............พาคุณนาย ไปทัวริ่ง ..... โดย พี่แดงสารภี ..............

จำหน่ายจักรยาน(เก่าญี่ปุ่น) เสือภูเขาโครโมลี-อลูมิเนียมแบบตะเกียบ พร้อมซ่อมและโมดิฟายด์เสือภูเขาทางเรียบ-จักรยานเดินทางไกล โทร. 0814881440

ผู้ดูแล: เอ็ม.เจ.ไบค์ นครปฐม

กฏการใช้บอร์ด
จำหน่ายจักรยาน(เก่าญี่ปุ่น) เสือภูเขาโครโมลี-อลูมิเนียมแบบตะเกียบ พร้อมซ่อมและโมดิฟายด์เสือภูเขาทางเรียบ-จักรยานเดินทางไกล โทร. 0814881440
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ............พาคุณนาย ไปทัวริ่ง ..... โดย พี่แดงสารภี ..............

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:) :D อรุณสวัสดิ์ครับท่านผู้มีเกียรติที่เคารพ เช้านี้ผมจะขอย้อนอดีตไปเมื่อปีที่แล้วที่เรา รักรถรักธรรม เชียงใหม่ได้ไปทัวร์ลัลลาร์อาเซียน ในเขมร ลาว ช่วงที่เราเดินทางผ่านเข้าเสียมเรียบเพื่อผ่านเข้าไปยัง สปปล.ลาวทางด่านสะเต็งตรึงเข้าสู่คอนพะเพ็ง-ลี่ผี ของลาว พวกเราได้รับความเมตตาจากพระอาจารย์ วิรุฬ ซึ่งเป็นพระเขมรเคยมาศึกษาร่ำเรียนพระพุทธศาสนาที่เมืองไทย ท่านให้การต้อนรับพวกเราอย่างกับญาติของท่าน เมื่อวันที่ ๙ พ.ย.๕๘ พวกเราได้ทราบข่าวสารว่าท่านเดินทางมาปฏิบัติธรรม ที่วัดเขาสวนป่าคีรีเขต บ.แยง พิษณุโลก พวกเราไม่รอช้าเรารีบเดินทางเพื่อไปต้อนรับท่านและแสดง กตัญญุตาให้กับท่าน ตอบแทนท่านเมื่อยามที่เราไปผจญภัยในกัมพูชา พวกเราได้ท่านช่วยเหลือทำให้การเดินทางครั้งนั้นสนุกสนานและได้ประสบการณ์ต่าง ๆ มากมาย

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

คงมีเรื่องราวดี ๆ มาให้ได้ติดตาม โดยเฉพาะวันที่เราไปคือวันที่ทางวัดกำลังเตรียมงานกวนข้าวทิพย์ ซึ่งก็เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมได้มีโอกาสศึกษาหาความรู้ ก็จะนำมาเล่าสู่กันฟังอย่าลืมติดตามนะครับ :lol: :lol:
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ............พาคุณนาย ไปทัวริ่ง ..... โดย พี่แดงสารภี ..............

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:) :D พวกเรา ๔ คนขับรถจากเชียงใหม่เพื่อตอบแทนพระคุณพระอาจารย์วิฬุร ที่ท่านเมตตาเราเมื่อครั้งที่เราปั่นไปเขมร เมื่อท่านมาปฏิบัติธรรมที่เมืองไทยจะอยู่มุมไหนของประเทศ ถ้าเราทราบเราก็ต้องดั้นด้นไปหาจนได้ วัดที่ท่านมาปฏิบัติธรรมในครั้งนี้คือวัดสวนป่าคีรีวงกต สมเป็นเขาวงกตจริงๆ เราขับรถเข้าทางทองแสนขัน-ชาติตระกาล-นครไทย-สามแยกบ้านแยง ตรงตลาดบ้านแยงจะมีทางแยกเข้าตรงไปยังวัด ไปสอบถามแถวตลาดได้ครับ เข้าไปอีกไกลพอควร ทางลำบากพอได้ สองข้างทางเป็นสวนสับปะรดและสวนพริกไทย หลายร้อยไร่สุดลูกหูลูกตา วิวสวยงามมากเราหลงเพลินกับวิวทิวทัศน์จอดรถเก็บภาพเป็นระยะ กว่าจะถึงวัดก็เกือบเย็น ครั้งแรกจะไป - กลับ แต่พระอาจารย์ไม่ให้กลับต้องนอนค้างคืนหนึ่ง

ช่วงที่พวกเราไปถึงวัดทั้งพระฆราวาสแม่ชี ต่างระดมกันเตรียมงานกฐินซึ่งจะมีในวันที่ ๑๖ นี้และจะมีการกวนข้าวทิพย์ในเช้าวันที่ ๑๔ เมื่อเราเดินทางไปถึงสอบถามหาพระอาจารย์วิรุฬ ปรากฏว่าท่านรอพวกเราอยู่แล้ว วันนี้เราได้เก็บหญ้ากระดุมทองมาฝากท่าน เพราะท่านเป็นเบาหวาน ความดันขึ้นตา กับอีกหลายโรค เมื่อครั้งที่ไปพบท่านที่เขมร คุณยูร ฯ ซึ่งก็เป็นเหมือนท่านเมื่อกลับถึงบ้านได้ส่งไปให้ท่านทดลองต้มดื่ม ปรากฏว่าอาการดีขึ้นมาก ๆ ท่านไม่ต้องไปโรงพยาบาลอีกเลย และเมื่อมีงานวัดท่านก็ได้ทำงานอย่างเต็มที่ท่านจึงขอให้จัดการส่งให้เพราะที่บ้านท่านหายาก

หญ้ากระดุมทองมีสมบัติในการลดน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานให้อยู่ในภาวะปกติ และควบคุมระดับน้ำตาลในคนทั่วไป ให้อยู่ในระดับที่พอเหมาะ ซึ่งจะช่วยป้องการเกิดโรคเกี่ยวกับระดับน้ำตาลในเลือด เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน เป็นต้น วิธีการทำน้ำกระดุมทอง คือ ให้นำหญ้ากระดุมทองหั่น และตากแห้ง จากนั้นต้มน้ำเดือดนานประมาณ จนมีน้ำสีเหลืองอ่อนๆ กรองน้ำใส่ขวด ทิ้งให้เย็น แล้วแช่ในตู้เย็นไว้สำหรับดื่มแทนน้ำ (ไม่ควรต้มทิ้งไว้ในหม้อเพื่อรินดื่มแต่ละครั้ง เพราะจะเกิดการหมักบูดทำให้ท้องเสียได้) ในส่วนของใบ นำไปตำผสมกับเหล้าโรง แล้วพอกถอนฝีได้

บ้านเราจะเห็นเขานิยมปลูกเป็นพืชคลุมดิน ตามข้าง ๆ ขอบสระเพื่อป้องกันดินเลื่อนไหล ไม่คิดนะว่าหญ้านี้มีคุณอนันต์


รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

ลุงป๊อกเคยรับราชการอยู่พิษณุโลกหลายปี จนได้แม่บ้านเป็นคนพิดโลก มีญาติอยู่แถวนั้นเยอะ วันนั้นก็บังเอิญไปเจอคนรู้จักกัน ไปอยู่เยอรมันและกลับมาเยี่ยมบ้านเจอกันก็ดีใจเป็นธรรมดา ได้เอาที่อยู่ฝากไว้ให้เผื่อจะได้ไปทัวร์ยุโรปบ้าง เย็นวันนั้นบรรดาแม่ชีได้ช่วยกันทำอาหารเย็นให้พวกเราทานกันและจัดที่หลับที่นอนให้พวกเรา เราได้ร่วมสวดมนต์ไหว้พระ โอ...ที่นี่เขาสวดมนต์กันนานมากนับเป็นชั่วโมง เราต้องยอมแพ้กันเลยทีเดียว แต่ก็ทนจนสวดจบพร้อมนั่งสมาธิเรียกว่าร่วมกิจกรรมจนจบคอร์สครับ เอาบุญมาเผื่อแผ่ทุกท่านให้ได้รับบุญกุศลพร้อม ๆ กันครับ :) :)

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

กระดุมทองเลื้อย หรือ เบญจมาศเครือ เป็นพืชอายุข้ามปีในวงศ์ทานตะวันที่นิยมปลูกเพื่อเป็นไม้ดอกไม้ประดับเป็นหลัก นอกจากนั้น ส่วนดอก และลำต้นยังสามารถใช้เป็นสมุนไพรหรือใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ อาทิ สีผสมอาหาร และสีย้อมผ้า เป็นต้น

กระดุมทองเลื้อย หรือ เบญจมาศเครือ มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกา พบมากในแถบประเทศอบอุ่น และเขตร้อนชื้น รวมถึงประเทศไทยด้วย เป็นพืชที่เติบโตเร็ว และเติบโตได้ดีบริเวณดินชื้นแฉะ สามารถแตกกิ่งก้าน และเหง้าใหม่ขยายคลุมหน้าดินได้เป็นบริเวณกว้างภายในไม่กี่เดือนจนมีศักยภาพเป็นพืชรุกรานชนิดหนึ่ง

