นับถึงวันนี้ ผมปั่นจักรยานโดยมองมันว่าเป็นการเล่นกีฬามาได้ 1 ปี 2 เดือน เริ่มต้นจากไฮบริดโครโมลี่ อัพมาเป็น MTB และตอนนี้เป็นหมอบครับ (เป็นคนทำงานกินเงินเดือนชอบไปร่วมงานแข่งขันเพื่อเติมพลังชีวิต)ตอนนี้พบตัวเองว่าชอบเร็วมากกว่าชอบลุยครับ แต่อนาคตค่อยว่ากันอีกที
เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ เรื่องการปะยางฮาล์ฟ หรือ tubular ที่รู้กันดีว่ามันเบาและอัดลมได้เยอะ บรรดาเหล่านักปั่นที่จริงจังกับเรื่องน้ำหนัก และนักแข่ง หรือมืออาชีพเขาจึงชอบใช้กัน ผมก็ชอบคุณสมบัติเกือบทุกด้านของมันนะครับ แต่ติดอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ราคาแพง เปลี่ยนยาก และเชื่อกันว่าถ้ารั่วแล้วปะยากหรือปะไม่ได้
พอปั่นหมอบมาได้ระดับนึง "มือใหม่" ที่ก็ยังใหม่อยู่จนถึงตอนนี้ ก็อยากจะ"ลอง"อัพล้อขอบสูงใส่ยางฮาล์ฟเพื่อหวังจะเข้าใกล้ "racing feeling" เข้าไปอีกนิด ผมเลือกล้อและยางอยู่นาน ที่สุดก็พบว่าไม่มีตังมากมายที่จะจ่ายตรงนี้ บ้านยังต้องเช่า ข้าวยังต้องซือ จึงจบลงที่ VISP 50MM (18,500 Bht)+ Vittoria Rally (รวมค่ากาว 2,700 Bht)ยางตัวนี้ถูกสุดที่ผมหาได้ 850Bht ตามกำลังที่มี
ล้อชุดนี้ใช้ดี ถึงดีมากสำหรับ "นักปั่นเพื่อสุขภาพมือใหม่ที่สนใจการแข่งขันเพื่อพัฒนาตนเอง" อย่างผม ปั่นมาได้ 5 เดือน ตามความเห็นส่วนตัวผมพบว่า(บนถนนจริง)ล้อขอบสูงไม่ได้ทำให้ผมปั่นเร็วขึ้น แต่มันทำให้ผมคงความเร็วสูงในระดับที่ผมพอทำได้คือประมาณ 33-38 ได้นานขึ้น แต่แล้ววันหนึ่งผมก็พบกับสถาณการณ์ที่ทุกคนต้องเจอ แต่ไม่อยากจะเจอเลย นั่นก็คือยางหลังรั่ว ยางหน้าบวม
นี่แหละคือเวลาที่จะพิสูจน์ว่าผมตัดสินใจผิดหรือถูกที่เลือกยางฮาล์ฟมาเป็นอาวุธคู่ใจ ถ้าผมผ่านมันไปได้ผมก็จะไม่กลัวอะไรอีกต่อไป(ในเรื่องการเลือกใช้ยาง 555)
ยางหลังผมปะมันด้วย TOFU Extreme 350Bht ใช้เข็มแทงฉีดน้ำยาเข้าไป แทนที่จะเปิดวาล์วเติมลมและบีบน้ำยาเข้าไป เหตุที่ไม่ใช้วิธีหมุนวาล์วออกเพราะจุ๊บลมของยางรุ่นนี้สั้นเกินไปครับ มันไม่โผล่พ้นขอบล้อผมจึงไม่มีทางเลือก(เลือกซื้อยางต้องพิจารณาจุดนี้ด้วยนะครับไม่งั้นอาจเจอแบบผม) การปะด้วยเข็มฉีดยานั้นเป็นไปอย่างทุลักทุเลเพราะน้ำยาปะมันแห้งไวและเกาะตัวกันไว(รูเข็มตันฉัดน้ำยาไม่เข้า)เมื่อโดนอากาศหรือลอดผ่านรูเล็กๆ(ตามความคิดผมนะครับเดาไปเรื่อยครับไม่ใช่ผู้รู้อะไร)เพราะฉะนั้นหากต้องปะด้วยเข็มแนะนำใช้ใช้หัวเข็มเบอร์ 20 หรือกว้างกว่านั้น(ซักเบอร์ 18 น่าจะดีกว่า)ขั้นตอน
-เอาลมออกจากยาง
-ดูดยาใส่หลอดฉีดยาแล้วปิดให้สนิทด้วยหัวเข็มที่มีปลอก รอ
-ยกหรือแขวนล้อให้ลอยตามวิธีที่สะดวก ให้จุดรั่วอยู่ในจุดต่ำสุดน้ำยาจะได้ไหลลงมาอุดได้ดี
-ใช้นิ้วบีบบริเวณแก้มยางเพื่อให้หน้ายางนูนออกมาเพื่อไม่ให้ปลายเข็มทะลุไปอีกด้านที่ติดเข้ากับขอบล้อ(ถ้าทะลุไปละงานเข้าแน่คับ)
-จิ้มเข็มแนวเฉียงประมาณ 45 องศา ฉีดน้ำยาเข้าไปในยาง (จุดฉีดใกล้กับรอยร่ั่วจะทำให้เสียน้ำยาน้อนกว่า)(ขั้นตอนนี้ผมหัวเข็มตันไปประมาณ 5-6 อัน จิ้มไปหลายรู T_T)
-สูบลมที่ประมาณ 100psi (กรณีที่ยางรับได้สูงสุด130psiประมาณ) รอน้ำยารั่วออกมา รอจนน้ำยาเริ่มแห้งสักพัก(แห้งคล้ายๆกัยน้ำยางพาราหล่อแบบที่เราใช้หล่อปูนพลาสเตอร์จอนเด็กๆ)
-เติมลมซ้ำที่ 120psi น้ำยาจะซึมออกมาอีก(น้อยลง) เราก็รออีก
-สูบอีกครั้งที่แรงดันสูงสุดที่ยางรับได้ น้ำยาจะซึมออกมาอีก เราก็รออีก
-ถ้าแผลไม่ใหญ่เกินไปก็น่าจะเรียบร้อย เราก็อัดลมแล้วรอดูอาการ
ทั้งหมดนี้ใช้เวลาพอๆกับการเปลี่ยนยางงัดเลยครับ (ถอดล้อ งัดยางนอกออก ใส่ยางในใหม่ ใส่ยางนอก สูบลม วุ่นวายพอกันครับ 555)
ส่วนยางหน้านี่ผมเครียดครับปลายเดือนละด้วย ยางมันบวมขึ้นมาขนาดประมาณเท่าเม็ดถั่วเหลือง(ลืมถ่ายรูปไว้) ผมคาดว่ามันน่าจะเป็นเพราะโครงยางด้านนอกมันไปบี้กันกรวดอย่างรุนแรงตอนตกหลุมลึกจนโครงยางเสียเลยบวมออกมา แต่ยางในไม่ได้รั่ว(ยางฮาฟมียางในนะครับ) ผมสูบยางทิ้งไว้ ยางก็ไม่รั่วไม่ซึม ผมปั่นมันทั้งบวมๆอยู่ 3 วัน วันละประมาณ 30 กม ก็ยังไม่มีปัญหา (กะให้มันพังแล้วเปลี่ยนไปเลย) ผมเลยคิดอยากจะปะใช้ต่อ
