ThaiMTB.com

ในนี้อยากให้ลงความเห็นว่าทำไมพวกเรา (ในบอร๋ด Single/Fixed) จึงชอบ และหันมาสนใจ หันมาขี่ ss/fixed กัน โดยไม่พาดพิงรถจักรยานระบบอื่นๆ เว้นเสือจากการเปรียบเทียบที่ชักจูงให้เราหันมาเล่น single speed ครับ

ผมเคยขี่รถมีเกียร์ แต่ก็ได้เริ่มจาก fixed สมัยเป็นเด็ก ราวไ 5-6ขวบ ผมได้รถจักรยานคันแรกขนาดเล็กๆ มีล้อเสริม ขี่ได้สักพักก็ถอดล้อเสริมออก มันไม่มีเบรคมาให้แต่แรก เคยชนร้านหาบเร่ขายเป็ดพะโล้บินกระจายว่อน เพราะสกิด ไม่ทัน
จากนั้นก็ไปสนามหลวงเช่าจักรยานขี่เป็นประจำ
คันต่อมาที่ขี่ผมก็เริ่มโตมากขึ้น เรียน ป. ๖ ป. ๗ คันนี้ผมอาจจะเรียกมันได้ว่าเป็น cafe crusher สมัยนั้นไม่ว่ามีอะไรอยู่ ได้อะไรมา หากใส่ได้ก็จับอัดเข้าไป กลายเป็นว่า ได้รถที่ไม่เหมือนใคร ล้อหน้าใหญ่ ล้อหลังเล็ก แฮนด๋ปีกนก เฟรมมีท่อนอนแบบเหล็กคู่ ใช้สีทารั้วดำด้าน ล้อแบบ fixed อานหนัง ฯ ขี่เที่ยวทั่วกรุง สมัยเป็นเด็ก กทมฯ นี่น่าเที่ยวมากๆ รถน้อย จิตใจผู้คนยังปรกติ อ่อนโยน

จากนั้นมาก็ไปอยู่ต่างแดน* มีแต่จักรยานใช้เกียร์ แต่ความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อแฮนด๋แบบปีกนกก็ยังคงอยู่ ใช้เสือหมอบมาไม่รู้กี่คัน ไม่ว่าจะเป็นเกียร์ดุม หรือเกียร์แบบสับจาน ก็ต้องใส่แฮนด์ปีกนกครับ

แล้วทำไมมา single speed มีเพื่อนๆถามว่าทำไมไม่ fixed ผมอยากขี่ fixed มากๆ แต่ผมไม่สามารถออกทริปที่มีระยะทางไกลๆได้ เพราะต้องการพักรอบขาบ้าง และ fixed ไม่เหมาะกับ style การขี่ขแแองผมที่ใช้ขี่ใน กทมฯ
ก่อนที่ผมจะใช้ single speed ผมได้ลองใช้ด้านที่เป็น fixed gear ก่อน ความรู้สึกสมัยเป็นเด็กขี่จักรยานคันแรกก็หวนคืนมา เพราะผมได้เริ่มจาก fixed gear แต่ก็ต้องกลับมาใช้ด้านที่เป็น SS

สำหรับเหตุผลที่ผมใช้ SS เพราะ
๑) ดูแลรักษาง่าย มีราคประหยัด
๒) การถ่ายทอดพลังงานเป็นเส้นตรงกว่าแบบเกียร์ระบบ derailleurs โซ่แบบ SS มีความสั้นกว่ามาก
๓) เบื่อกระแสของชุดขับเคลื่อน derailleurs ที่มาพร้อมกับราคาสูง เช่นจายรถคันละ 30-100K แต่ติดชุดขับ Shimano รุ่น "Sora" หรือ "alivio" !!!

