนานาประเทศ บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยร้านอาหาร และบริษัททัวร์ท่องเที่ยวเริ่มทยอยเปิดร้าน พวกเราแวะหาข้อมูลปั่นเที่ยวเพิ่มเติมจาก Google ที่ร้านกาแฟหน้าโบส์ถซึ่งมีห้องน้ำให้ล้างหน้าล้างตาด้วย

พี่มายปั่นออกไปหาห้องพักจนพลัดหลงเกือบจะคลำทางกลับมาหากลุ่มไม่ได้ ตอนนี้ก็นั่งริมทางเดินข้างทะลสาปคืนดาบรอฟังข่าวจากพี่หัวหน้ากบศึกษาและสอบถามข้อมูลจากทางอื่น พอเริ่มสว่างก็มีคนทยอยออกมาเดิน วิ่ง รำไทเก็ก คนเยอะขึ้นๆบ้านเมืองตื่นจากการหลับไหลไม่เงียบเหงาอย่างที่เห็นเมื่อตีสี่ตีห้า
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ

โบสถ์เซนต์โจเซฟนิกายโรมันคาทอลิก
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ

เกือบ 9.20น. พวกเราก็มาถึงสุสานโฮจิมินห์แห่งนี้ เป็นสถานที่เก็บศพของท่านโฮจิมินห์ (อดีตประธาน อันเป็นที่เคารพรักของชาวเวียดนาม) อาคารหินอ่อนและหินแกรนิตรวมถึงไม้เนื้อดีจากทั่วประเทศ เป็นอาคารที่โดดเด่นและสง่างามมาก ด้านในจะพบกับศพโฮจิมินห์ ซึ่งอาบน้ำยาอยู่ในโลงแก้วเพื่อให้ผู้คนที่เข้ามาชมนั้นได้รู้จักกับผู้นำของประเทศเวียดนาม และข้างในสุสานยังมีทหารกองเกียรติยศในชุดเครื่องแบบเต็มยศสีขาวยืนถือดาบปลายปืนยืนรักษาการณ์อยู่ตลอดเวลา ด้านหลังมีสวนสาธารณะที่เงียบสงบร่มรื่นและมีสระน้ำเล็กๆ และบ้านที่สร้างบนเสาสูงซึ่งเชื่อกันว่าเคยเป็นที่อยู่ของโฮจิมินห์เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ .. พวกเราไม่ได้เข้าไปเพราะคิวยาวคงจะเสียเวลามาก และต้องแต่งกายสุภาพ อีกอย่างไม่อยากทิ้งจักรยานโดยไม่มีคนเฝ้า
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
แก้ไขล่าสุดโดย พัทธวรรณ์ K. เมื่อ 07 ส.ค. 2017, 07:05, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
พัทธวรรณ์ K.
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 75
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2015, 16:41
team: ฅนปั่นอิสระ
Bike: Touring เสือหมอบ เสือภูเขา
ติดต่อ:

Re: สรุปทริปทัวร์ริ่ง / ลาว - ซาปาเวียดนาม

โพสต์ โดย พัทธวรรณ์ K. »

19 เมษายน ฮานอย เสน่ห์ที่แตกต่าง
ตอนที่ 3:ปั่นระทึกในเมืองฮานอย
ดินแดนบ้านเมืองแห่งผู้คนขับรถฝีมือขั้นเทพทั้งนั้น ระทึกใจปั่นร่วมกับรถทุกชนิดที่วิ่งบนท้องถนนทั้งรถใหญ่รถเล็ก รถพ่วง และรถถีบทุกชนิด ด้วยจำนวนประชากรในประเทศมากกว่า 90 ล้านคน บวกกับจำนวนของรถมอเตอร์ไซค์ที่มีกว่า 45 ล้านคัน คิดง่ายๆ คือในจำนวนประชากรสองคนจะต้องมีรถมอเตอร์ไซค์หนึ่งคัน จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอย่างใด หากคุณจะเห็นจำนวนของรถมอเตอร์ที่ออกมาวิ่งควักไขว่ในเมืองเป็นจำนวนมาก สำหรับชาวต่างชาติที่ได้เห็นการจราจรที่ประเทศแห่งนี้บวกกับจำนวนมอเตอร์ไซค์บนท้องถนนรวมถึงรถยนต์ เชื่อว่าทุกคนต้องหลุดคำอุทานออกมาไม่คำใด ก็คำหนึ่ง

