ทางเท้า ไม่ใช่ทางรถยนต์หรือแมงกะไซ
ผู้ดูแล: น้าเป็ด..., βlue$ushi™, paravatee
กฏการใช้บอร์ด
น้าเป็ด (สัจจา ขุทรานนท์) หัวหน้ากลุ่ม(ผู้ดูแลห้อง1)
๒. βlue$ushi™ (กษิดิ เกษมสวัสดิ์)(ผู้ดูแลห้อง2)
Tel: 081 612 9753,02 589 0804
๓. paravatee (จุฑามณี ภูเดชมณีสถิต น้องออน)(ผู้ดูแลห้อง3)
084-160-5677
น้าเป็ด (สัจจา ขุทรานนท์) หัวหน้ากลุ่ม(ผู้ดูแลห้อง1)
๒. βlue$ushi™ (กษิดิ เกษมสวัสดิ์)(ผู้ดูแลห้อง2)
Tel: 081 612 9753,02 589 0804
๓. paravatee (จุฑามณี ภูเดชมณีสถิต น้องออน)(ผู้ดูแลห้อง3)
084-160-5677
- น้าเป็ด...
- ขาประจำ
- โพสต์: 7348
- ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2008, 16:56
ทางเท้า ไม่ใช่ทางรถยนต์หรือแมงกะไซ
จากกรุงเทพธุรกิจ
๑ มีนาคม ๒๕๕๕
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 974
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ก.ค. 2011, 10:17
- team: ปั่นกินกาเเฟ
- Bike: CAAD
Re: ทางเท้า ไม่ใช่ทางรถยนต์หรือแมงกะไซ
ต้องไปไล่รัฐบาลออกครับน๊าเป็ด ยุให้คนไทยฟุ้มเฟือยนโยบายรถยนต์คันเเรก เเจกเเทปเรต (อันนี้ไม่เกี่ยวอารมส่วนตัวล้วนๆ )ทั้งๆที่รู้ว่าท้องถนนมีพื้นที่เท่าเดิม ยิ่งเพิ่มรถยิ่งติด อนาคตคงยากที่จะมีเลนจักรยานจริงๆจังๆ ถ้าเราไม่ได้นายกเป็นนักปั่นจักรยานครับ
Edit>BlueSushi...พรุ่งนี้ขอลบนะครับ
เห็นด้วยอยู่คำหนึ่ง "เดี่ยวนี้คนหมู่มากเป็นผู้ชนะครับ" นับวันวัฒนธรรมยิ่งถอยหลัง กฎหมายไม่ได้ช่วยอะไรให้มันดีขึ้นเลย
ปัจจัยที่ทำให้จักรยานในเมืองไทยเติบโตช้ ... ร์ได้ครับ)
1. อากาศ เมืองไทยเป็นเมืองร้อน ไม่ใช่เมืองหนาวเหมือนดังสถิติของเมืองที่ใช้จักรยานเยอะๆ
2. พื้นที่ เส้นทาง รวมถึงกฎหมายไม่ได้เอื้ออำนวยให้ความสะดวกมากพอ
3. สภาพเศรษฐกิจเเละฐานะคนไทยส่วนใหญ่เป็นชาวหาเช้ากินคำ ไม่รู้คนอื่นเป็นไหม เเต่ผมเป็นคนหนึ่งที่พยายามปั่นจักรยานไปทำงาน เเต่พบกับคำถามที่น่าหงุดหงิดว่า "ปั่นทำไมจักรยาน ทำไมไม่ขี่มอไซด์ละ" ไอ้ผมก็อยากตอบมันเหลือเกินว่า "เรื่องของ.." ได้เเต่ยิ้ม พูดไรไม่ออก
4. ผมว่าคนอีกมากที่อยากจะขี่จักรยาน ผมวัดจากอะไรนะหรือครับ ผมดูจากการที่คนมองผมปั่น เข้ามาดูรถ เข้ามาสอบถาม เเต่คนเหล่านี้ผมมองว่าเขาไม่รู้จะเริ่มยังไง จะลงทุนกับจักรยานสักคันดีไหม เเล้วมันจะคุ้มไหมเเทนที่จะซื้อรถจักรยานยนต์เเทน ผมบอกได้คำเดียวว่าคุ้ม ลองเเล้วคุณจะรู้!!!
