รู้ว่าโดน(ฝน)ก็จะไป...วัดถ้ำเสือ กาญจนบุรี

[เสือหิมาลัย]

ต้องขอโทษด้วยนะคะ ที่ขาดหายไป พอดีติดธุระ เลยไม่ได้โพสค่ะ วันนี้ว่างแล้วมาโพสกันต่อ พอขึ้นมาด้านบน ถ่ายรูปกับพระพุทธรูปและตัววัดแล้ว เราก็เดินไปแุถวระเบียงด้านหลังพระพุทธรูป ได้พบกับภาพท้องนาเรียงรายสวยงาม หายเหนื่อยเลยค่ะ ถ้าเป็นนาขั้นบันได้ คงจะสวยมาก(ฝันอยากไปดูนาขั้นบันไดที่หยวนหยาง(จีน) กับที่ซาปา (เวียดนาม)มาก ตอนนี้ได้ดูแค่นี้ไปก่อนแล้วกันเนอะ

[เสือหิมาลัย]

เวปโหลดไม่ขึ้นอ่ะ

[kaiwateam]

วัดบ้านถ้ำ ยายขายกล้วยฉาบ มีทั้งรสหวาน เค็ม ถุงละแค่ 10.- ขายใกล้ๆ กับทางขึ้นบันได ยังขายอยู่ไหมคับ คิดถึง ของยายอร่อยมาก ราคาไม่แพง 10.- ให้เยอะ แห้งสนิท เก็บได้นานด้วย
ไว้ซ้อมแรงขาดีพอ ถ้าดีพอนะ ปลายปี จะปั่นจากกรุงเทพฯ ไปเขื่อนแม่กลองซักหน่อย ไปกลับ น่าจะ 240 กม. ถ้าไปสำเร็จ จะเอารถยนต์ไปอีกที ไปจอดท่าม่วง แล้วปั่นลุยเส้นทางเดียวกับที่คุณไปนี่แหละคับ เคยไปแต่รถยนต์เหมือนกันคับ

ไม่เจอร้านขายกล้วยฉาบนะคะ อาจเป็นเพราะเป็นวันธรรมดา เลยไม่มาขายก็ได้ค่ะ อันนี้แนะนำเฉยๆนะคะ ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ ปั่นจาก กทม.มาเราว่า รถเยอะ มีแต่ร้านค้า บ้านเรือน ไม่ค่อยมี ธรรมชาติให้มองเท่าไหร่ น่าจะเอาจักรยานใส่รถยนต์ มาจอดไว้กาญฯแล้วปั่นเที่ยวเส้นไทรโยค หรือ ศรีสวัสดิ์ จะได้เห็นธรรมชาติสวยๆ ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ(อันนี้แล้วแต่นะคะ เพราะความสุขของคนไม่เหมือนกัน)

พอดีมีเพื่อนอยู่ท่าม่วงคับ บอกกับเพื่อนว่า จะปั่นจากกรุงเทพฯไปหา แบบว่า จะปั่นไปสักครั้งคับ หลังจากนั้น จะนำรถยนต์ไปอีกครั้ง แล้วจอดที่ท่าม่วง แล้วปั่นเที่ยวเส้นทาง ที่คุณแนะนำนี่แหละคับ
อืม... ไม่รู้ว่าผมจำรถผิดคันไหม??? คือว่า คุ้นๆ รถจักรยานของคุณจัง เหมือนเคยคุยกันเรื่องตะแกรงหลัง ที่ว่า บรรทุกน้ำหนักได้เท่าไร? พอดีผมมีรถสีเดียวกันตะแกรงหลังรุ่นเดียวกันนะคับ

[NO.7]

ติดตามชมครับ สนุกดีครับผม

[ครูหาด]

ติดตามภาพสวยๆ

[เสือหิมาลัย]

ขออภัยอีกรอบ โหลดภาพไม่ขึ้นไม่รู้เป็นที่สัญญาณเน็ต หรือ เป็นที่เว็ป ต่อกันดีกว่า นักท่องเที่ยวมีประปราย อากาศไม่ร้อน เดินถ่ายรูปมุมนั้นมุมนี้ไปเรื่อย

[เสือหิมาลัย]

[เสือหิมาลัย]

[เสือหิมาลัย]

[เสือหิมาลัย]

[เสือหิมาลัย]

