12 ปีที่สัมผัสกับจักรยาน Cannondale ได้กระทบไหล่กับ Joe Montegomery ผู้ก่อตั้ง Cannondale เจ้าของปรัชญาที่ว่าถ้าจะทำจักรยานอีกแบรนด์หนึ่งแล้วมันไม่ดีกว่าที่มีอยู่เกลื่อนกลาดในตลาดแล้วจะทำไปทำไม?? Cannondale จึงเป็นจักรยานที่แหกคอกที่สุดในโลก โดยใช้วิศวกรรม บวกวิทยาศาสตร์ และ ศิลปกรรมนำหน้าเพื่อปรับปรุงรถให้ดีขึ้นๆอย่างไม่หยุดหย่อน ผลของหยาดเหงื่อและมันสมอง ก็อย่างที่เจ้าของรถจักรยานCannondale พวกแฟนแคนๆ อย่างเรา รู้ๆกันว่าเรารักรถแคนนอนเดลแค่ไหน ไม่ใช่เรื่องความมหัศจรรย์อะไรหรอกครับ รถจักรยานคันนี้มันทำให้เรารัก และประทับใจตัวของเราเองต่างหากเล่า เสน่ห์มันอยู่ตรงนี้ ตานี้มันก็ต้องมีนวัตกรรมที่ไม่ซ้ำกับใคร จึงจำเป็นที่ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมจากผู้ที่มีความรู้จริงๆ มันไม่ใช่เรื่องพิสดารจนรู้ไม่ได้ เรื่องของเรื่องมันคือการเรียนรู้อย่างถูกต้องครับ โดยเฉพาะเรื่องของ Shock ทั้ง HeadShok และ Lefty ที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ที่ผ่านมือผ่านไม้ผม ก็ไม่ต่ำกว่ายี่สิบแบบแล้วครับ ทุกๆครั้งผมก็ต้องเข้าฝึกอบรมใหม่ ต้องตุนอะไหล่ตัวใหม่ๆ ใช้เครื่องมือตัวใหม่ที่ไม่เคยใช้มาก่อน มันเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาทั้งๆที่เรียกกันเพียง โช็ค Headshok โช็ค Lefty นี่แหละครับ 
ที่เกริ่นมายืดยาวก็เพราะทนเห็นเจ้าของรถที่ต้องเสียเงินไปในการซ่อมโช๊ค หลายครั้งแล้วก็ไม่หาย มิหนำซ้ำ แทนที่จะเสียเงินเพียงแค่เปลี่ยน “O Ring” ของแท้ 2 ตัว กลายเป็นต้องซื้อกระบอกลมทั้งกระบอกราคาเป็นพันๆ ไม่ไหว
ยกตัวอย่างประเดิมละกันนะครับ อย่างในกรณีนี้ ไปเจอช่างที่ใช้ “O ring” เทียบเท่าทำแถวๆนี้ ราคากำละ 2 บาท ความแตกต่างของ “O ring” ของแท้กับของเทียบเท่า คือ 1. ขนาด อาจจะใกล้เคียงหรือดูว่าเท่ากันแต่ไม่เท่ากันจริงๆเพราะเทียบด้วยสายตา ไม่ได้ด้วยเบอร์เดียวกัน 2. เนื้อของวัสดุ ของที่โรงงานแคนนอนเดลใช้จะมีคุณภาพดีมาก เหนียว เนื้อแน่น ยืดหยุ่น ทนทานต่อน้ำมันและสิ่งสกปรกโสโครกที่เกิดขึ้นจากการใช้งาน ในขณะที่ของเทียบเท่าเมื่อโดนน้ำมันแล้วจะกระด้าง แข็งตัวจึงขาดความสามารถในการ “ซีล” หรือ “กั้น” ทั้งลม ทั้งน้ำมัน อาการก็คืออะไรๆ ก็จะ ”รั่ว” อยู่เรื่อยๆ ทำให้เกิดการเข้าใจผิดว่า Shock ของแคนนอนเดลไม่ดี เสียเรื่อยๆ อันนี้ผิดถนัดครับ สังเกตุดูของจริงด้านซ้าย กับของเทียบเท่าดูด้านขวานะครับ