หากเป็นประเทศไทยการบีบสัญญาณแตรเป็นการสื่อถึงสัญญาณเตือนให้หลบ แต่ที่เวียดนามสัญญาณแตรหมายถึงการบอกให้รถทุกคันในบริเวณใกล้คุณทราบถึงตำแหน่งที่คุณกำลังขับขี่เพราะฉะนั้นต่อให้คุณกดแตรไล่มอเตอร์ไซค์คันข้างหน้า ทำดีที่สุดเขาก็เพียงแค่หันมามองคุณด้วยใบหน้าเย็นชา แล้วหันหน้าขับบังช่องทางคุณต่อไป มีปาดหน้าแบบเนียนๆ และกดดันด้านหลังแบบเนียนๆ มีย้อนศร จึงปั่นรักษาความเร็วไหลตามไปยังงั้นๆ ไม่มีกฎ ไม่มีกติกา ไม่ตื่นตระหนกปล่อยกายใจ ไปใจเย็นๆ แล้วทุกอย่างจึงลงตัว พี่ดาบบอกว่าเบาะแกแข็งไม่ได้ใส่กางเกงเจลซับในมา แต่พอปั่นที่นี่ตื่นตัวตื่นตาระทึกใจจนลืมปวดก้นไปเลย555 (อนุญาตคัดบางข้อความจากคุณจูดัส)

กำลังจะออกจากฮานอยไปติดต่อสอบถามเรื่องซื้อตั๋วที่สถานีบขส.
รูปภาพ

พี่กบกับพี่กุยเก่งในการด้นทางไปบขส. พี่มายเป็นแค่ผู้ตามเหมือนคนตาบอดพาไปทางไหนก็ตามต้อยๆ
รูปภาพ
รูปภาพ

รูปภาพ
รูปภาพ

บขส.ที่นี่มีสองที่นะคะ ที่พี่มายไปไม่รู้ว่าเป็นบขส. ที่ใหม่หรือที่เก่า พวกเราไปถึงเจ้าหน้าที่รถทัวร์ยังไม่เปิดขายตั๋วต้องมาอีกทีหลังบ่ายสองโมง แต่ก็ถามคร่าวๆจากพนักงานขายตั๋วเจ้าอื่นได้ความว่าค่าตั๋วคนละ 500 000ดอง กว่าจะถึงบ่ายสองมีเวลาเหลือตั้งสองสามชั่วโมง จึงปั่นออกอ้อมตามถนนไปกินข้าวหลังบขส. แทบไม่น่าเชื่อว่าร้านนี้มีดักแด้ขาย ปลาน้อยทอด กุ้งทอด ผัดฝักทองอร่อยมากๆ กินอิ่มหนำกันถ้วนหน้าก็ออกปั่นหาที่พักอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาดใส่ พวกเราได้ที่พักห่างออกไปประมาณสามกิโล เจ้าของที่พักใจดีมากมีลูกสาวลูกชายพูดภาษาอังกฤษได้ พยายามช่วยพวกเราติดต่อเรื่องซื้อตั๋วแต่ก็ไม่สำเร็จเพราะยังไม่ถึงเวลาเปิด อาบน้ำแต่งตัวได้นั่งพักผ่อนหย่อนใจในห้องยังไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงดี ยังไม่หายเหนื่อยเลยก็ต้องออกเดินทางอีกแล้ว

สายหน่อยก็เริ่มร้อนขึ้นๆ ร้อนขึ้นเกือบเหมือนเมืองไทยแระ ฝุ่นถนนก็เยอะพอๆกับเมืองไทย เช๊คเอ๊าท์ที่พักเดินทางออกไปบขส.ออกรอบ
รูปภาพ