สุดท้ายเลยครับ คนเรานี้หละ จิตสำนึกเริ่มน้อย เอาสบายเย็นๆ ไม่ดำไม่ร้อนไว้ก่อน(ช๊านอยากจะขาว อยากหน้าเกาหลีอย่างเดียว )
สุดท้ายอยากจะบอกว่า ใครทำ ใครได้ครับ การปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพเหมือนการทำบุญ ถ้าเจ้าไม่ทำ ใครหน๋อจะช่วยเจ้า
ปล.บางความเห็นอาจดูรุนเเรงขออภัย
Edit>BlueSushi...พรุ่งนี้ขอลบนะครับ
เห็นด้วยอยู่คำหนึ่ง "เดี่ยวนี้คนหมู่มากเป็นผู้ชนะครับ" นับวันวัฒนธรรมยิ่งถอยหลัง กฎหมายไม่ได้ช่วยอะไรให้มันดีขึ้นเลย
ปัจจัยที่ทำให้จักรยานในเมืองไทยเติบโตช้ ... ร์ได้ครับ)
1. อากาศ เมืองไทยเป็นเมืองร้อน ไม่ใช่เมืองหนาวเหมือนดังสถิติของเมืองที่ใช้จักรยานเยอะๆ
2. พื้นที่ เส้นทาง รวมถึงกฎหมายไม่ได้เอื้ออำนวยให้ความสะดวกมากพอ
3. สภาพเศรษฐกิจเเละฐานะคนไทยส่วนใหญ่เป็นชาวหาเช้ากินคำ ไม่รู้คนอื่นเป็นไหม เเต่ผมเป็นคนหนึ่งที่พยายามปั่นจักรยานไปทำงาน เเต่พบกับคำถามที่น่าหงุดหงิดว่า "ปั่นทำไมจักรยาน ทำไมไม่ขี่มอไซด์ละ" ไอ้ผมก็อยากตอบมันเหลือเกินว่า "เรื่องของ.." ได้เเต่ยิ้ม พูดไรไม่ออก
4. ผมว่าคนอีกมากที่อยากจะขี่จักรยาน ผมวัดจากอะไรนะหรือครับ ผมดูจากการที่คนมองผมปั่น เข้ามาดูรถ เข้ามาสอบถาม เเต่คนเหล่านี้ผมมองว่าเขาไม่รู้จะเริ่มยังไง จะลงทุนกับจักรยานสักคันดีไหม เเล้วมันจะคุ้มไหมเเทนที่จะซื้อรถจักรยานยนต์เเทน ผมบอกได้คำเดียวว่าคุ้ม ลองเเล้วคุณจะรู้!!!
สุดท้ายเลยครับ คนเรานี้หละ จิตสำนึกเริ่มน้อย เอาสบายเย็นๆ ไม่ดำไม่ร้อนไว้ก่อน(ช๊านอยากจะขาว อยากหน้าเกาหลีอย่างเดียว )
สุดท้ายอยากจะบอกว่า ใครทำ ใครได้ครับ การปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพเหมือนการทำบุญ ถ้าเจ้าไม่ทำ ใครหน๋อจะช่วยเจ้า
ปล.บางความเห็นอาจดูรุนเเรงขออภัย
- βlue$ushi™
- ขาประจำ
- โพสต์: 2630
- ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ธ.ค. 2008, 14:43
- Tel: 081 612 9753,02 589 0804
- team: กลุ่มรวมมิตร/LT BIKE/KUKOT/ThaiNCC
- Bike: Jamie(Jamis XC2)/Jinny(Giant DS1 Warp)/Indy(JAVA Fit)/แม่บ้าน/LA Terrano หักไปแร้ววว/เสือเหมา(Mosso676)/BlueZombie(Asama Tandem)/TrinX TandeM 26"/น้องเอก(เขนก) Greenspeed Tadpole Recumbent Trike
- ตำแหน่ง: หลัง ม.ธุรกิจฯ
Re: ทางเท้า ไม่ใช่ทางรถยนต์หรือแมงกะไซ
เพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้เขียน...ดร.สรณรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์ เลขาธิการมูลนิธิโลกสีเขียว
http://www.greenworld.or.th/about
http://www.greenworld.or.th/about
สรุปทริป พี่น้อง สองน่อง ปี๖/๑...ราชภักดิ์ - ชั่งหัวมัน กดครับ
TrinX TandeM 26" กดครับ
facebook>CaseyKasem BlueSushi
TrinX TandeM 26" กดครับ
facebook>CaseyKasem BlueSushi
- น้าเป็ด...