ผลเสียอีกอย่างของการใช้ “O ring” ที่ไม่ได้มาครฐาน และมีผลร้ายสุดๅคือ มันหลุดลุ่ยกลายเป็นเศษสกปรกทำให้กัดกร่อนภายในของกระบอกให้สึกหรอ จนทำให้เกิดการรั่วได้ทั้งน้ำมัน ทั้งลม ไม่ว่าที่ไหนก็วิบัติทั้งนั้นล่ะครับ เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา แทนที่จะเสีย 300 บาท กลายเป็นเสีย 2พัน เศร้าจริงๆ เข้าทำนองเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย น่าเจ็บใจ
ที่ร้ายที่สุดคือทำอะไหล่ทั้งต้วหายไปอย่างหน้าตาเฉยเลยครับ 
Spring Seat คือเจ้าตัวดำๆตรงปลายสปริง ที่เป็นตัวป้องกันสปริงไม่ให้ข่วนแกน ให้สปริงอยู่ตรงกลางเสมอ (ถ้าแกนโดนข่วนนี่ ทิ้งไปได้เลยครับแกนโช็คตัวนี้ 8,000ครับ) แล้วโช็คมันจะทำงานได้ดีเหมือนปกติได้ยังไงกันครับ ซ่อมให้ตายก็ไม่มีวันหายถ้าเอาอะไหล่ทิ้งไปเลยทั้งตัว
อันนี้ทำให้ผมโกรธจริงๆตอนเปิดออกมาเห็นแกนโช็คโล้นๆ ที่น่าสยดสยองจริงๆคือคนซ่อมครับ คือคนที่เจ้าของแคนนอนเดลหลายคนเชื่อตามที่เขาเคลมว่าเป็นคนที่เก่งเรื่องโช็คแคนนอนเดลจริงๆ ไม่รู้จะให้เตือนกันยังไงถึงจะไม่ต้องเจอประสบการณ์อย่างนี้ เรามาหาความรู้เอาไว้ไปต้อนช่างที่ไม่ได้ความกันดีไหมครับ 
ใครมีเรื่องกวนใจเกี่ยวกับโช็คก็ปรึกษากันได้ครับ เราจะช่วยกันรับฟังปัญหาแล้วหาทางแก้ไขให้เสียหายน้อยที่สุด คุ้มตังที่สุด หลงกลช่างให้น้อยที่สุด ถ้าจะให้ทางศูนย์ซ่อมก็จะหารายละเอียดค่าใช้จ่ายมาให้เจ้าของรถได้พิจารณากันต่อไป รับรองได้ไม่ใช่เปลี่ยนซีลตัวละ10,000 บาท อย่างที่บางคนเล่าเป็นนิยายน้าเน่ามาหลอกเจ้าของรถให้ไปซ่อมกับตัวเอง
นี่มันจักรยานครับ ไม่ใช่รถ Ferrari ที่น่าสนใจคือที่ศุนย์จะมีการประกันการซ่อมทำให้อุ่นใจได้ขั้นหนึ่ง และซ่อมโดยช่างที่ได้รับการอบรมจากวิศวกรจากโรงงานแคนนอนเดล เอง และอบรมกันทุกปีนะครับ
เพราะโช็คมีรายละเอียดเครื่องเคราภายในเปลี่ยนไปตลอดเวลา ไม่เคยเหมือนเดิมเลยครับ มันก็เหมือนรายการตอบคำถามสุขภาพนั่นแหละครับ เค้าให้เราถามปัญหาเข้าไปได้ ถามไปถามมา ตอบไปตอบมา แล้วก็มาลงเอยว่า “ถ้าให้ดีก็ไปโรงพยาบาลให้แพทย์ตรวจจะดีกว่านะครับ” ใครมีเรื่องกวนใจเกี่ยวกับรถแคนนอนเดลที่ขี่อยู่ เรายินดีให้คำปรึกษาเบื้องต้นเท่าที่มีความรู้ ถ้าไม่รู้ก็จะถามผู้รู้ฝ่ายเทคนิคของแคนนอนเดลให้ ผลสุดท้ายถ้าให้ดีก็เอารถไปตรวจที่ศูนย์เค้าก็น่าจะช่วยได้นะครับ เรามาลองหาความรู้เกี่ยวกับเจ้ารถคันนี้กันดีกว่าครับ จะได้รักกันไปนานๆ....ตลอดชีพเชียวนะครับ ที่โรงงานเค้าตั้งใจทำไว้ให้อยู่กับเราน่ะ
สุดยอดเลยครับความรุ้เพียบ