หลังบ่ายสองก็มาถึงสถานีบขส.มีรถวิ่งเที่ยวเดียวไปเวียงจันทร์ พวกเราได้ตั๋วกันทุกคนจ่ายคนละ 500 000ดอง ค่าจักรยานไม่ต้องเสีย พวกเราก็สามัคคีกันเงียบทำเนียนไม่ถามไถ่ให้มากความ เพราะเห็นความแตกต่างจากรถนอนซาปา - ฮานอย ต้องเสียเงินค่าจักรยาน แต่ทางเข้าไปขึ้นรถทัวร์เพื่อโหลดจักรยานและสัมภาระขึ้นรถ ต้องปั่นจักรยานเลาะกำแพงอ้อมจากที่ขายตั๋วไปเข้าประดูกั้นด้านหลัง มีเจ้าหน้าที่เก็บเงินค่าผ่านทางอีกทีหนึ่งแล้วให้กระดาษสี่เหลี่ยมเล็กๆมา ใบนี้ต้องเก็บไว้ดีนะเพราะต้องยื่นให้รถทัวร์ดูเขาจะเก็บไว้เป็นหลักฐาน และนั่งรอ รอ รอ ระหว่างรอนี้พวกเราถูกกักบริเวณไม่สามารถเดินเข้าออกเพ่นพ่านไปไหนได้ ถ้าไปต้องพกตั๋วไปด้วย รถบัสมีวิ่งเข้าออกๆเข้าออกตลอดเวลา ขณะนั่งรอ รอ รอ พวกเราก็ไม่ได้นั่งอย่างสงบสุขนะ ต้องขยับย้ายเก้าอี้น้อยที่เขาแจกให้นั่งวุ่นวายไปๆมาๆพอสมควร นั่งอยู่เฉยๆได้ไม่เกินสิบห้านาทีเพราะรถถอยเข้าๆออกๆตลอดเวลา
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ

น่าสงสารไหม ต้องใส่กางเกงขาดๆปั่นขาดแบบนี้ตั้งแต่ลาวมาถึงนี่
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ

ลักษณะห้องน้ำถ้าฉี่เฉยๆ คนเวียดนามจะนั่งฉี่โล่งๆแบบนี้
รูปภาพ
แก้ไขล่าสุดโดย พัทธวรรณ์ K. เมื่อ 07 ส.ค. 2017, 11:37, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
พัทธวรรณ์ K.
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 75
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2015, 16:41
team: ฅนปั่นอิสระ
Bike: Touring เสือหมอบ เสือภูเขา
ติดต่อ:

Re: สรุปทริปทัวร์ริ่ง / ลาว - ซาปาเวียดนาม

โพสต์ โดย พัทธวรรณ์ K. »

19 เมษายน ฮานอย เสน่ห์ที่แตกต่าง
ตอนที่ 4:กลับบ้านที่แสนสบาย (ตอนสุดท้าย)
และแล้ววันสุดท้ายของการเดินทางเพื่อตามฝันก็จบลง ขณะนั่งรถนอน 24 ชั่วโมงก็มีเวลานึกทบทวนย้อนหลังถามตัวเอง ทำไมถึงหันเหตัวเองมาเสพติดการเดินทางด้วย 2 ล้อ ทำไมต้องทนลำบากตรากตรำ บางวันทนแดดร้อนทั้งวัน บางวันทนตากฝน บางครั้งทนหนาว ขึ้นเขาทีไรก็เหนื่อยจนมือสั่นขาสั่นใจสั่น วันเดียวกันที่ออกเดินทางสามีกับลูกเดินทางรอบโลก แต่เราเลือกเอาชีวิตมาเสี่ยงภัยข้างถนนในต่างแดนกับพี่ที่เพิ่งรู้จักกัน เพิ่งเห็นหน้าแต่ละคนก็วันเดินทาง เราไม่เคยรู้จักคุ้นเคยกันเลย แต่ตลอดทริปพี่มายค้นพบว่าทุกคนน่ารักมาก สามัคคี มีน้ำใจ ไม่ทอดทิ้งกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกินอดๆอยากๆ เพื่อจุดหมายเดียวกัน กาลเวลาหล่อหลอมใจเราด้วยกัน แต่ละคนมีเสน่ห์ที่แตกต่าง พี่มายรู้สึกรักทุกคนได้ง่ายๆ