- ขาประจำ
- โพสต์: 7348
- ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2008, 16:56
Re: ทางเท้า ไม่ใช่ทางรถยนต์หรือแมงกะไซ
ผมมองอย่างนี้นะ เดาเดาเอาแบบชาวบ้านไม่รู้เรื่องไม่เข้าใจอะไรเลยว่า อีก ๑๐ ปีข้างหน้า กรุงเทพจะเป็นเมืองจักรยาน เพราะว่า
๑ ประกอบไปด้วยคนหาเช้ากินค่ำ และคนชั้นกลาง กว่าครึ่งซึ่งหนีไม่ออกกับสภาพเศรษฐกิจที่จะต้องเจอน้ำมันราคาสองลิตรร้อย อันนี้แน่แน่
๒ ทุกอย่างจะแพงหมด เพราะน้ำมันเป็นต้นทุนที่เลี่ยงไม่ได้
แค่สองอย่างนี้ ผมว่าไม่นานเกินรอ ทุกคนจะได้เห็น กรุงเทพเป็นเมืองจักรยาน ครับ รัฐบาลมองเห็นปัญหานี้จึงรีบสร้างรถไฟฟ้ามาให้ใช้
คนมีรถจะขับรถยนต์กันน้อยวันลง คนใช้รถไฟฟ้ามากขึ้นแทน ใช้รถสาธารณะแทนแต่ถึงอย่างไร พื้นที่ที่ไม่มีรถไฟฟ้า ต้องใช้จักรยานกันมากขึ้นแน่ครับ
ปู๊นปู๊น
๑ ประกอบไปด้วยคนหาเช้ากินค่ำ และคนชั้นกลาง กว่าครึ่งซึ่งหนีไม่ออกกับสภาพเศรษฐกิจที่จะต้องเจอน้ำมันราคาสองลิตรร้อย อันนี้แน่แน่
๒ ทุกอย่างจะแพงหมด เพราะน้ำมันเป็นต้นทุนที่เลี่ยงไม่ได้
แค่สองอย่างนี้ ผมว่าไม่นานเกินรอ ทุกคนจะได้เห็น กรุงเทพเป็นเมืองจักรยาน ครับ รัฐบาลมองเห็นปัญหานี้จึงรีบสร้างรถไฟฟ้ามาให้ใช้
คนมีรถจะขับรถยนต์กันน้อยวันลง คนใช้รถไฟฟ้ามากขึ้นแทน ใช้รถสาธารณะแทนแต่ถึงอย่างไร พื้นที่ที่ไม่มีรถไฟฟ้า ต้องใช้จักรยานกันมากขึ้นแน่ครับ
ปู๊นปู๊น
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 1224
- ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ม.ค. 2009, 23:26
- Bike: GARRY FISHER wahoo n_n
Re: ทางเท้า ไม่ใช่ทางรถยนต์หรือแมงกะไซ
เราอาจจะคิดว่า คนใช้จักรยานเป็นพาหนะประจำวันนั้น มีแค่ไม่เท่าไร เพราะดูจากคนที่เล่นเวบนี้
แต่จริงๆแล้ว เรามองข้ามกลุ่มคนที่ใช้จักรยานอย่างจริงๆจังๆ บางคนสะสมไมล์มากกว่าพวดเราเสียอีก
คือกลุ่มผู้มีรายได้น้อย เช่น ยาม ภารโรง คนกวาดขยะ อาจเพราะรถของเขาราคาถูก และไม่ได้เล่นเวบ จึงถูกมองข้ามไป
แต่จริงๆแล้ว เรามองข้ามกลุ่มคนที่ใช้จักรยานอย่างจริงๆจังๆ บางคนสะสมไมล์มากกว่าพวดเราเสียอีก
คือกลุ่มผู้มีรายได้น้อย เช่น ยาม ภารโรง คนกวาดขยะ อาจเพราะรถของเขาราคาถูก และไม่ได้เล่นเวบ จึงถูกมองข้ามไป
ผมชื่อพลครับ
ผมเป็นแค่ Novice
ผมเป็นแค่ Novice
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 974
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ก.ค. 2011, 10:17
- team: ปั่นกินกาเเฟ
- Bike: CAAD