ผมหาข้อมูลในเน็ตอยู่นานว่าควรทำไง แล้วก็พบว่ามันมีวิธีแก้นะ(ถ้าไม่เปลี่ยนยางทิ้งเลย) แต่โคตรยากเลยขอบอก คร่าวๆคือ ต้องถอดยางออกมา กรีดเอาชั้นนอกด้านที่ติดกาวกับขอบล้อของยางออกมา ควักเอาใส้เอายางในออกมา แล้วปะส่วนที่สึกหรอ ยัดใส้(ยางใน)คืน ปิดแผลด้วยการเย็บปิดผิวชั้นนอกที่กรีดออกมา ผมอ่านแล้วพบว่า มันก็มีบางเรื่องนะที่น่าจะยากเกินความสามารถเรา 555 สุดท้ายผมเลยลองวิธีลูกทุ่งๆไปเลยครับ "ไม่ได้อะไร ก้ไม่เสียอะไรยุแล้วนี้นา" ผมคิด แล้วผมก็เริ่มลงมือ
-ผมเอายางในมอเตอร์ไซค์ มาตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า
-เอาลมยางออกเกือบหมด
-ติดแผ่นยางในที่เตรียมมาลงบนจุดที่บวมด้วยกาวตราช้าง
-รอจนแห้ง
-สูบลมประมาณ 80-90psi
-หยอดกาวอีกรอบที่มุมยางที่แปะลงไป
-รอให้แห้ง
-เก็บมุม ปาดเนื้อยางที่แปะลงไปออกเพื่อไม่ให้มันสูงเกินไปเวลาขี่จะเหมือยเหยีบทางต่างระดับอยู่ตลอดเวลา
ยางเส้นนี้หลังจากจัดการกับรอยบวมดังกล่าว ผมปั่นมาได้ 90 กมโดยสูบยางประมาณ 80-90psi ไม่อยากอัดแรงดันเต็มเพราะกลัวมีปัญหา ยางแตกยางรั่วตามมา ยางใช้ได้ดีไม่มีปัญหาครับ ช่วยชะลอเวลาจ่ายเงินผมไปได้พอสมควร(กะใช้ซ้อมไปเรื่อยๆจนพัง 555)เพราะสุดท้ายยังไงก็ต้องเปลี่ยนละครับถ้าคิดจะเอาไปออกงานแข่ง ปลอดภัยไว้ก่อนครับ
สรุป
ความเห็นส่วนตัว ผมอยากบอกว่าไม่ต้องกลัวยางฮาฟ หรือ tubular หรอกครับมันปะได้ แค่เลือกตัวที่ดีหน่อยถอดวาล์วได้เวลารั่ว แต่หากยางบวมก็ซ่อมได้ หรือถ้าอาการไม่แย่มากจะทำแบบผมก็ไม่ว่ากัน แต่ไม่รับรองความปลอดภัยหรือผลที่จะตามมานะครับ ผมแค่อยากเล่าสู่กันฟังว่าผมแก้ปัญหายังไงแค่นั้นครับ
ผมว่ายางงัดถ้ารูใหญ่เกิน ปะไม่ได้ก็ต้องเปลี่ยนเหมือนกันกับยางฮาฟ ยางงัดกับยางในดีเส้นนึงก็ราคาเอาเรื่องเหมือนกันนะครับ ถ้าคุณเป็นคนที่ใช้ยางแพงกว่าเส้นละ 300 บาทผมว่าบวกลบแล้วน่าจะไม่ต่างกันมากนะครับ เลือกที่ชอบเลยครับ
ปล ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวนะครับ ผิดหรือถูกอย่างไร เหมาะไม่เหมาะอย่างไร ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
รูปครับ
ครับ
- 13115691_10154182582864182_1002835190_n.jpg (52.19 KiB) เข้าดูแล้ว 1317 ครั้ง
- 13081934_10154182582774182_585951607_n.jpg (67.22 KiB) เข้าดูแล้ว 1317 ครั้ง
- 13115364_10154182582734182_1122396526_n.jpg (74.55 KiB) เข้าดูแล้ว 1317 ครั้ง