ในอนาคต หากผมจะใช้ระบบเกียร์ ผมจะเลือก เกียร์ดุม แทนแบบสับจาน ครับ


*โชคดีมากๆที่ดินแดนนี้เป็นมิตรต่อจักรยาน ถึงจีอุบันอเหตุบ้าง แต่ ทัศณคติของชาวเมื้องที่มีต่อตักรยานก็ถือว่า ดีมาก ทำให้ขี่จักรยานได้สนุก ต่อมาได้กลับมา กทมฯ ผมไม่ได้สนใจจักรยานเลย เพราะไม่รู้ว่าจะไปขี่ที่ไหนได้ จนกระทั่ง ผู้ว่า กทมฯ นำสนามกอลฟ์มาแปรเป็นสวนสาธารณ จึงหันมาปั่นจักรยานอีก

ได้อารมณ์ในการปั่นจักรยานแบบดิบๆ ในแบบฟิกซ์เกียร ไม่มีฟี ไม่มีเบรค เหนื่อยก็ผ่อนแรง
หายเหนื่อยก็อัดต่อ มีเกียรเดียวดูแลง่าย แล้วต้องมีสติให้มากในการขี่กว่าแบบอื่นเพราะสิ่งต่างๆ
ที่กล่าวมาล้วนแล้วมีแต่ฝืนกฏระเบียบ (ขี่แล้วอันตรายบนท้องถนนที่ใช้ร่วมกัน)

ผมว่า SS มันเรียบง่ายครับ ไม่ซับซ้อน ทนทาน แข็งแรง ไม่ต้องดูแลมากมาย จอดทิ้งได้เลย

ผมใช้โคสเตอร์เบรคเป็นส่วนใหญ่ อะไหล่น้อยดี ไม่ต้องเซอร์วิสส่วนไหนเลย ดูลมยางอย่างเดียว

SS ถ้้าสาย 26 มันได้อารมณ์เหมือนปั่น BMX ครับ ผมว่าอารมณ์เดียวกับพวก Klunkers ที่ให้กำเนิด MTB ครับ

ข้างล่างนี้ตามล่ามานานแล้ว ยังไม่ได้สักที

แล้วมีใครใช้เสือเกียร์เดียวมั่งอยากเห็นจังครับ

ไม่ค่อยเข้าใจคนชอบซิงเกิลเท่าไร ถ้าชอบฟิกก็เหตุผลด้านความดิบและความงาม ชอบหลายเฟืองก็เหตุผลด้านสุขภาพและออกกำลังกาย ลองอ่านๆแล้วก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ผมมีซิงเกิลอยู่สองสามคัน เป็นพับกับมินิ ปั่นแล้วก็หงุดหงิดกับความช้าและเมื่อยรอบขาที่ซอยยิกๆ
หรือว่า ซิงเกิล ที่ว่า จำเป็นต้องเป็นฟิกเกียร์ที่แปลงเป็นซิงเกิลเท่านั้นถึงจะสนุกสไตร์ซิงเกิลได้ครับ?

ความสนุกของฟิกซ์เกียรคือได้ปั่นซอยขาหยิ๊กๆ ในเกียรที่เหมาะสมกับแรงขาเรา นี่แหละครับ เพราะเมื่อส่งแรงปั่นไปแล้วยังมีแรงจากขาจานมาช่วยกลับมาให้เราปั่นต่อได้แรงอีกผิดกับจักรยานที่มีฟีหรือเกียรที่สามารถฟีพักขาได้ จะไม่มีแรงจากขาจานมาช่วยเราปั่นต่อ เด้อ ^__^ นี่แหละสเน่อีกอย่างหนึ่งของฟิกซ์เกียร

Reminds me of childhood memories.

miu เขียน:แล้วมีใครใช้เสือเกียร์เดียวมั่งอยากเห็นจังครับ

เดี๋ยวมาออกสื่อ กำลังปั้นครับ

http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 2&t=390231
คันในลิ้งค์นี้เคยใส่สแรม xo สุดท้ายก็ถอดใส่ซิงเกิ้ลสปีดมันไม่จุกจิกลุยได้ทุกกาลอากาศปั่นไปทำงานมาเป็นปีแล้วไม่เคยล้างแทบไม่ต้องบำรุงรักษา ถ้าเป็น xo ป่านนี้ก็เน่าไปแล้ว คุณอาจเคยชินกับความสบายจากการทดเกียร์แต่พอมาปั่นในเมืองไม่มีเขาให้ไต่มีอย่างมากก็แค่สะพานให้โดด มีเกียร์ไปก็ใช้อยู่แค่ 3-4เฟืองจนขี้เกียจเปลี่ยนเกียร์เลยถอดแปลงใส่ซิงเกิ้ลแล้วฟินเลย จานหน้า 36 หลัง 17 ก็กระชากออกจากไฟแดงก่อนมอไซค์ทุกที แล้วไม่รู้จะกลับไปใส่เกียร์อีกทำไม Fin