Re: ทางเท้า ไม่ใช่ทางรถยนต์หรือแมงกะไซ
อันนี้จริงอย่างเเรงครับ เคยคิดเหมือนกันว่าคนกลุ่มนี้มีจักรยานอยู่เเล้ว จะทำยังไงให้พาคนกลุ่มนี้ออกมาปั่นจริงๆจังๆได้มั่ง เเต่คิดเเล้วคงอยากamaroqe เขียน:เราอาจจะคิดว่า คนใช้จักรยานเป็นพาหนะประจำวันนั้น มีแค่ไม่เท่าไร เพราะดูจากคนที่เล่นเวบนี้
แต่จริงๆแล้ว เรามองข้ามกลุ่มคนที่ใช้จักรยานอย่างจริงๆจังๆ บางคนสะสมไมล์มากกว่าพวดเราเสียอีก
คือกลุ่มผู้มีรายได้น้อย เช่น ยาม ภารโรง คนกวาดขยะ อาจเพราะรถของเขาราคาถูก และไม่ได้เล่นเวบ จึงถูกมองข้ามไป
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 1224
- ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ม.ค. 2009, 23:26
- Bike: GARRY FISHER wahoo n_n
Re: ทางเท้า ไม่ใช่ทางรถยนต์หรือแมงกะไซ
ผมหมายถึง คนกลุ่มนี้เขาใช้จักรยานจริงจังและมีคนมากกว่าคนในเวบนี้นะครับ แต่เขาไม่เคยเรียกร้องสิทธิ์ในการใช้ถนน
ผมชื่อพลครับ
ผมเป็นแค่ Novice
ผมเป็นแค่ Novice
- nuanchan
- ขาประจำ
- โพสต์: 131
- ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ม.ค. 2011, 11:36
- team: chic chat cycling, sundaybike
- Bike: Impulso,Dahon
- ตำแหน่ง: bkk
Re: ทางเท้า ไม่ใช่ทางรถยนต์หรือแมงกะไซ
คนทั่วไป ที่ใช้จักรยาน ในชีวิตประจำวัน ไม่ได้ปั่นนัดเจอหรือออกทริป ยังมีอยุ่เยอะครับ
แต่ก้โดนเอาเปรียบจากรถใหญ่ได้อยุ่ตลอด เหลือเพียงแค่คน มีอำนาจ ที่จะทำให้การปั่นจักรยานเป็นการปั่นที่ปลอดภัยมากขึ้น และช่วยลดทรัพยากรได้หลายๆด้าน
แต่ก้โดนเอาเปรียบจากรถใหญ่ได้อยุ่ตลอด เหลือเพียงแค่คน มีอำนาจ ที่จะทำให้การปั่นจักรยานเป็นการปั่นที่ปลอดภัยมากขึ้น และช่วยลดทรัพยากรได้หลายๆด้าน
*%#%$%$
- ravinjun
- สมาชิก
- โพสต์: 13
- ลงทะเบียนเมื่อ: 22 พ.ย. 2011, 14:28
- team: ThaiNCC
- Bike: Haro MTB
Re: ทางเท้า ไม่ใช่ทางรถยนต์หรือแมงกะไซ
เห็นด้วยกับน้าเป็ดครับ โดยเฉพาะประเด็นน้ำมันแพง ... แต่ผมห่วงอยู่อย่างเดียวว่า จักรยานก็จะแพงขึ้นจนคนหาเช้ากินค่ำซื้อไม่ไหว เพราะหมู่นี้มีแต่ร้านจักรยานหรูๆแพงๆเปิดใหม่เพิ่มขึ้น แต่ไม่เห็นมีร้านขายจักรยานคนจนเปิดเพิ่มเลย นอกจากที่มีขายตามห้างซุปเปอร์สโตร์ ซึ่งคุณภาพไม่สมราคาน้าเป็ด... เขียน:ผมมองอย่างนี้นะ เดาเดาเอาแบบชาวบ้านไม่รู้เรื่องไม่เข้าใจอะไรเลยว่า อีก ๑๐ ปีข้างหน้า กรุงเทพจะเป็นเมืองจักรยาน เพราะว่า