ทั้งที่อยู่ที่บ้านก็แสนสุขสบาย คำถามที่ถามตัวเองบ่อยๆ ว่าทำไมถึงชอบท่องเที่ยว 2 ล้อ ทำไมถึงต้องติดใจ 2 ล้อ การปั่นทัวร์ริ่งเป็นการลงทุนที่แพงกว่าปั่นจักรยานชนิดอื่นๆ เพราะต้องจ่ายเงินซื้อแอกเซสซอรีเพิ่ม เช่นพวกอุปกรณ์ และวัตถุที่ต้องพกประกอบการเดินทางหลายอย่าง ได้แก่กระเป๋าทัวร์ริ่ง เครื่องนอน เครื่องครัว เครื่องใช้ส่วนตัว อะไหล่ ฯลฯ

ทุกอย่างที่พี่มายซื้อก็ต้องเน้นคุณภาพและเบาเป็นหลักเพราะว่าไม่มีแรงจะปั่นขนของหนัก ใครๆก็รู้ว่าอะไรก็ตามที่คุณภาพดีและเบา นั่นหมายถึงคุณเอาเงินเก็บที่มีมาแลกกับความชอบ สนองความอยากของคุณด้วยการจ่ายราคา “แพง” พี่มายเอาเงินที่มีมาหายใจทิ้ง เปลี่ยนอะไหล่ถอดเข้าออกไปมา ซื้อโน่นเติมนี่กว่าจะลงตัวตั้งแต่เริ่มปั่นเมื่อสองปีที่แล้ว หมกมุ่นกับเรื่องจักรยานเสียเงินตรงนี้ก็เยอะโขอยู่ แก่แล้วเรี่ยวแรงในการปั่นก็ถดถอยลงๆ ปั่นทีไรก็ช้าล้าหลัง ไม่ทันใคร ส่วนตัวก็ไม่ได้ชอบปั่นนะ แต่ทำไมถึงหยุดไม่ได้ เหนื่อยมาก ล้ามาก ลำบากมาก ทางเลือกในการออกกำลังกายอย่างอื่นใกล้บ้านก็มี ฟิตเนสดีๆแอร์เย็นๆก็มีเยอะแยะ ทำไมยังปั่นไม่ยอมเลิกรา ก็แค่คิดในใจดังๆ ออกมาเป็นตัวหนังสือนะ ลาก่อนเวียดนาม ฮานอย เมื่องที่มีเสน่ห์ที่แตกต่าง และแล้วพี่มายก็หลับเพราะฤทธิ์ยาแก้เมารถและยานอนหลับ

นั่งรอ รอ รอเวลารถออกประมาณ 18.30น. รถก็พร้อมออกตรงเวลา การเดินทางรถทัวร์คันนี้เราต้องฝากชีวิต 24ชั่วโมงไว้กับคนขับเท่านั้น ทั้งที่เห็นๆอยู่ว่าเขาซ่อมเบรค ง่วนอยู่แถวพวงมาลัยเป็นชั่วโมง ก็ต้องยอมเสี่ยงไปกับเขา รถวิ่งเที่ยวเดียวเลือกหนทางอื่นไม่ได้ ที่ต้องให้ก็คือความเชื่อใจคนขับที่ถ่ายรูปเห็นแต่ก้นไม่รู้จักกันคนนี้
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ

เบาะนอนชั้นล่าง สะดวกกว่าชั้นบนตรงที่เราสามารถเอาขาวางด้านนอกตอนรถแล่นได้ และไม่ต้องกังวลใจถ้าข้าวของหล่นหายขณะหลับ
รูปภาพ