รูปภาพ

สรรพคุณกระดุมทองเลื้อย

• สารคลอโรฟิลล์ในลำต้น และใบมีฤทธิ์ป้องกันตับจากสารพิษ ช่วยรักษาโรคตับอักเสบ กระตุ้นการทำงานของตับ
• สารคลอโรฟิลล์มีผลทำให้ตับทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผลิตน้ำย่อยอาหารได้ปกติ ป้องกันอาหารไม่ย่อย และต้านโรคติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร
• ใบ และลำต้นสดนำมาบดให้ละเอียดใช้เป็นยาพอกแผล แก้ฟกช้ำ
• ดอก รวมถึงลำต้น และใบ นำมาต้มน้ำรับประทาน ช่วยลดไข้ ช่วยย่อยอาหาร ใช้เป็นยาชา ช่วยบรรเทาอาการปวดเหงือก และฟัน
• ดอกมีสารแคโรทีน (carotene) และแซนโทฟิลล์ (xanthophyll) ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันสายตาเสื่อม
• ดอก ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน ลดอาการภูมิแพ้
• ดอก ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวพรรณ ป้องกันผิวจากรังสีดวงอาทิตย์ ป้องกันการเกิดฝ้า กระ และริ้วรอย
• ดอก ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ป้องกันโรคเบาหวาน ลดไขมันในเส้นเลือด ป้อกงันโรคหัวใจ และหลอดเลือดตีบตัน


รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ............พาคุณนาย ไปทัวริ่ง ..... โดย พี่แดงสารภี ..............

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:o :o ญาติโยมและพระตื่นกันแต่ตี ๔ สวดมนต์เสกเป่าวัตถุที่จะใช้ในการทำข้าวทิพย์ แต่พวกเราไม่ได้ตื่นไปร่วมในพิธี คงตื่นไปดูช่วงที่เขาปลุกเสกเรียบร้อยแล้วและได้ช่วยปอกมะพร้าวได้คนละ ๔-๕ ลูกจึงขอตัวไปเดินชมรอบวัดและกราบลาพระอาจารย์วิรุฬ เพื่อเดินทางกลับ(มีงานรออยู่) เสียดายจริง ๆ ที่ไม่ได้ร่วมในพิธี :( :(

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

ประเพณีกวนข้าวทิพย์ เป็นประเพณีที่สืบเนื่องมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลก่อนที่สัมมาสัมพุทธเจ้าจะตรัสรู้ โดยนางสุชาดา ธิดาของเศรษฐีหมู่บ้านเสนานิคม ได้นำอาหารซึ่งกวนด้วยข้าวมธุปายาส ไปบวงสรวงเทพยดาที่ใต้ต้นนิโครธ ในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ได้พบพระพุทธองค์ ประทับอยู่ใต้ต้นนิโครธเข้าใจว่าเป็นเทพยดา จึงได้ข้าวมธุปายาสไปถวาย เมื่อพระพุทธองค์ทรงเสวยเสร็จแล้ว ได้ทรงนำถาดทองที่ใส่ข้าวมธุปายาสนั้นไปลอยน้ำ และทรงอธิฐานว่า ถ้าหากพระองค์จะได้ตรัสรู้ก็ขอให้ถาดทองนั้นลอยทวนน้ำขึ้นไป เมื่อพระองค์ทรงวางถาดลงในน้ำ ก็ปรากฏว่า ถาดทองลอยทวนน้ำขึ้นเหนือน้ำดังคำอธิฐาน ซึ่งพระองค์ทรงถือว่าภัตตาหารมื้อนั้นได้มีส่วนทำให้พระองค์ได้สำเร็จและตรัสรู้อริยสัจ 4 ได้

ประเพณีกวนข้าวทิพย์ เป็นประเพณีที่สร้างความสามัคคีในกลุ่มชนในอันที่จะร่วมกันนำเอาวัสดุข้าว ของต่าง ๆ มาร่วมทำบุญ เมื่อเสร็จและถวายเป็นพุทธบูชาก็แบ่งปันกันไปรับประทานเพื่อความเป็นสิริ มงคล ที่มาของประเพณี เป็นพระราชพิธีที่กระทำกันในเดือน ๑๐ ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยและกรุงศรีอยุธยา เป็นราชธานี และได้รับการฟื้นฟูครั้งใหญ่ ในสมัยรัชกาลที่ ๑ และมาละเว้นเลิกรา ไปในสมัยรัชกาล ที่ ๒ และรัชกาลที่ ๓ แล้วมาได้รับการฟื้นฟู อีกครั้งหนึ่งในสมัยรัชกาลที่ ๔ เป็นต้นมา แต่ในปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่จะจัดกันในเดือน ๑๒ บางแห่งก็เดือนหนึ่ง ซึ่งคงจะถือเอาระยะที่ข้าวกล้า ในท้องนามีรวงขาวเป็นน้ำนม ของแต่ละปี และชาวบ้านก็มีความพร้อมเพรียงกัน ข้าวทิพย์มธุปายาสนี้เชื่อกันว่า เมื่อทำครบถ้วนตามพิธีแล้ว จะเป็นสิริมงคลแด่ผู้ทำและผู้บริโภค สมควรจะเซ่นสรวงเทพารักษ์ ผู้ที่ได้บริโภคข้าวทิพย์แล้ว จะประสบโชคลาภต่างๆ นานา ปราศจากโรคาพยาธิ ภัยพิบัติ ประสบสิ่งที่เป็นมงคล

พิธีกรรม วัตถุที่กวน ได้แก่ น้ำนมโคสด (ปัจจุบันใช้นมข้นหวานแทน) น้ำผึ้ง น้ำอ้อย ชะเอมเทศ น้ำตาลกรวด น้ำตาลหม้อ ข้าวตอก ข้าวเม่า ธัญพืชต่าง ๆ ที่คั่วสุก ถั่ว งา ลูกเดือย เมล็ดแตง เผือกมัน เมล็ดบัว มะพร้าวแก่ มะพร้าวอ่อน ผลไม้สด ผลไม้แห้ง เช่น มะม่วง กล้วย ทุเรียน ละมุด ลำไย ส้ม ขนุน เป็นต้น ทั้งนี้แล้วแต่ความเหมาะสมเท่าที่จะหาได้หรือปรับปรุงให้มีรสชาติ หอมหวาน อร่อย ตามความต้องการของผู้กวนในแต่ละท้องถิ่น


รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพสนทนาและถวายปัจจัยค่ารถและร่วมทำบุญในการดำเนินการสร้างถาวรวัตถุที่วัดของท่าน ตามแต่ท่านจะเห็นสมควรก่อนที่เราจะอำลาเดินทางกลับ และทราบว่าหลังจากเสร็จงานกฐินแล้วท่านก็จะกลับวัดสิริมงคล เสียมเรียบเขมรเช่นกันประมาณวันที่ ๑๖ พ.ย.๕๘ ก็คงเดินทาง ท่านเมตตาให้พรพวกเราเป็นภาษาเขมรฟังเพราะมากครับ :) :D

รูปภาพ

รูปภาพถวายปัจจัยร่วมงานกวนข้าวทิพย์กับท่านเจ้าอาวาสด้วยก่อนอำลาจาก สัญญาว่าเราจะกลับไปเยี่ยมท่านอีก

รูปภาพ :) :) คิดว่าคงต้องกลับมาอีกครั้งแน่นอน ไม่น่าเชื่อว่าลึกเข้าไปในขุนเขาจะมีบางสิ่งที่ซ่อนตัวในหลืบเขา ให้พระเกจิได้ค้นหาและสร้างสิ่งต่าง ๆ ให้เป็นที่อัศจรรย์ใจ หนหน้าเพื่อให้ละเอียดเราต้องใช้จักรยานปั่นขึ้นมาให้ถึง แล้วก็อยู่ร่วมปฏิบัติธรรมอย่างน้อย ๆ สัก ๓ วัน คงจะได้อะไรดี ๆ เท่าที่ทราบเพียงคร่าว ๆ วัดนี้ หลวงปู่เที่ยง ต.ปอ แห่งบุรีรัมย์เป็นคนพาญาติโยมทางบุรีรัมย์ มาทำการปักหลักตั้งฐานที่นี่ และคุณพ่อของพระอาจารย์วิรุฬ ก็เป็นผู้หนึ่งที่เดินทางมาร่วมด้วยช่วยกัน พระอาจารย์วิรุฬ ฯ เองก็เคยมาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์แห่งนี้มาก่อนเมื่อนามมาแล้ว ยังมีอะไรต้องให้ค้นคว้าอีกเยอะครับ แสดงว่าเราต้องกลับไปอีก :lol: :lol:

:idea: :idea: ดูกรเจ้าลิจฉวี ความปรากฏขึ้นแห่งรัตนะ ๕ หาได้ยากในโลกรัตนะ ๕ เป็นไฉน คือ

พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ๑
บุคคลผู้แสดงธรรมวินัยที่พระตถาคตประกาศแล้ว ๑
บุคคลผู้รู้แจ้งธรรมวินัยที่พระตถาคตประกาศแล้ว อันผู้อื่นแสดงแล้ว ๑
บุคคลผู้รู้แจ้งธรรมวินัยที่พระตถาคตประกาศแล้ว อันผู้อื่นแสดงแล้วปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ๑
กตัญญูกตเวทีบุคคล ๑

ดูกรเจ้าลิจฉวีทั้งหลาย ความปรากฏแห่งรัตนะ ประการนี้แลหาได้ยากในโลก ฯ


:lol: :lol: พวกเราได้กระทำตนไม่ให้เป็นบุคคลที่หาได้ยาก เมื่อครั้งเราได้รับความอนุเคราะห์จากท่านในประเทศเขมรต้อนรับขับสู้ตลอดจนใส่ใจ กระทั่งพวกเราเดินทางจากเขมรเข้าไปยังประเทศลาว ท่านก็ยังคอยติดตามสอบถามให้กำลังใจ เป็นที่ประทับใจ เมื่อท่านมีโอกาสมาบ้านเมืองเรา จึงเป็นหน้าที่ ๆ เราจะต้องตอบแทนพระคุณท่าน เราได้ทำหน้าที่นี้ด้วยความสมบูรณ์ทุกประการ ขอให้ผลบุญนี้จงมีแก่ทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้ ให้ได้รับอานิสงค์แห่งบุญในครั้งนี้จงทั่วหน้ากันทุกท่านทุกคนเทอญ...สาธุ. :D :D



................. https://www.youtube.com/watch?v=I23I1-YFdis ........................



:idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :D :D :D :D :D
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ............พาคุณนาย ไปทัวริ่ง ..... โดย พี่แดงสารภี ..............

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

:lol: :lol: หลังจากที่กลับมาจากทริปใหญ่ ๒ ทริปคือ ทริปคุนหมิงและทริป Pre AEC.(เขมร เวียตนาม ลาว) ตลอดเดือนจาก ๒๕ ธ.ค.๕๘ -๒๘ ม.ค.๕๙ ไม่ได้พาคุณนายไปปั่นที่ไหนเลย เนื่องจากภารกิจทางสังคมที่ต้องปฏิบัติ(ขาดไม่ได้เพราะคนเป็นสัตว์สังคม)ช่วงนี้เราก็ขาดการไปวัดด้วยดังนั้น เมื่อวาน ๒๘ มค.ถือโอกาสไปทำบุญที่วัดสันป่าสักวรอุไร หลังจากนั้นก็เลยไปพักผ่อนที่สวนราชพฤกษ์ เพื่อชมพันธ์ไม้ดอกไม้ประดับที่ทางสวน เขาจัดต้อนรับฤดูหนาวตั้งแต่ ๑ ธ.ค.๕๘ - ๒๙ ก.พ.๕๙ เสียค่าเข้าชมคนละ ๕๐ บาท อยากจะเรียนเชิญทุก ๆ ท่านถ้ามีโอกาสให้พาครอบครัวไปพักผ่อนชื่นชมไม้ดอกต่าง ๆ คุ้มค่ามากครับ อากาศเป็นใจคนไม่พลุกพล่าน มีความสุขผ่อนคลายได้เป็นการไปชาร์ทแบตเตอรี่ชีวิตได้อย่างดีครับ :) :D

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ............พาคุณนาย ไปทัวริ่ง ..... โดย พี่แดงสารภี ..............

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:) :D `วันที่ ๖-๗ ก.พ.๕๙ พาคุณนายไปสำรวจเมืองนันทบุรี เตรียมการว่าจะพาไปปั่นขึ้นม่อนจอง เส้นทางนี้เริ่มจากสารภี-สันป่าตอง-จอมทอง-ฮอด-อมก๋อย-ม่อนจอง เป็นเส้นทางที่ท้าทายมาก และเป็นเมืองที่กำลังมาแรงจะแซง อ.กัลยานิวัฒนา ในเร็ว ๆ นี้ ธรรมชาติยังดิบ คนไม่มีสิทธิ์เข้าไปทำลาย(อนาคตคงยาก) ใครที่มีเวลาโปรดรีบไปซะครับ ถามว่าโหดไหม ตอบไม่ครับ แต่ หินมากกว่าจะขึ้นถึงม่อนจองคงต้องใช้ วิริยะ ขันติ พอสมควรครับ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพอย่าลืมเลยเข้าไปเที่ยวแม่ตื่นด้วยนะครับไปชมน้ำแม่ตื่นที่ไม่แพ้น้ำปิง ไหลลงเขื่อนภูมิพลถ้ามีเวลาก็นั่งเรือล่องแก่งสู่เขื่อนภูมิพลก็ได้ :) :D
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ............พาคุณนาย ไปทัวริ่ง ..... โดย พี่แดงสารภี ..............

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:lol: :lol: ไหน ๆ ก็พาไปเขตุเมืองนันทบุรีแล้วอยากให้เข้าไปศึกษารายละเอียดในเวปป์นี้บ้างครับ

http://botkwamdee.blogspot.com/2012/12/p-nan-fak2.html


ที่เมืองตื๋นนี่มีแหล่งธรรมชาติสวยงามมากพอให้เราได้ไปเที่ยวชม ถ้ามีเวลาน้อยอยากแนะนำให้ไปที่ม่อนดินแดงลักษณะเหมือนแกรนด์แคนยอนเล็ก ๆ จะได้เห็นทิวทัศน์เมืองตื๋นได้ทั่วครับ


รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ


รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ............พาคุณนาย ไปทัวริ่ง ..... โดย พี่แดงสารภี ..............

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ

:idea: :idea: วันวาเลนไทน์ (Valentine’s Day) มีมาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน ซึ่งในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ จะเป็นวันเฉลิมฉลองของจูโน่ซึ่ง เป็นราชินีแห่งเหล่าเทพและเทพธิดาของโรมัน ชาวโรมันรู้จักเธอในนามของเทพธิดา แห่งอิสตรีและการแต่งงาน และในวันถัดมาคือวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ก็จะเป็นวันเริ่มต้นงานเลี้ยงของเด็กหนุ่มและเด็กสาว ต่อมาใน รัชสมัยจักรพรรดิคลอดิอัส ที่ 2 (Emperor Claudius II) แห่งกรุงโรม ที่มีกษัตริย์ ใจคอดุร้ายและทรงนิยม การทำสงครามนองเลือด และทรงห้ามการจัดพิธีหมั้นและแต่งงานกันในโรมโดยเด็ดขาด

เซนต์วาเลนไทน์ โดยขณะนั้นมีนักบุญรูปหนึ่งชื่อว่า “เซนต์วาเลนไทน์” หรือ “วาเลนตินัส” ซึ่งอาศัยอยู่ในกรุงโรม ได้ร่วมมือกับ เซนต์มาริอัส จัดพิธีแต่งงานให้กับ ชาวคริสต์หลายคู่ด้วยความปรารถนาดีของท่านนี้เอง จึงทำให้เขาถูกตัดสินประหารชีวิตโดยเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ก่อนที่เขาจะถูกประหารชีวิตเซนต์วาเลนไทน์ ได้ตกหลุมรักหญิงสาวที่เป็นลูกสาวของผู้คุมที่ชื่อว่า “จูเลีย” ซึ่งได้มาเยี่ยมเขาระหว่างที่ถูกคุมขัง ในคืนก่อนที่วาเลนไทน์จะถูกประหารชีวิตนั้น เขาได้ส่งจดหมายฉบับสุดท้ายถึงจูเลีย อันเป็นที่รัก โดยลงท้ายว่า “From Your Valentine”ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 (วันวาเลนไทน์) หรือ พ.ศ.813 ราว 1,738 ปี หลังจากนั้นศพของเขาได้ถูกเก็บไว้ที่ โบสถ์พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม ซึ่ง จูเลีย ได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอลต์สีชมพู ไว้ใกล้หลุมศพของเซนต์วาเลนไทน์ หรือ วาเลนตินัส แด่ผู้เป็นที่รักของเธอ โดยในทุกวันนี้ ต้นอามันต์สีชมพู ได้เป็นตัวแทนแห่งรักนิรันดรและมิตรภาพ อันสวยงาม และคำนี้ก็เป็นคำที่ใช้มาจนถึงปัจจุบัน

ถึงแม้ว่าเบื้องหลังความเป็นจริงของวาเลนไทน์จะเป็นตำนานที่มืดมัว แต่เรื่องราวยังคงแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกสงสาร ความกล้าหาญและที่สำคัญที่สุดเป็นเครื่องหมายของความโรแมนติค จึงไม่น่าประหลาดใจเลยว่า ในช่วงยุคกลางวาเลนไทน์เป็นนักบุญ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในอังกฤษและฝรั่งเศส ต่อมาพระในนิกายโรมันคาทอลิกจึงเลือกให้ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความรักและดูเหมือนว่ายัง คงเป็นธรรมเนียมที่ชายหนุ่มจะเลือก หญิงสาวที่ตนเองพึงใจใน วันวาเลนไทน์ สืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้