๑ ประกอบไปด้วยคนหาเช้ากินค่ำ และคนชั้นกลาง กว่าครึ่งซึ่งหนีไม่ออกกับสภาพเศรษฐกิจที่จะต้องเจอน้ำมันราคาสองลิตรร้อย อันนี้แน่แน่
๒ ทุกอย่างจะแพงหมด เพราะน้ำมันเป็นต้นทุนที่เลี่ยงไม่ได้
แค่สองอย่างนี้ ผมว่าไม่นานเกินรอ ทุกคนจะได้เห็น กรุงเทพเป็นเมืองจักรยาน ครับ รัฐบาลมองเห็นปัญหานี้จึงรีบสร้างรถไฟฟ้ามาให้ใช้
คนมีรถจะขับรถยนต์กันน้อยวันลง คนใช้รถไฟฟ้ามากขึ้นแทน ใช้รถสาธารณะแทนแต่ถึงอย่างไร พื้นที่ที่ไม่มีรถไฟฟ้า ต้องใช้จักรยานกันมากขึ้นแน่ครับ
ปู๊นปู๊น
เราไม่ควรไปร่วมแสดงความยินดีเวลาร้านจักรยานแพงๆเปิดใหม่ ปล่อยให้เขาเสียค่าจ้างพรีเซ็นเตอร์เองดีกว่า แต่ควรไปร่วมแสดงความยินดีเวลามีร้านจักรยานคนจนหรือร้านซ่อมจักรยานชุมชนเปิดใหม่ ที่เป็นลักษณะเศรษฐกิจพอเพียงครับ
จุน
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 974
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ก.ค. 2011, 10:17
- team: ปั่นกินกาเเฟ
- Bike: CAAD
Re: ทางเท้า ไม่ใช่ทางรถยนต์หรือแมงกะไซ
^
ผมชอบที่จะมีร้านจักรยานเปิดเยอะๆ ไปไหนก็มีเหมือนเซเวนอีเลเวนยิ่งดีทุกปากซอย ดีกว่าที่จะมีซุ้มยาดองอยู่หน้าปากซอยครับ
ขออธิบายเพิ่มนิดนะครับ การที่ร้านเปิดเยอะมากขึ้นนั้นหมายความว่าราคาของต้องถูกลงตามไปด้วยเนื่องด้วยการเเข่งขันสูงขึ้น ไม่ได้ผูดขาดอยู่ที่เจ้าใดจ้าวหนึ่ง เช่นโปรโมชั่น ช่วงลดราคา กิจกรรม อื่นๆมากมายที่ร้านพวกนี้จะต้องมีเพื่อเรียกลูกค้า ตัวอย่างง่ายๆครับ โทรศัพท์มือถือที่เมื่อก่อนนี้สัก 10 ปีที่เเล้วจะมีสัก 1 ใน 5 คนจะมีสักเครื่อง ร้านเซอวิสก็น้อย ยิ่งราคาไม่ต้องพูดถึงเเพงมาก ลองหันมาดูตอนนี้สิครับคนเริ่มเห็นความสำคัญขอมือถือที่สะดวกในการติดต่อ ร้านดูเเลมากขึ้น ราคาถูกมากมาย ค่าเฉลี่ยต่อหัวมีกันเเทบทุกคน เเล้วลองมองภาพในอนาคตว่าหากคนคิดว่าจักรยานจำเป็นจริงๆเเล้วละก็ จักรยานมันต้องถูกลงอย่างเเน่นอนครับ ถ้าถามผมว่าทำไมผมถึงมันใจนัก ผมมีอีกตัวอย่างหนึ่งในเรื่องราคาจักรยานคือผมเคยขี่รถกึ่งฟิกเกอร์อยู่คันหนึ่ง เมื่อประมาณ 2 ปีที่เเล้วฟิกเกียร์หลายคนยังคงไม่คุ้นหูซึ่งมันมาบูมช่วงปี 54 ที่คนใช้เยอะมากเด็กในซอยปั่นกันเกลื่อนถนน เนื่องด้วยเมื่อก่อนมันเป็นรถที่สวยเนื่องจากรูปทรง สีสัน เเละที่สำคัญมันเเพงเเละไม่ค่อยมีร้านขายอะไหล่พูดง่ายๆว่าหายากมาก คันหนึ่งจึงเริ่มไม่ต่ำกว่าหมื่นบาทเเล้วดูตอนนี้สิครับ 4000 ก็ซื้อได้เเล้วในสเปคที่เรียกว่าใกล้เคียงกับราคาหมื่นเมื่อสองปีที่เเล้ว ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้จะทำยังไงให้คนเริ่มมองเห็นถึงความสำคัญของจักรยานเหมือนที่เขาเห็นความสำคัญของมือถือ โดยอย่าไปมุ่งไปมองว่าทำไมเดี๋ยวนี้จักยานมันถึงเเพงมากนัก ผมว่าจักรยานยี่ปุ่น รถพับญี่ปุ่น ก็สภาพดี ราคาไม่เเพง สามารถใช้งานได้ดี ราคาเอาง่ายๆเลยครับ เท่ามือถือเเต่ซื้อเเล้วคุ้ม ราคาไม่ตก ปั่นจักรยานไปทำงานสักเดือนก็คืนทุนเเล้ว เเล้วที่ว่าเเพงคนจนซื้อไม่ได้ผมว่าไม่จริง เเล้วทำไมมอไซด์ถึงซื้อกันได้ละจริงไหมคร๊าบ
ผมชอบที่จะมีร้านจักรยานเปิดเยอะๆ ไปไหนก็มีเหมือนเซเวนอีเลเวนยิ่งดีทุกปากซอย ดีกว่าที่จะมีซุ้มยาดองอยู่หน้าปากซอยครับ
ขออธิบายเพิ่มนิดนะครับ การที่ร้านเปิดเยอะมากขึ้นนั้นหมายความว่าราคาของต้องถูกลงตามไปด้วยเนื่องด้วยการเเข่งขันสูงขึ้น ไม่ได้ผูดขาดอยู่ที่เจ้าใดจ้าวหนึ่ง เช่นโปรโมชั่น ช่วงลดราคา กิจกรรม อื่นๆมากมายที่ร้านพวกนี้จะต้องมีเพื่อเรียกลูกค้า ตัวอย่างง่ายๆครับ โทรศัพท์มือถือที่เมื่อก่อนนี้สัก 10 ปีที่เเล้วจะมีสัก 1 ใน 5 คนจะมีสักเครื่อง ร้านเซอวิสก็น้อย ยิ่งราคาไม่ต้องพูดถึงเเพงมาก ลองหันมาดูตอนนี้สิครับคนเริ่มเห็นความสำคัญขอมือถือที่สะดวกในการติดต่อ ร้านดูเเลมากขึ้น ราคาถูกมากมาย ค่าเฉลี่ยต่อหัวมีกันเเทบทุกคน เเล้วลองมองภาพในอนาคตว่าหากคนคิดว่าจักรยานจำเป็นจริงๆเเล้วละก็ จักรยานมันต้องถูกลงอย่างเเน่นอนครับ ถ้าถามผมว่าทำไมผมถึงมันใจนัก ผมมีอีกตัวอย่างหนึ่งในเรื่องราคาจักรยานคือผมเคยขี่รถกึ่งฟิกเกอร์อยู่คันหนึ่ง เมื่อประมาณ 2 ปีที่เเล้วฟิกเกียร์หลายคนยังคงไม่คุ้นหูซึ่งมันมาบูมช่วงปี 54 ที่คนใช้เยอะมากเด็กในซอยปั่นกันเกลื่อนถนน เนื่องด้วยเมื่อก่อนมันเป็นรถที่สวยเนื่องจากรูปทรง สีสัน เเละที่สำคัญมันเเพงเเละไม่ค่อยมีร้านขายอะไหล่พูดง่ายๆว่าหายากมาก คันหนึ่งจึงเริ่มไม่ต่ำกว่าหมื่นบาทเเล้วดูตอนนี้สิครับ 4000 ก็ซื้อได้เเล้วในสเปคที่เรียกว่าใกล้เคียงกับราคาหมื่นเมื่อสองปีที่เเล้ว ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้จะทำยังไงให้คนเริ่มมองเห็นถึงความสำคัญของจักรยานเหมือนที่เขาเห็นความสำคัญของมือถือ โดยอย่าไปมุ่งไปมองว่าทำไมเดี๋ยวนี้จักยานมันถึงเเพงมากนัก ผมว่าจักรยานยี่ปุ่น รถพับญี่ปุ่น ก็สภาพดี ราคาไม่เเพง สามารถใช้งานได้ดี ราคาเอาง่ายๆเลยครับ เท่ามือถือเเต่ซื้อเเล้วคุ้ม ราคาไม่ตก ปั่นจักรยานไปทำงานสักเดือนก็คืนทุนเเล้ว เเล้วที่ว่าเเพงคนจนซื้อไม่ได้ผมว่าไม่จริง เเล้วทำไมมอไซด์ถึงซื้อกันได้ละจริงไหมคร๊าบ