ทดลองขึ้นไปนั่งชั้นบน รู้สึกไม่สะดวกตรงที่ขาของเราต้องแหย่อยู่ในหลืบในโพรงนี้ตลอดเวลา มีพื้นที่จำกัดภายใต้ศีรษะของคนนอนข้างหน้า ซึ่งลักษณะเบาะนอนเกยซ้อนเทินเลยมาเกือบถึงเข่า จึงเป็นไปไม่ได้ว่าเราจะยกขาพาดไปตรงนั้น นอกจากหย่อนห้อยลงมา นั่นก็หมายถึงเท้าคุณลอยเหนือศีรษะคนอื่นที่นั่งอยู่ด้านล่าง ยิ่งบางคนเท้าเหม็นหึ่งมันเป็นการไม่สุภาพอย่างยิ่ง พอรถวิ่งออกเท่านั้นแหละพี่มายก็หลับ หลับได้หลับดีหลับตลอดทาง หลับลึกไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะฤทธิ์ยาจึงพลาดโอกาสรับรู้อะไร จนกระทั่งถูกพี่ดาบสะกิดปลุกให้ตื่นทานข้าว จำได้ว่าจานชามและทุกสิ่งสกปรกเห็นแล้วแทบกลืนไม่ลง ลำไส้ขดขึ้นเองทันใดเหมือนไม่ยอมรับอาหารแต่ก็จำต้องฝืนกลืนลงคอ ในเมื่อเราเดินทางแบบนี้ถึงเวลาแวะกินก็ต้องกินเพราะหนทางข้างหน้าอาจไม่มีอะไรกิน กินเสร็จแล้วก็เดินขึ้นไปนั่งรอคนอื่นเผลอนอนหลับต่อ
รูปภาพ

เช้าตรู่พี่ดาบก็สะกิดปลุกให้ตื่นอีกว่าถึงด่านประตูข้ามพรมแดนเวียดนามชื่อด่านจอหลอ ด่านลาวชื่อด่านน้ำพาวแขวงบริคำไชยของลาว ตั้งอยู่ตรงข้ามกับเมือง Cau Treo แล้วทุกคนก็ลงจากรถไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาเดินหาอะไรกินรองท้องประทังความหิว เดินไปนั่งรอข้ามด่านซึ่งมาถึงก่อนเปิดทำการ 07:00น. หลังจากตรวจคนออกจากเมืองใช้เวลาไม่นานก็ข้ามไปฝั่งลาวได้ ผ่านด่านแล้วก็เดิน เดิน ทุกคนต้องเดินๆ ด่านไม่ห่างกันไม่ไกลมากน่าจะเดินประมาณ 800เมตรเดาเอานะ เพราะเดินขึ้นเนินลงเนิน ก็ยื่นเอกสารฝั่งลาวจำไม่ได้ว่าเสียเงินผ่านด่านนี้ไหม ก็ถึงรถที่มาจอดรออยู่ก่อนแล้วสภาพบรรยากาศภายในรถตอนเช้าหลังตื่นนอน มีสามแถวๆละ 2ขั้น รองรับผู้โดยสารได้เที่ยวละประมาณ 30ที่นอนเหมือนเดิม 555
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ

พอรถวิ่งออกเท่านั้นแหละพี่มายก็หลับๆตื่นๆได้อีกคะ ฤทธิ๋ยาที่หมอจากหลวงพระบางให้มาหลับจริง จึงพลาดโอกาสเห็นระหว่างทางตอนกลางวัน มาสดุ้งตื่นอีกทีก็สายแล้วได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวเพราะรถทัวร์ที่เรานั่งมาด้านพี่มายเบียดกับรถบรรทุกใหญ่ พี่มายลงไปดูรถใหญ่กับรถใหญ่สองคันสวนตรงทางแคบในมุมโค้งห่างกันแค่ไม่ถึงฟุตบนเขา วิสัยทัศน์มุมมองไม่เห็นกันอย่างนี้ย่อมเกิดเหตุได้แน่นอน ดีใจที่รถไม่เสียหายอะไรมากนอกจากรอยครู๊ต ถามไถ่พี่ดาบแกนั่งเบาะใกล้กันได้ข่าวทีหลังว่ารถคันที่เรานั่งมาสภาพไม่ดี เบรกมีปัญหา ตอนที่พี่มายหลับผล๋อยไปรถยังจอดซ่อมต่อตรงที่เรากินข้าวเมื่อคืนอยู่ที่เดิมตั้งนานเพราะอะไหล่ไม่ดีแก้ปัญหาไม่ตก ดีที่พี่กุยลงมือช่วยจึงเดินทางต่อได้