:) :D เพื่อเป็นการไม่ให้ตก Trend วันที่ ๑๔ กุมภานี้ (เมื่อวาน) ผมได้พาคุณนายและน้องม่อยไปฉลองวันวาเลนไทน์โดยพาไปวัดแม่สะป๊อก วัดที่พวกเราครั้งหนึ่งได้ปั่นจักรยานไปหาที่ปฏิบัติธรรม ตามประสาคนว่างงานและวัดที่เราหมายตาก็คือ วัดดอยโตน แต่เมื่อเราพากันปั่นไปถึงวัดดอยโตนปรากฏว่า แม่ชี(ผู้มีอำนาจ๕๕.)ได้แจ้งว่า ที่วัดดอยโตนต้องมีการจองมาก่อนล่วงหน้า และขณะนั้นก็กำลังมีคอร์สปฏิบัติธรรม พวกเราไม่ได้จองล่วงหน้าจึงไม่สามารถที่จะมานอนเพื่อปฏิบัติธรรมหรืออะไร ๆ ในวัดดอยโตนแห่งนี้ได้ แม้เราจะพูดขอร้องและแสดงเจตนาเป็น พุทธศาสนิกอย่างแท้จริง เช่นเราเป็น ส.ว.แล้วเรามีเต้นท์ เราไม่รบกวนทางวัดเพียงแค่อาศัยที่ ๆ กางเต้นท์แค่นั้น (สถานที่ออกกว้างขวางและเรามั่นใจในความบริสุทธิ์ใจของเรา) แต่ก็ไม่เป็นผล ขนาดว่าเราไปเจอพระอาจารย์(ไม่ใช่เจ้าอาวาส) ท่านยังออกปาก "เอ...แม่ชีทำไมอย่างนั้น" แต่ท่านก็ไม่กล้าที่จะไปพูดกับแม่ชี(ผู้จัดการบริหาร) :( :(

เมื่อไม่ได้เราก็ต้องถอย พระที่วัดดอยโตนยังมีเมตตา บอกให้เราไปขอพักที่วัดแม่สะป๊อกน่าจะได้ ช่วงนั้นเป็นเวลาเย็นมากแล้วเราจึงรีบล่าถอยมาที่วัดแม่สะป๊อก หลวงพ่อเมื่อทราบเรื่องที่เราเล่าให้ฟัง ท่านเมตตามาก ๆ บอกกับพวกเราว่า "เอา ๆ โยมสำหรับวัดนี้ โยมจะกางเต้นท์ตรงไหนอย่างไรเชิญตามสบาย" แถมยกน้ำดื่มมาให้พวกเราอีก ระหว่างวัดดอยโตน กับวัดแม่สะป๊อกเรียกว่า คนละ Feel กันเลย และนับแต่วันนั้นถ้ามีเวลาว่าง ผมและคุณนายมักจะขับรถเพื่อไปถวายอาหารกับหลวงพ่อเป็นประจำ ๆ

วันวาเลนไทม์ปีนี้ท่าน ผอ.ลือชัย ฯ กรุณาส่งมะม่วงจากพิษณุโลก มาให้ผมจึงถือโอกาสนำไปถวายหลวงพ่อพร้อมทั้งถือโอกาส สำรวจเส้นทางจาก บ.แม่สะป๊อก ทะลุออกดอยอินทนนท์ แวะชมซากุระบานที่ขุนแม่วางด้วย ถนนจากแม่สะป๊อกสามารถที่จะทะลุออก กม.๓๑ จุดเริ่มต้นแข่งขันจุดที่ ๒ ของการแข่งขันประจำปี ขึ้นดอยอินทนนท์ ปีนี้(๒๑ ก.พ.๕๙)ทราบว่ามีจำนวนผู้เข้าแข่งขันถึง ๕๐๐๐ คน ในนี้จะมีกลุ่ม M.J.นครปฐมเข้าร่วมด้วย ผมเอาใจช่วยนะครับ :) :D


รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

เส้นทางเส้นนี้ผมกล้าพูดว่า โหดกว่าเส้นที่ใช้แข่งขัน ผมจึงมีโครงการเสร็จงานและพ้นภาวะวิกฤตหมอกควันจะพาคูณนายมาปั่นเส้นทางนี้บ้าง หลังจากที่เคยปั่นเส้นหลังอินทนนท์เข้าทางแม่แจ่ม ซึ่งเส้นนั้นก็โหดพอ ๆ กับเส้นนี้ครับ ใครว่างหลังจากแข่งขันกันแล้วให้มาชิมราง ๒ เส้นทางนี้นะครับ เส้นหลังอินทนน์(แม่แจ่ม) เส้นข้างอินทนนท์(ขุนวาง) รับรองจะติดใจครับ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

เข้าโครงการหลวงชื่นชมความงามของซากุระหายเหนื่อยแน่นอน ใครมีเต้นท์ก็ไปกางรับลมหนาวได้ รับประกันความสุขครับ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ


รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

:) :D สำหรับทุกท่านฝาก ๒ เส้นทางนี้(หลังอินทนนท์ + ด้านข้างอินทนน์) ไว้ในใจของท่าน ไปหาความสุขสนุกกับการพิชิตอินทนน์ในแบบของ Touring กันได้นะครับ :) :D
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ............พาคุณนาย ไปทัวริ่ง ..... โดย พี่แดงสารภี ..............