ขากลับออกอีกเส้นทางหนึ่ง ผ่านเขื่อนแม่กลอง ปั่นเลียบคลองชลประทาน ออกทางท่าม่วง

[เสือหิมาลัย]

[เสือหิมาลัย]

[เสือหิมาลัย]

เหลือระยะทางกลับอีกประมาณ 15 กม.ปรากฏว่าฝนตกโปรยปรายลงมาให้เปียกเล่น แต่ก็ไม่ถึงหนักมาก ปั่นเย็นๆสบายๆ ตัวเปียกๆ ก็สนุกไปอีกแบบ จริงๆชักติดใจการปั่นจักรยานหน้าฝนมากขึ้น เพราะอากาศดีเย็นสบาย แดดไม่ร้อน เดี๋ยวนี้ก่อนปั่นไปเที่ยวไหนไกลๆเลยต้องดูสภาพอากาศไว้ก่อน ถ้าวันไหนมีเมฆมาก แดดน้อย ฝนปรอยเล็กน้อย ก็ปั่นไกลๆวันนั้นแหละ เวลาแดดร้อนมันเหนื่อยกว่าปกติมากเลย ทรมาน ก็ขอจบทริบเดินทางท่องเที่ยวสั้นๆครั้งนี้ไว้เท่านี้ก่อนนะคะ ไว้ไปไหนจะมาโพสใหม่ ขออภัยที่โพสไม่ต่อเนื่อง หวังว่าจะเป็นเส้นทางหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับใครหลายๆคน แถวท่าม่วงวัดเยอะมาก เลียบแม่น้ำไปเกือบตลอด ร้านอาหารถูก แพง มีตลอดทาง อย่าลืมมาปั่นเที่ยวเมืองกาญนะคะ บาย

[เสือหิมาลัย]

วัดบ้านถ้ำ ยายขายกล้วยฉาบ มีทั้งรสหวาน เค็ม ถุงละแค่ 10.- ขายใกล้ๆ กับทางขึ้นบันได ยังขายอยู่ไหมคับ คิดถึง ของยายอร่อยมาก ราคาไม่แพง 10.- ให้เยอะ แห้งสนิท เก็บได้นานด้วย
ไว้ซ้อมแรงขาดีพอ ถ้าดีพอนะ ปลายปี จะปั่นจากกรุงเทพฯ ไปเขื่อนแม่กลองซักหน่อย ไปกลับ น่าจะ 240 กม. ถ้าไปสำเร็จ จะเอารถยนต์ไปอีกที ไปจอดท่าม่วง แล้วปั่นลุยเส้นทางเดียวกับที่คุณไปนี่แหละคับ เคยไปแต่รถยนต์เหมือนกันคับ

ไม่เจอร้านขายกล้วยฉาบนะคะ อาจเป็นเพราะเป็นวันธรรมดา เลยไม่มาขายก็ได้ค่ะ อันนี้แนะนำเฉยๆนะคะ ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ ปั่นจาก กทม.มาเราว่า รถเยอะ มีแต่ร้านค้า บ้านเรือน ไม่ค่อยมี ธรรมชาติให้มองเท่าไหร่ น่าจะเอาจักรยานใส่รถยนต์ มาจอดไว้กาญฯแล้วปั่นเที่ยวเส้นไทรโยค หรือ ศรีสวัสดิ์ จะได้เห็นธรรมชาติสวยๆ ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ(อันนี้แล้วแต่นะคะ เพราะความสุขของคนไม่เหมือนกัน)

พอดีมีเพื่อนอยู่ท่าม่วงคับ บอกกับเพื่อนว่า จะปั่นจากกรุงเทพฯไปหา แบบว่า จะปั่นไปสักครั้งคับ หลังจากนั้น จะนำรถยนต์ไปอีกครั้ง แล้วจอดที่ท่าม่วง แล้วปั่นเที่ยวเส้นทาง ที่คุณแนะนำนี่แหละคับ
อืม... ไม่รู้ว่าผมจำรถผิดคันไหม??? คือว่า คุ้นๆ รถจักรยานของคุณจัง เหมือนเคยคุยกันเรื่องตะแกรงหลัง ที่ว่า บรรทุกน้ำหนักได้เท่าไร? พอดีผมมีรถสีเดียวกันตะแกรงหลังรุ่นเดียวกันนะคับ

..เหมือนเราเคยคุยกันมาก่อน เรื่องกระบอกน้ำด้วยใช่ป่ะคะ คุ้นๆเหมือนกัน