รถคันของเรากับรถคันของเขาเจรจาตกลงกันสักพักก็แยกย้ายขับต่อและแล้วพี่มายก็หลับใหม่อีก ถูกพี่ดาบสะกิดปลุกให้ตื่นอีกว่าถึงเวลาแวะกินข้าวกลางวันก็กินๆ ขึ้นรถอีกก็หลับทันใดอีก555 พี่ดาบสะกิดปลุกให้ตื่นอีกเป็นครั้งสุดท้ายก็เมื่อถึงเวียงจันทร์แล้ว นั่งรถมาราธอนหลับสลบไสลข้ามวันข้ามคืนเกือบ 24ชั่วโมง เราเดินทางกลับบ้านซึ่งเร็วกว่ากำหนดที่พี่มายคาดไว้ตั้งสองวันเพราะสภาพฝนฟ้าและอากาศที่นั่นไม่อำนวย ณ สถานีบขส.เวียงจันทร์เราปรึกษากันว่าจะปั่นกว่า 20กม. ไปประตูพรมแดนข้ามด่านลาว-ไทยเข้าไปหนองคายเลยไหม๊ ความเห็นส่วนใหญ่ตกลงกันว่ากำลังจะเย็นแล้วเหมารถไปดีกว่าราคา 600บาทหารกันแล้วก็คนละ 100บาทเอง


ประมาณ 17.40น.เราก็อยู่ที่ด่านทำเรื่องผ่านด่านไม่นาน
รูปภาพ
รูปภาพ

ทุกคนผ่านด่านเรียบร้อย ออกปั่นตามกันข้ามสะพานลาว-ไทย มาถึงตรงปลายสะพานฝั่งทางด้านไทยเป็นรางรถไฟแนวเฉลียงผ่านถนนแต่ไม่ขนานกันถนน พี่หัวหน้ากบเล่าให้ฟังว่า พี่ชลอที่พี่มายก็รู้จักเคยเกิดอุบัติเหตุแขนหักเพราะล้อจักรยานตกร่องตรงนี้มาแล้ว จึงอยากจะขอเตือนท่านนักปั่นทั้งหลายไว้ ให้ระวังร่องรางรถไฟตรงนี้ทุกครั้ง
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ

ก่อน 21:00น. พวกเราก็ถึงอุดรแวะหาอะไรทานพร้อมหน้าพร้อมตาก่อนแยกย้ายกลับบ้าน และนี่คือภาพแห่งความทรงจำสุดท้ายที่ถ่ายหมู่ เหลือกันแค่ 6ชีวิต
รูปภาพ

ชีวิตคือการเดินทาง อันยาวไกล และนี่ก็คือการเดินทางอีกทริปอันยาวไกลที่สุดด้วย 2ล้อครั้งแรกของพี่มาย ขอขอบคุณพี่หัวหน้ากบ และผู้ร่วมเดินทางครั้งนี้ทุกท่าน พวกเราทุกคนได้ร่วมกันทำฝันจนเป็นจริง และสร้างบรรยากาศอันแสนจะอบอุ่นให้กันไปมาสำเร็จบริบูรณ์แล้ว ประทับใจไม่รู้ลืม พวกท่านน่ารักมาก และที่สำคัญที่สุดคือพวกเราทุกคนถึงบ้านปลอดภัย ขอตั้งจิตอวยพรให้นักปั่นที่เข้ามาอ่านบทความนี้ทุกท่านจงโชคดีมีความสุข จะเดินทางไปกลับทิศใดก็แคล้วคลาดปลอดภัย พระคุณเจ้าคุ้มครองทุกครั้งไป เทอญ. เขียนจากใจพี่มาย คนสวยใจเสาะ
รูปภาพ
แก้ไขล่าสุดโดย พัทธวรรณ์ K. เมื่อ 09 ส.ค. 2017, 09:17, แก้ไขแล้ว 7 ครั้ง
รูปประจำตัวสมาชิก
เขียดขาคำ
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 87
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 มี.ค. 2010, 17:30
Tel: 0836710578
team: นากลาง
Bike: Fuji

Re: สรุปทริปทัวร์ริ่ง / ลาว - ซาปาเวียดนาม

โพสต์ โดย เขียดขาคำ »

จบบริบูรณ์

ขอบคุณเสือมาย , เสือลี , น้องป๋อง. ที่ช่วยเล่าแบ่งปันประสบการณ์ สนุก ตื่นเต้น น่าติดตาม พร้อมแทรกเกร็ดความรู้ หวังว่าสรุปทริปการปั่นนี้จะเป็นประโยชน์และสร้างแรงบันดาลใจให้เพื่อนนักปั่น กล้าที่จะลองท่องไปแบบคุณมาย.