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

เจ้าคุณเบอร์ลิน ได้แชร์โพสต์ของ Thairath
7 ชม. •
บริหารประเทศแบบทหาร : มองภัตตาหารเพลพระ เป็นยุทธปัจจัยของศัตรู.
.......
ใกล้แล้วครับ ใกล้จะเกิดไฟศาสนาเผาแผ่นดินไทยไปทุกวันแล้ว
แผ่นดินที่ชื่อว่าพุทธศาสนาเจริญที่สุดในโลกนึ้แหละครับ.
.....
- ภาพพระปะทะทหารในเครื่องแบบขุดลายพลาง
ที่กำลังฉุดกระซากลากถู ประชิดตัว ล๊อคคอ กระชากจีวร ดึงเสื้อทหาร
ลามไปถึงขนาด ใช้กำลังจะยกรถรบที่ใช้ในราชการสงคราม โดยมีทหาร และพระอยู่คนละฝั่งนั้น.
- ซึ่งภาพเหล่านี้ รุ่งขึ้นจะต้องปรากฏในสื่อต่างประเทศทั่วโลกอย่างแน่นอน อาจได้รางวัล
มันจะเป็นภาพที่ จะต้องถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ชาติไทยว่า..
"ที่ประเทศไทย ในวันที่ 15.02.2016
ภายใต้การบริหารประเทศ ของรัฐบาลที่เป็นทหาร
มาจากการปฏิวัติรัฐประหาร
อันมี พล. อ. ประยุทธ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี นั้น
ได้มีการปะทะระหว่างพระสงฆ์เถรวาท กับกำลังทหารในเครื่องแบบ ที่ พุทธมณฑลเกิดขึ้น".
.....
ภาพลักษณ์อันสุดอัปยศของไทย
- ทั้งภาพนิ่ง และวีดีโอ เหล่านี้
ได้ถูกส่งเผยแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว
เกิดสภาพในอาการซ้ำเติมประเทศไทยอย่างหนัก
ทั้งที่ถูกต่างชาติประณาม และแอนตี้ทุกทาง
อันเกิดเนื่องมาจากรัฐประหาร และเรียกร้องให้มีการจัดเลือกตั้งโดยเร็ว อยู่แล้วนั้น
มาซ้ำเติม ทำให้โดยรวมของประเทศไทยทรุดหนักยิ่งขึ้น.
......
- นานาชาติ จะต้องตั้งคำถามต่อคนไทยว่า..
"นี่มันเกิดอะไรขึ้นในประเทศพวกคุณ"
หรือว่า ปัญหาความขัดแย้งไทยจากอาณาจักร ได้ไหลเข้าไปสู่ศาสนจักรโดยสมบูรณ์ไปแล้ว
หรือว่าในวันนี้ ในทุก ๆ ภาคส่วน ทุก ๆ วงการของไทย มันแตกแยกไปหมดแล้ว.
- แม้แต่วงการแห่งความเชื่อความศรัทธา เช่น ศาสนา
ที่เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานสากล
ที่มนุษย์ทุกคนสามารถ ที่จะมีความเป็นอิสระที่จะเลือกเฉพาะตนนั้น
ก็ยังถูกคุกคาม ข่มขู่ จากกลุ่มแก๊งค์ปั่นป่วนสังคม
ที่คิดการใหญ่ขนาดจะล้มล้างพุทธศาสนาในประเทศไทย
ที่ผู้มีอำนาจในประเทศไทย
ได้ให้ท้ายอย่างลับ ๆ ให้การสนับสนุน
ทำนองให้อีกกลุ่มเคลื่อนไหวอะไรก็ได้
แต่สกัดไม่ให้อีกกลุ่มได้ทำกิจกรรมอะไรได้เลย.
นี่เป็นคำถามที่รัฐบาลจะต้อง
เตรียมไว้ตอบคนไทย และต่างชาติ.
....
ความละเอียดอ่อนของศาสนา
- ด้วยการใช้ยุทธวิธีแบบทหารที่ปฏิบัติต่อข้าศึกในสงคราม
ที่รัฐบาลทหารพลาดนำมาใช้กับพระสงฆ์ที่พุทธมณฑล.
......
- มาวันนี้ พระสงฆ์ไทย และชาวพุทธมากกว่า 2 หมื่น.
- รวมตัวกันไปทำกิจกรรมทางศาสนา ในศาสนสถานของตน
เนื่องจากเทศกาลวันมาฆบูชา วันสำคัญทางพุทธศาสนาที่กำลังจะมาถึงใน 2-3 วันนี้.
- กลับมีเหตุการน่าสลดใจ หดหู่ บาดลึกในหัวใจชาวพุทธอย่างแรง คือ
1. พระสงฆ์ไทยฉันเช้า เพล วันละ 2 มื้อ แต่มีทหารขัดขวาง
2. มีการร่วมทำกิจกรรมทางพุทธศาสนาขึ้น มีชาวพุทธเกิดศรัทธา กำลังนำอาหารเพล จะเข้าไปถวายพระเหล่านั้น.
3. ด้วยการคิด และการทำงานแบบทหาร
ทหารนายกบิ๊กตู่กลับมองอาหารเพลของพระพวกนี้
เป็นยุทธปัจจัยของศัตรู
จึงเข้าสกัดกั้นขัดขวางด้วยยานยนต์ที่ใช้ในราชการสงคราม
จนเกิดการปะทะ และมีภาพประจานไปทั่วโลก.
....
- เจริญ ๆ เถอะ นายก ประยุทธ จันทร์โอชา
ถึงนาทีนี้ ถ้าหากไม่รีบสั่งให้ถอนทหารทั้งหมดออก ไปจากพุทธมณฑล โดยเร็วที่สุดละก็
จะขอบอกว่า ตัวท่านเอง และครอบครัวนะแหละ
จะอยู่ในแผ่นดินพุทธแห่งนี้ไม่ได้
ไอ้อาการปากว่าตาขะหยิบไปกับแก๊งค์พุทธอิสระที่สะสมอยู่อยู่ในหัวใจชาวพุทธไทยมาต่อเนื่องนั่น
มาถึง ณ วันนี้ ซ้ำยังดันส่งทหารมาทำหยาบๆ เถื่อน ๆ แบบนี้
กับสงฆ์องค์เจ้าซ้ำไปอีก
"อะไร ๆ มันก็จะเร็วนะครับท่าน"
ระวังนะครับ ภัยคือความร้อนแรงทางศาสนานี่
มันอันตราย และให้ผลเร็วกว่า
และมากกว่า
"ที่ท่านต้องมานั่งระแวงเพื่อนรักทุก ๆ วัน"
ว่า
"เพื่อนรักจะมาเอาอี้นายกของกูคืนไป เมื่อไร"
ภัยนี้มันหลายเท่านะครับท่าน
ตรองเอาเองนะครับ
ท่านก็ไม่ใช่คนโง่สักหน่อยนี่
โชคดีนายกที่รักของชาวพุทธ ....(อิสระ).
....
สุดท้าย อยากจะขอเตือนสติ
นายกบิ๊กตู่ แบบลึก ๆ ก่อนจบว่า...
"พระสงฆ์ทุกรูปในประเทศไทยนั้น
เป็นผู้ที่พระราชาในแผ่นไทย
นับแต่อดีตถึงปัจจัย
ทรงศรัทธาเลื่อมใส และถวายการอุปถัมภ์คุ้มครองทั้งสิ้น
ดังนั้น ทหารพระราชาไม่มีสิทธิ์คุกคาม และทำร้ายได้
ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น".
โชคดีมีชัยทุกท่านครับ.
เจ้าคุณเบอร์ลิน
15.02.2016
แนบข่าว สังฆามติ.
.........,
พระเมธีธรรมาจารย์ เลขาธิการศูนย์พิทักษ์ แถลงสังฆามติ ประกาศชุมนุมไม่มีกำหนด หากไท่บรรลุข้อเสนอ 5 ข้อ
....
ในช่วงเย็นนี้
ฝ่ายรัฐบาลเชิญหารือร่วม โดยทางพระเมธี แถลงการณ์และมีข้อเสนอ 5 ข้อ
1.ห้ามหน่วยงานรัฐเข้ามาก้าวก่ายเรื่องทางสงฆ์
2.ขอให้รัฐบาลยึดถือธรรมเนียมปฏิบัติที่กระทำสืบกันมา
3.ขอให้ยึดมติเถระสมาคมในการเสนอชื่อสมเด็จมหารัชมังคลาจารย์ สถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช
4 ขอให้รัฐบาลปฏิบัติต่อพระสงฆ์ด้วยความเคารพ
5.ขอให้บัญญัติพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ
#‪#‎สดจากภาคสนาม‬
https://www.facebook.com/ThairathFan/po ... 3419877439



:( :( เคยเห็นแต่ในประเทศอื่น ไม่นึกไม่ฝันว่าจะเกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรา ทำไงดีครับ?เห็นภาพข่าวใน ทีวี.ที่พระกับทหารตีกันแล้วรับไม่ได้ มันเกิดอะไรขึ้นครับ สงสารประเทศไทยจริง ๆ ผมมีเพื่อนต่างชาติภาพข่าวนี้เผยแพร่ไปทั่วโลก ผมควรจะตอบคำถามเขาว่าอย่างไร "ความกลัวนี่เป็นภัยจริง ๆ " :( :(
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ............พาคุณนาย ไปทัวริ่ง ..... โดย พี่แดงสารภี ..............

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

:D :D เมื่อวาน ๑๗ ก.พ.อาม่า(คุณแม่น้องม่อย) เดินทางมาจากลำปางมาเยี่ยมลูกสาว(ม่อย/ดารณี)ซึ่งเจ้าหล่อนต้องพบกับมหาวิบากของชีวิต ต้องผ่าตัดตับออกไปซะเศษหนึ่งส่วนสาม เรียกว่าผ่าตัดใหญ่ ขณะนี้ผ่าตัดได้เดือนกับอีกสิบกว่าวัน ต้องให้อยู่พักอาศัยกับผมและคุณนายที่บ้านสารภี เพื่อพักฝื้นอยู่กับเราต้องกินมังสวิรัติกับเรา เพราะเรา ๒ คน(ตา ยาย ๕๕) ไม่กินเนื้อสัตว์ อาการของเธอเป็นไปด้วยดี แผลหายเร็ว แผลสวยด้วย ร่างกายฝื้นตัวเร็วมาก หลังจากหายแล้วคงประมาณ ๒ เดือนจะจับตัวไปปั่นจักรยานครับ (น้องม่อยเป็นญาติธรรมกับผมและคุณนาย เราไปปฏิบัติธรรมด้วยกันเกิน ๑๐ ปีแล้ว ไม่เหมือนญาติแต่ก็ยิ่งกว่าญาติ ไม่เหมือนน้องสาวก็ยิ่งกว่าน้องสาว)

เมื่อคุณแม่มาเยี่ยมและมาพักค้าง ไม่ให้คนแก่เหงาก็พาไปแช่/อาบน้ำร้อนที่น้ำพุร้อนสันกำแพงครับ เรานำอาหารการกินไปด้วยเพราะ มังสวิรัติหากินลำบากนำไปเองสดวกกว่า เมื่อทานอาหารกลางวันเสร็จก็พาอาม่า ไปอาบน้ำร้อนผ่อนคลายจนตะวันบ่าย (๑๖๐๐น.) ก็พาไปเที่ยวห้องอาหารกาแลหลัง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่(มช.)ให้ไปชมดอกไม้สวย ๆ และรับประทานอาหารเย็น ก่อนกลับบ้านสารภี ดีใจครับอาม่ามีความสุข อาม่าทำงานหนักตั้งแต่เป็นสาวขายบะหมี่ เกี๊ยว ที่ ลป.มีชื่อเสียงมาก ถึงขนาด ม.ร.ว.ถนัดศรี ไปทานเป็นประจำทุกปีและมอบโล่ห์อาหารอร่อยที่สุดของ ลป.(เชลล์ชวนชิม) วันนี้ร้านอาหารนี้แตกออกเป็น ๒ ร้าน ร้านแรกชื่อร้าน รสดี ร้านที่สองชื่อ ร้านโกจือ ใครไป-มา ผ่าน ลป.แวะชิมได้ครับ :) :)


รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ


รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ :o :o อาม่าชอบดูเปาปุ้นจิ้นของช่อง ๓ มาก ๆ เรียกว่าติดหนึบ ก็ไม่ให้พลาดให้ดู TV.on line บนมือถือของผม อาม่าหัวเราะชอบใจ ทำให้คนแก่มีเสียงหัวเราะ ได้บุญมหาศาลครับ :) :)