godzira เขียน:http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 2&t=390231
คันในลิ้งค์นี้เคยใส่สแรม xo สุดท้ายก็ถอดใส่ซิงเกิ้ลสปีดมันไม่จุกจิกลุยได้ทุกกาลอากาศปั่นไปทำงานมาเป็นปีแล้วไม่เคยล้างแทบไม่ต้องบำรุงรักษา ถ้าเป็น xo ป่านนี้ก็เน่าไปแล้ว คุณอาจเคยชินกับความสบายจากการทดเกียร์แต่พอมาปั่นในเมืองไม่มีเขาให้ไต่มีอย่างมากก็แค่สะพานให้โดด มีเกียร์ไปก็ใช้อยู่แค่ 3-4เฟืองจนขี้เกียจเปลี่ยนเกียร์เลยถอดแปลงใส่ซิงเกิ้ลแล้วฟินเลย จานหน้า 36 หลัง 17 ก็กระชากออกจากไฟแดงก่อนมอไซค์ทุกที แล้วไม่รู้จะกลับไปใส่เกียร์อีกทำไม Fin

ชอบครับ

JADE555 เขียน:Reminds me of childhood memories.

THAT MAKES TWO OF US...My first two bicycle were fixed...and on rental at Sanam Luang they were all fixed. I know how it feels.

On other hand, I was asking group of member who prefers SINGLE SPEED....

ผมเองก็จนใจ แต่อยากจะขอจำกัดในกระทู้ถามตอบเฉพาะ SS ครับ เราไม่มีหมวด SS จึงต้องมาตั้งถามกันในหมวด FIXED เพราะแท้ที่จริงแล้วผมตั้งกระทู้ถามถึง SINGLE SPEED (SS) ครับ ไม่ได้ตั้งใจจะถามเรื่อง fixed เพราะผมรู้ว่ามันคนละแบบ และการใช้งานในแต่ละประเภทที่ทุกคนต้องเลือกให้เหมาะสมกับตน....ผมเองก็มีแรงไม่พอที่จะปั่นออกทริป 150-200 km อักทั้งต้องปั่นแบบไม่หยุดเลยเป็นระยะทาง 180-200 km ในบางทริป หรือคุณคิดว่าใช้ FIXED แบบไม่หยุดปั่น ไม่พักขาเลย 200 km? มีขึ้นลงสะพานบ้าง ฯลฯ ผมไม่ไหวแน่ๆครับ ดังนั้นจึง SS

JADE555 เขียน:

miu เขียน:แล้วมีใครใช้เสือเกียร์เดียวมั่งอยากเห็นจังครับ

นำรูปเสือของเพื่อนๆพี่น้องสมาชิกเอง มาแปะให้ชม ยิ่งเป็น MTB ได้ก็จะเป็นการดีครับ

ชอบ SS มากที่สุด เพราะเหมาะกับสไตล์การปั่นของตัวเองมาที่สุด
ผมปั่นทางราบเป็นส่วนใหญ่
ไม่ได้ปั่นเร็วมาก 20-25 เท่านั้น
ไม่ได้ปั่นทางลาดขึ้น ไม่ค่อยได้ขึ้นสะพานด้วย

จึงไม่จำเป็นต้องใช้เกียร์
เบี่อเกียร์ตอนที่ร่วน สับเกียร์แล้วหงุดหงิด

ชอบความเรียบง่ายของ SS ไม่มีสายเกะกะมากมาย
ดูแลรักษาง่ายดี ตอนล้างโซ่ก็ไม่ยุ่งยาก ไม่เกิน 10 นาทีก็เสร็จ