ขออภัยเพื่อนร่วมทริปที่บางเรื่องอาจไม่เป็นไปตามคาด แต่คุยกันแล้วทุกท่านโอเคก็ไม่ซีเรียสครับ. พบกันใหม่ครับ

ปล.จะทำไฟล์แผนที่ และรายละเอียดเส้นทางไว้ให้เพื่อนนักปั่นไว้ดูเป็นไกด์ไลน์เพื่อนำไปประยุกต์ใช้นะครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
sananmunketvit
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 76
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ม.ค. 2013, 20:21
Tel: 0895650940
team: ท่ามะเขือ
Bike: giant xtc

Re: สรุปทริปทัวร์ริ่ง / ลาว - ซาปาเวียดนาม

โพสต์ โดย sananmunketvit »

สาวมายนักเขียนประจำทริปเขียนได้น่าอ่าน น่าติดตามสนุกจะเป็นประโยชน์มีรายละเอียดและข้อมูลให้กับนักปั่นจักรยานทัวร์ริ่งที่จะปั่นซาปา
รูปประจำตัวสมาชิก
ทิวากร
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 6639
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 08:24
Tel: 081-977692สอง
team: ขุนหาญทีม
Bike: เปลี่ยนเป็นเทคแล้ว

Re: สรุปทริปทัวร์ริ่ง / ลาว - ซาปาเวียดนาม

โพสต์ โดย ทิวากร »

สุดยอดการเดินทางครับ
คุณไม่รู้หรอกว่าอะไรคือของปลอม ถ้ายังไม่เคยเห็นของจริง

บึงกาฬ-ชายแดนลาวเวียดนาม-ฮานอย..กดครับ

สำราจเส้นทางสายใหม่ ไปกัมพูชาพริบตาเดียว ชมนครวัด นครธมด้วยกัน..กดเบาๆครับ

อุ้มผาง ทีลอซู ถนนลอยฟ้า http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 6&t=267185

เวียงจันทน์-หลวงพระบาง http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 6&t=332042
รูปประจำตัวสมาชิก
เสือนู๋ลี
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 983
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 พ.ย. 2010, 07:03
team: เสือศรีสวัสดิ์
Bike: LA , Bianchi

Re: สรุปทริปทัวร์ริ่ง / ลาว - ซาปาเวียดนาม

โพสต์ โดย เสือนู๋ลี »

ด้วยความรักและหลงใหลการปั่น ทำให้พวกเราได้มาพบกับทอระมานบันเทิงร่วมกัน

ได้ อ.กบ เสือมาย และ ท่านอื่นๆ ช่วยถ่ายกันทอดข้อมูล และบรรยากาศ อ่านแล้วสนุกค่ะ
พัทธวรรณ์ K.
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 75
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2015, 16:41
team: ฅนปั่นอิสระ
Bike: Touring เสือหมอบ เสือภูเขา
ติดต่อ:

Re: สรุปทริปทัวร์ริ่ง / ลาว - ซาปาเวียดนาม

โพสต์ โดย พัทธวรรณ์ K. »

ดีใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสร่วมเดินทางผจญภัย แบ่งปันประสบการณ์ในต่างแดนกับทุกท่าน ไม่ว่าหนทางจะสวยสดงดงาม หรือไม่สวยงาม หรือเดินทางลำบากลำบนแค่ไหน สิ่งสุดท้ายที่ได้ฝังในใจก็คือ น้ำใจอันดีงามของทุกท่าน ประทับใจในมิตรภาพครั้งนี้ไม่รู้ลืม ขอบคุณมากคะ
ตอบกลับ

กลับไปยัง “สรุปทริป / รายงานการปั่น”