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

:D :D ท่านใดที่มีเวลาไปเที่ยวเชียงใหม่อย่าลืมเสียสละเวลา ๑ วันเต็ม ๆ ไปน้ำพุร้อนสันกำแพงไปแช่/อาบ ให้ผ่อนคลายไล่โรคภัยไข้เจ็บ(ปวดเมื่อย)ที่นี่เขาพัฒนาไปเรื่อย ๆ สถานที่สะอาด น้ำร้อนได้รับการดูแลอย่างดี (ทำสะอาด) มีดอกไม้ให้ชื่นชมเสียค่าเข้าไปใช้ไม่กี่ตังครับ ผู้สูงอายุครึ่งหนึ่ง(๒๐ บ.) ไปกันนะ

หลังจากแช่/อาบจนช่ำใจ ไปกินอาหารชมวิวทิวทัศน์ของเมืองเชียงใหม่ ที่ร้านอาหารกาแลร้านนี้อยู่คู่เมืองเชียงใหม่มาเกือบ ๓๐ ปีได้ละ ตั้งแต่สมัยที่ผมยัง กิน/ดื่ม นั่นแหละครับ อาหารคงรับประกันความอร่อยได้เพราะไม่ดีจริง คงไม่ยืนยงถึงวันนี้ ส่วนอาหารมังสวิรัติผมเองการันตี อร่อยใช้ได้ทีเดียวครับ ดูหนังท่านเปาจบก็พาอาม่ากลับมานอน รุ่งเช้า ตอนสาย ๆ อาม่าจะกลับลำปางแล้ว ลูกสาวคนเล็กจะมารับ ส่วนลูกสาวคนโตให้อยู่รักษาตัวที่สารภี จนกว่าจะหายเป็นปกติ :) :)


:idea: :idea: ......https://www.youtube.com/watch?v=vdfmWEmD-Yw...... :idea: :idea:




:) :D :D :) :) :D :D :) :) :D
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ............พาคุณนาย ไปทัวริ่ง ..... โดย พี่แดงสารภี ..............

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

รูปภาพรูปภาพรูปภาพรูปภาพรูปภาพ

:o :o (25 ม.ค.) ชาวเน็ตแห่แชร์ความประทับใจ ของ แพทย์หญิงชนกานต์ ชัชวาลา อาจารย์ประจำภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เข้าพิธีรับปริญญาที่ Usher hall University of Edinburgh ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2558 โดยชุดที่เธอสวมใส่ เป็นชุดไทย ถูกส่งต่อ กระจายในโลกโซเชียล ชาวเน็ตต่างชื่มชมเธอ ที่สะท้อนความเป็นไทยได้อย่างงดงาม

ล่าสุด แพทย์หญิงชนกานต์ โพสต์แสดงความเห็นในเฟสบุ๊คส่วนตัว มีรายการโทรทัศน์ ติดต่อเพื่อขอสัมภาษณ์ แต่เธอปฏิเสธไปหมด

ขอบคุณภาพจาก Fon Jatchavala


:) :D หลังจากที่เดินทางกลับจากสำรวจเออีซีก่อนที่จะเปิดเป็นทางการ ตลอดระยะเวลาเกือบ ๒ เดือนเรา ๒ คน(ตา-ยาย) ก็ไม่ได้จับจักรยานปั่นเลย เนื่องจากภารกิจประจำวันที่มากมาย เพื่อสุขภาพและความสุขของชีวิตลุงป๊อก โทร ฯ มาปรึกษาหากเราจะไม่หาเวลาออกกำลังปล่อยปละละเลย จะตายไวขึ้นนะ ว่าแล้วเราก็ตกลงกันปั่นไปเยี่ยมหลวงพี่ที่วัดดอยสัพพัญญู ตั้งอยู่ที่ อ.สันป่าตอง ห่างจากบ้านไป-กลับ ประมาณ ๘๐ กม.มีดอยให้ปั่นเรียกว่าได้ออกกำลังตามประสงค์ เมื่อตกลงกันเรียบร้อย D-day คือเมื่อวาน(๒๗ก.พ.๕๙) ลุงป๊อกเดินทางจาก บ.บวกครกในเมืองมาที่ บ.ปากกองสารภี เรา ๓ คนร่วมเดินทางไปออกกำลังและเยี่ยมหลวงพี่ ตลอดทางเราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ และการทำร้ายทำลายธรรมชาติของ คน ตามไปนะครับจะพยายามเก็บมาเล่าให้ฟัง :) :D

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

:( :( ปั่นเข้าไปตามซอกซอยเราเห็นการทำนาของชาวบ้าน น่าสงสารครับน้ำไม่มีต้นข้าวบางที่บางแห่ง แคระแกนตายแหล่มิตายแหล่ น้ำปิงที่แห้งขอดชาวบ้านเดือดร้อน ข่าวมีว่าในไม่ช้าจะมีการแย่งน้ำกัน ปัจจุบันนี้ทางการก็มีการห้ามทำนาปรังกันแล้ว แต่ชาวนาถ้าไม่ทำนาจะเอาอะไรกินเป็นปัญหาใหญ่ทีเดียวและเนื่องมาจากการโหมทำร้ายทำลายธรรมชาติของคน วันนี้ธรรมชาติก็มาแสดงผล(ทำร้ายทำลายคน)เรียกว่ามาเอาคืนแล้ว น้ำแห้งแล้งกันทั่วประเทศและทั่วโลกเรามาดูนะว่าผลเสียของการไม่รักป่าไม้(จากหน่วยที่เขารณรงค์ให้คนรักป่ากัน) และนับแต่นี้ไปอยากจะบอกว่าเราต้องช่วยกันแล้วล่ะครับ ว่า เราจะไม่ทำร้ายทำลายโลกด้วยการรังแกธรรมชาติ ปล่อยให้เขาเป็นไปตามธรรมชาติ แล้วธรรมชาติก็จะไม่ลงโทษพวกเรา ช่วยกันนะครับ

:idea: :idea: ผลกระทบจากการทำลายป่าไม้ (ขอขอบคุณเวปป์ รักษ์โลกสีเขียว ครับ)


รูปภาพจากการที่ปริมาณป่าไม้ลดลงย่อมก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ทางกายภาพ และมีผลต่อปัจจัยทางชีวภาพ มีผลกระทบต่อ สภาพดิน น้ำ อากาศ สัตว์ป่า สิ่งแวดล้อมอื่นๆ เพราะทั้ง ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม จะมีความสัมพันธ์กันไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ในระบบนิเวศ ก่อให้เกิดสมดุลทางธรรมชาติ การทำลายป่าจึงก่อให้เกิดผลกระทบในด้านต่างๆ ดัง


รูปภาพ1. เกิดการชะล้างพังทลายของดิน
ป่าที่ถูกทำลายจะทำให้ไม่มีต้นไม้ วัชพืช หญ้าปกคลุมดิน เมื่อฝนตกลงมาน้ำฝนจะกัดเซาะหน้าดินที่อุดมสมบูรณ์ให้ไหลไปกับกระแสน้ำ


รูปภาพ2. เกิดน้ำท่วมในฤดูฝน
บริเวณป่าที่ถูกทำลายจะไม่มีต้นไม้ วัชพืช และหญ้าที่ปกคลุมหน้าดินช่วยดูดซับน้ำฝน ไว้ ทำให้น้ำไหลบ่าจากที่สูงอย่างรุนแรง และมีปริมาณมากทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ ตอนล่างอย่างฉับพลัน


รูปภาพ3. เกิดความแห้งแล้งในฤดูแล้ง
การทำลายป่าไม้ ต้นน้ำลำธารทำให้ป่าไม้ถูกตัด แยกออกเป็นส่วนๆ เกิดการระเหยของน้ำจากผิว ดินสูง แต่การซึม ผ่านผิวดินต่ำ ดินดูดซับและเก็บ น้ำไว้ได้น้อย ส่งผลให้น้ำไหลลงสู่ลำธารน้อยเกิด ความแห้งแล้งในฤดูแล้ง


รูปภาพ4. เกิดปัญหาโลกร้อนขึ้น
เนื่องจากป่าไม้เป็นแหล่งของการหมุนเวียนสาร ระหว่างออกซิเจน คาร์บอนไดออกไซด์ น้ำและสารอื่นๆ ในระบบนิเวศที่ สำคัญ การทำลายป่ามีส่วนทำให้เกิดการสะสมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในบรรยากาศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้อุณหภูมิของโลกสูง


รูปภาพ5. คุณภาพของน้ำเสื่อมลง
เมื่อฝนตกในบริเวณป่าไม้ที่ถูกทำลายก็จะพัดพาเอาดินโคลน ตะกอนลงสู่ แหล่งน้ำทำให้น้ำขุ่นและเกิดการตื้นเขินส่งผล ให้คุณภาพน้ำทั้งทางด้าน กายภาพ ชีวภาพ และเคมีด้อยลง ไม่สามารถใช้น้ำในการอุปโภค บริโภค ได้


รูปภาพ6. พืชและสัตว์ป่ามีจำนวนและชนิดลดลง
ป่าไม้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของ พืชและสัตว์ป่า การตัดไม้ทำลายป่าเป็น การทำลายแหล่งอาหาร ที่อยู่อาศัย และความหลากหลายทางชีวภาพ ทำให้พืชและสัตว์ป่าหลายชนิดมีปริมาณ ลดลงจนเกือบสูญพันธ์
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ............พาคุณนาย ไปทัวริ่ง ..... โดย พี่แดงสารภี ..............