ผมก็ใช้ฟิคมาก่อนครับแต่พอขยับมาMTBฟิคก็เลยเอามาทำSSปั่น ก็ชิลไปอีกแบบนะครับ
ชอบตรงไม่จุกจิกอะไรมากครับทำความสะอาดง่ายรถก็เบากว่า แต่เสียอย่างเดียวไม่สู้ถนนกทม.เลย
ตงร่องตกรูมีเจ็บตลอด

godzira เขียน:http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 2&t=390231
คันในลิ้งค์นี้เคยใส่สแรม xo สุดท้ายก็ถอดใส่ซิงเกิ้ลสปีดมันไม่จุกจิกลุยได้ทุกกาลอากาศปั่นไปทำงานมาเป็นปีแล้วไม่เคยล้างแทบไม่ต้องบำรุงรักษา ถ้าเป็น xo ป่านนี้ก็เน่าไปแล้ว คุณอาจเคยชินกับความสบายจากการทดเกียร์แต่พอมาปั่นในเมืองไม่มีเขาให้ไต่มีอย่างมากก็แค่สะพานให้โดด มีเกียร์ไปก็ใช้อยู่แค่ 3-4เฟืองจนขี้เกียจเปลี่ยนเกียร์เลยถอดแปลงใส่ซิงเกิ้ลแล้วฟินเลย จานหน้า 36 หลัง 17 ก็กระชากออกจากไฟแดงก่อนมอไซค์ทุกที แล้วไม่รู้จะกลับไปใส่เกียร์อีกทำไม Fin

DIY ได้ดีมากๆครับ chain tensioner ก็เป็นอีกผลงานที่สุดยอด ชอบมากๆครับท่านใดมี MTB single speed นำมาลงให้ชม และเป็นเยี่ยงอย่าง เป็นแนวทางเพื่อDIY กันครับ


คุณ Nobiyama ยังเก็บ Bianchi Pista via Brera อยู่หรือเปล่าครับ มันเป็นss ที่มีระบบเกียร์ดุมที่ไม่เลว หากไม่ชอบน้ำหนักของเฟืองก็สามารถเปลี่ยนขนาดได้ ไม่จานหน้าก็ COQ ครับ อาจจะได้ ratio ที่ต้องการ

ผมก็ชอบ SS ตรงที่มันดูแลรักษาง่าย ไม่มีสายรกๆ แต่....ผมเห็นว่าหากรถแบบเกียร์สับจาน service มาดี มันก็สามารถใช้งานได้ดีครับ แต่ก็อีกนั่นแหละครับ ตามที่ท่านว่าไว้ เกียร์สับจานมันมี maintenance and services มากกว่า SS ครับ


คุณ Amano 123 นำรูปมาให้ชมกันหน่อยครับ


SS ของผมครับ
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 4&t=751790

Charge ของผมแทบจะไม่เหลืออะไหล่เดิมนอกจากเฟรมครับ สาเหตุคือชอบความทนทานและนิ่งของเฟรมนี้ เลยยอมลงทุนกับมันครับ ที่เหลือถอดออกเกือบจะทั้งหมด

ส่วน pista via brera 2013 เปลี่ยนแฮนด์กับเบรค แต่ผมไม่ชอบเฟรม ทั้งที่หลายๆคนชอบตรงที่มันใช้ท่อขนาดเล็กทำ ตอนนี้มีเพื่อนสมาชิกในนี้รับไปดูแลแทนแล้วครับ

wannabe เขียน:ผมว่า SS มันเรียบง่ายครับ ไม่ซับซ้อน ทนทาน แข็งแรง ไม่ต้องดูแลมากมาย จอดทิ้งได้เลย

ผมใช้โคสเตอร์เบรคเป็นส่วนใหญ่ อะไหล่น้อยดี ไม่ต้องเซอร์วิสส่วนไหนเลย ดูลมยางอย่างเดียว

SS ถ้้าสาย 26 มันได้อารมณ์เหมือนปั่น BMX ครับ ผมว่าอารมณ์เดียวกับพวก Klunkers ที่ให้กำเนิด MTB ครับ

ข้างล่างนี้ตามล่ามานานแล้ว ยังไม่ได้สักที

ใช่คันนี้ป่าวครับ

http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 2&t=800109