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

รูปภาพนาที่ขาดน้ำเตรียมเฉาตาย น้ำปีนี้แห้งขอดจริง ๆ ข่าวว่าแม้น้ำที่จะทำประปายังขาดแคลน เตรียมตัวเตรียมใจกันนะครับ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพเราไม่รู้ทางปั่นเข้าตามซอกซอยสนุกสนานไปตามประสา ใช้วิธีการสังเกตุทิศและมองเขาที่เป็นที่ตั้งของวัดเป็นหลัก ถ้าเราเข้าเขตุสันป่าตองสอบถามชาวบ้านสักนิดนึงก็จะดีว่า ไปทางไหนนะครับสุดท้ายเรามาเจอคุณลุงแกคงมีปัญหากับจักรยานของแก เราก็คิดจะช่วยเหลือแก เห็นจักรยานของแกเป็นรุ่นผสมไม่รู้ว่ายี่ห้อไหน ผสมกับยี่ห้อไหนตั้งแต่รุ่น ราเล่ย์เมื่อ ๔-๕๐ ปีมาแล้วปสมกับจักรยานรุ่นใหม่ ดูแล้วไม่น่าจะปั่นได้แต่แกก็ปั่นของแกได้ วันนั้นยางไปเบียดกับตะเกียบเราก็ลงไปช่วยพอแก้ขัด และได้สอบถามทางขึ้นดอยสัพพัญญู คำตอบ"ไปเหอะ..ไม่หลงหรอกปั่นไปเลยทั้งสองเส้น ทางซ้ายและทางขวา" สรุปไม่ได้เรื่อง ๕๕ เราก็ตัดสินใจปั่นเดินหน้ามองดูยอดเขาเป็นหลักไปตามทางในที่สุดก็ทะลุจนได้ :lol: :lol:

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

:idea: :idea: เรามาตามติดข่าวคนดังแห่งยุคกัน: 28 ปี บนเส้นทางสายข่าว 'สรยุทธ สุทัศนะจินดา'

ไม่ว่าจะเรียกเขาว่าอย่างไร นักเล่าข่าว กรรมกรข่าว หรือเจ้าสัวข่าว แต่ในวันนี้ เส้นทางสายข่าว ของ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ดูจะแคบเข้าและเดินสู่จุดตีบตันในทันทีที่ศาลอาญามีคำพิพากษาให้จำคุกเขา และมือขวาคนละ 13 ปี 4 เดือน

สรยุทธ สุทัศนะจินดา เริ่มต้นอาชีพนักข่าวสายการเมืองกับหนังสือพิมพ์เดอะ เนชั่น เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมพ.ศ. 2531 จากนั้นก็เติบโตขึ้นในสายงานตามลำดับ

สถานีโทรทัศน์ไอทีวี คือเวทีแจ้งเกิดของสรยุทธ ในฐานะนักวิเคราะห์ข่าวทางโทรทัศน์ ในนาม เวทีไอทีวี, ฟังความรอบข้าง,ไอทีวี ทอล์ก

ในเวลาต่อมา เมื่อครั้งที่เนชั่นเปิดสถานีข่าว 24 ชั่วโมงในนามเนชั่น แชแนลทางยูบีซี 8 สรยุทธ์ก็เป็นอีกแรงหนึ่งที่ทำให้รายการเก็บตกจากเนชั่น, รายการคมชัดลึก, ก๊วนกวนข่าว มีความโดดเด่นและคึกคัก

ยังมีรายการข่าวที่ทำร่วมกับช่อง 9 ในชื่อ คุยคุ้ยข่าว รวมถึงรายการ ถึงลูกถึงคน ซึ่งเป็นช่วงที่ชื่อ สรยุทธ สุทัศนะจินดา โด่งดังเป็นที่รู้จักกันทั่วประเทศ

หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงทางโมเดิร์นไนน์ทีวี สรยุทธย้ายมาประจำการที่ช่อง 3 โดยจัดรายการใหม่ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเวลาอันรวดเร็ว เรื่องเล่าเช้านี้ เรื่องเด่นเย็นนี้ และเรื่องเล่าเสาร์ อาทิตย์ สร้างชื่อเสียงให้กับสรยุทธชนิดที่เรียกว่าหยุดไม่อยู่กันเลยทีเดียว

ด้วยเหตุที่ทั้งสามรายการสามารถตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง คนทำงานรุ่นใหม่ ผู้ต้องการเสพสื่อสาระที่ถูกย่อยสังเคราะห์แล้ว ทั้งขณะเตรียมตัวออกไปทำงาน ขับรถอยู่บนท้องถนน และช่วงกลับบ้าน ตลอดไปจนถึงช่วงสาย ๆ ของวันหยุด ที่สรยุทธเข้ามาช่วยจับประเด็น ย่อยข่าวจากกระแสหลากหลายให้ นั่นจึงเป็นที่มาของยุคทองของ สรยุทธ สุทัศนะจินดา

บนเส้นทางสายสื่อ ชื่อของสรยุทธ สุทัศนะจินดา ยังถูกบันทึกเอาไว้ในฐานะของนักเขียนบทความอีกคนหนึ่งของวงการ ผลงานที่โดดเด่นของเขา อาทิ คอลัมน์คุยนอกสนาม ในนิตยสารแพรว (ปัจจุบันเลิกเขียนแล้ว), คอลัมน์ พูดจาประสาข่าว, คอลัมน์ คุยคุ้ยข่าว ในหนังสือพิมพ์คมชัดลึก (ปัจจุบันเลิกเขียนแล้ว) และยังมีผลงานที่เป็นหนังสือเล่ม คือ คมชัดลึก, กรรมกรข่าว, กรรมกรข่าว 2 งานรับเหมา, คุยนอกสนาม, กรรมกรข่าว 3

ปี 2540 สรยุทธอยู่ในตำแหน่งรองบรรณาธิการบริหาร เดอะเนชั่น ก่อนแยกทางพร้อมทีมงานส่วนหนึ่งออกไปตั้งบริษัทขายข่าวในนาม บริษัท ไร่ส้ม ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในเวลาอันรวดเร็ว

สรยุทธ สุทัศนะจินดาจัดเป็นพิธีกรและผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ของประเทศไทย ผู้มีชื่อเสียงในการสัมภาษณ์ทั้งคำถามและลีลาอันเป็นเอกลักษณ์ โดยนำข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์มาอ่านในรายการโทรทัศน์ หรือที่เรียกว่าเล่าข่าว (News Talk)

เสน่ห์อย่างหนึ่งของสรยุทธที่เป็นแม่เหล็กตรึงผู้ชมเอาไว้หน้าจอทุกครั้งที่เขาวาดลวดลายในรายการก็คือ ความเป็นนักเล่าเรื่องที่หาตัวจับได้ยาก เพราะเขาสามารถถ่ายทอดเรื่องยาก ๆ มีความซับซ้อนให้เข้าใจง่าย มีวิธีการนำเสนอที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง

ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า เขาทำเกินหน้าที่ของสื่อหรือไม่ แต่เสียงตอบรับจากชาวบ้านอันอื้ออึงถึงขั้นยกให้เป็นฮีโร่ในสถานการณ์น้ำอุทกภัยปี 2553 ถึงกับมีคนบอกว่า สรยุทธ คือ นายกฯ ตัวจริง หาใช่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เขาคุ้นเคย นั่นย่อมกลบคำครหาต่าง ๆ นานาลงไปหมดสิ้น

ในทางกลับกัน นักวิเคราะห์มองว่า อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของพิธีกรคนดังก็คือ ภาพของผู้ใจบุญสุนทาน การเปิดบัญชีช่วยเหลือผู้ประสบภัย ออกแจกจ่ายข้าวของต่าง ๆ นานา จึงเรียกความรักและศรัทธามาให้กับเขาเหมือนกับรายได้ที่เข้ามาเป็นกอบกำในห้วงเวลาเดียวกัน

เส้นทางสายสื่อของสรยุทธนับว่าน่าสนใจไม่น้อยทีเดียว เพราะเขาสามารถผันตัวเองจากคนข่าว ในฐานะพนักงานตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งของเครือเนชั่น ที่เริ่มงานตั้งแต่ปี 2531 สู่ความเป็นเจ้าของกิจการขายข่าว ซึ่งมีผลประกอบการดีเลิศในเวลาไม่นาน

หนึ่งในความสำเร็จมากล้น มีผู้วิเคราะห์เอาไว้ว่า เขามีลักษณะของนักธุรกิจและนักการตลาดอยู่มากทีเดียว นั่นหมายถึงความน่าเชื่อถือของสินค้าต่าง ๆ รวมทั้งของแจกที่เขาพูดถึงในรายการของเขาด้วย

แต่สำหรับธุรกิจจริง ๆ จัง ๆ ของเขาเองนั้น ในฐานะผู้บริหารบริษัท สรยุทธ ดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการบริษัท ไร่ส้ม จำกัด(ผลิตรายการโทรทัศน์) และบริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด (รับจัดงานและกิจกรรม)

สำนักข่าว อิศรา รายงานผ่าน http://www.isranews.org/ ว่า สรยุทธ สุทัศนะจินดา นักเล่าข่าวชื่อดังเจ้าของบริษัท ไร่ส้ม จำกัด และ บริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด มีรายได้ในรอบ 8 ปีกว่า 2,600 ล้านบาท

นับตั้งแต่ก่อตั้ง บริษัท ชัดถ้อยชัดคำ วันที่ 9 ตุลาคม 2546 ทุน 1 ล้านบาท สรยุทธ ถือหุ้น 79.99% และก่อตั้ง บริษัท ไร่ส้ม จำกัด เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2547 ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ยสรยุทธ ถือหุ้น 99.98% จากการรวบรวมผลประกอบการตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงสิ้นปี 2554 (8 ปี) ทั้งสองบริษัทมีรายได้รวม 2,624,570,323.10 บาท กำไรสุทธิ 1,047,275,753.81 บาท สินทรัพย์ปี 2554 รวม 273,839,213 บาท

แต่เส้นทางสายเจ้าสัวข่าวของสรยุทธ เริ่มไม่ราบรื่น โดยเมื่อเดือนกรกฎาคม 2549 บุณฑนิก บูลย์สิน รักษาการผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักการตลาด 1 อสมท.ได้สังเกตพบว่า รายการข่าวเที่ยงคืน ออกอากาศช้ากว่ากำหนด จึงสั่งตรวจสอบและเรียก พิชชาภา เอี่ยมสะอาด มาสอบถามต่อหน้าทุกคน โดยเธอ รับสารภาพว่า บริษัท ไร่ส้มฯ โฆษณาเกินเวลา และไม่ได้รายงานเพื่อเรียกเก็บเงินจริง และพิชชาภาได้ใช้น้ำยาลบคำผิดเฉพาะคิวโฆษณาเกินเวลาในส่วนของบริษัท ไร่ส้มฯ ในใบคิวโฆษณารวมของ อสมท. เพื่อปกปิดความผิดที่ได้กระทำขึ้นตามคำแนะนำของ สรยุทธ และ น.ส.มณฑา ธีระเดช พนักงานของบริษัท ไร่ส้มฯ

การตรวจสอบบริษัทไร่ส้ม พนักงาน อสมท. และสรยุทธกับพวก เริ่มดำเนินการมานับจากนั้น ผ่านตามขั้นตอนชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช.และส่งอัยการเพื่อฟ้องศาล

หลังจาก ป.ป.ช. ได้ชี้มูลความผิด กรณีบริษัทไร่ส้มเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2555 แต่ สรยุทธ ก็ยังคงใช้เวลาของรายการเรื่องเล่าเช้านี้ทางช่อง 3 เช้าวันรุ่งขึ้น ชี้แจงที่เสมือนการแก้ต่างในคดี โดยยังไม่ยุติการทำหน้าที่ตามกระแสกดดัน

"ตามที่ ป.ป.ช.ได้มีมติชี้มูลความผิด บริษัทไร่ส้มฯ ผม และพนักงานบริษัท ว่ามีความผิดฐานสนับสนุนการกระทำความผิดของพนักงาน อสมท เพื่อให้ช่วยเหลือบริษัทไร่ส้มฯ ได้โฆษณาเกินเวลาตามที่กำหนดไว้ในสัญญาโดยไม่เรียกเก็บเงินค่าโฆษณา เป็นจำนวนเงิน 138,790,000 บาท ผมเองเนี่ยนะครับ เคยยืนยันออกอากาศไปกับท่านผู้ชม เมื่อครั้งที่พบปัญหาครั้งแรกแล้วว่า พร้อมจะพิสูจน์และรับผิดชอบในเรื่องนี้ ถ้าได้มีกระบวนการตรวจสอบ และจะได้นำมาแจ้งกับท่านผู้ชมต่อไป" สรยุทธพูดออกอากาศ

เขาสรุปทิ้งท้ายว่า "อนาคตจะเป็นอย่างไร ผมจะได้ใช้สิทธิของผมแล้วก็จะได้นำมาแจ้งกับท่านผู้ชมต่อไปนะครับ ขอบคุณท่านผู้ชมนะฮะ ที่ติดตามข่าว แล้วก็ให้โอกาสฟังคำชี้แจงของผมด้วย"

ต่อมาสภาการหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้มีมติให้ สรยุทธ ยุติการทำหน้าที่ของตนเอง แต่สรยุทธเลือกยื่นหนังสือลาออกแทน แต่ต่อมาสภาฯ ได้ชี้แจงว่า สรยุทธได้พ้นสมาชิกภาพไปแล้วกว่า 3 ปี เพราะไม่ได้จ่ายค่าสมาชิก

เช้าวันศุกร์ ที่ 30 มกราคม 2558 (ซึ่งก็ไม่ต่างจากเช้าวันพิพากษา 29 กุมภาพันธ์ 2559 หรืออีก 13 เดือนถัดมา) สรยุทธยังคงจัดรายการเรื่องเล่าเช้านี้ตามปกติ ก่อนที่เขาจะเดินทางออกไปขึ้นศาล ท่ามกลางสื่อมวลชนจำนวนมาก

ก่อนเดินทางกลับออกมาจากศาล เขาให้สัมภาษณ์ว่า "กรณีที่เกิดขึ้น อสมท ไม่ได้เกิดความเสียหาย และสิ่งนี้คือสิ่งที่ผมจะพิสูจน์กับศาล เช่นเดียวกับที่ผมพิสูจน์ในศาลปกครอง ผมก็ต้องพิสูจน์ให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ ผมจะพิสูจน์ให้เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมนั้นมี และ อสมท นอกจากจะไม่เสียหายแล้ว เป็นฝ่ายได้ประโยชน์ด้วยซ้ำไป"

แม้จะมีกระแสกดดันต่อสรยุทธอยู่เป็นระยะ หากแต่พิธีกรข่าวอันดับหนึ่งของประเทศรายนี้ ก็ยังคงยืนหยัดปักหลักอยู่หน้าจอโทรทัศน์ช่อง 3 ได้อย่างเหนียวแน่นทั้งช่วงเช้า เย็น และวันหยุดสุดสัปดาห์

องค์กรเอกชนอย่างภาคีเครือข่ายต้านคอร์รัปชั่น ซึ่งเป็นองค์กรภาคธุรกิจที่ต่อต้านการคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบในสังคม ได้ทำหนังสืออย่างเป็นทางการไปยังช่อง 3 ซึ่งเป็นต้นสังกัดให้พิจารณาการทำหน้าที่ของสรยุทธ ไม่เช่นนั้นแล้วจะถอนโฆษณาที่สนับสนุนในช่วงรายการของสรยุทธ แต่สรยุทธก็ยังอยู่ยงคงกระพัน เป็นพิธีกรข่าวของช่อง 3 ตลอดมา

คำพิพากษาศาลอาญาพิพากษาให้จำคุกสรยุทธ และพวกในคดีเบี้ยวค่าโฆษณา อสมท. เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ จะเป็นอีกบทพิสูจน์หนึ่ง ซึ่งแสดงให้เห็นความรับผิดชอบของสื่อ ทั้งในแง่องค์กรและตัวบุคคล : ข่าวจาก Nation Chanel & Msn
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ............พาคุณนาย ไปทัวริ่ง ..... โดย พี่แดงสารภี ..............

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

รูปภาพ :P :P ปั่นจักรยานขายกับข้าวในหมู่บ้าน หาเลี้ยงครอบครัวมานานถึง 18 ปี เป็นพวกผักสด เนื้อหมู เนื้อไก่ เหมือนรถกับข้าวที่ขายตามหมู่บ้านทั่ว ๆ ไป แต่จะแตกต่างจากผู้อื่นคือใช้รถจักรยาน แทนที่จะเป็นรถกระบะ โดยออกเร่ขายกับข้าวให้ประชาชนในหมู่บ้านชุมชนบางแก้ว วันละ 2 รอบ เช้าและเย็น

แม่ค้าคนดังกล่าว คือ นางนาติ มูเซอร์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 ถนนเทศบาล 1 ตำบลบางแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง โดยปั่นจักรยานคู่ใจขายกับข้าวสร้างรายได้หาเลี้ยงครอบครัวมานานถึง 18 ปีเต็ม

นางนาติเปิดเผยว่า ตนเองได้นำรถจักรยานดัดแปลงที่ซ้อนด้านหลังใส่ตะกร้าเพื่อบรรทุกพวกผักหลาย ๆ ชนิด ส่วนตะกร้าหน้ารถจักรยานจะทำเป็นที่บรรทุกอาหารสด พวกเนื้อสัตว์ ลูกชิ้น ขณะที่ของแห้งบางอย่างก็จะใส่ถุงและใช้แขวนเอา

โดยปกติจะปั่นจักรยานออกจากบ้านไปจ่ายของที่ตลาดสดเทศบาลเมืองอ่างทอง ที่ห่างจากบ้านพักประมาณ 2 กิโลเมตร แล้วนำมาขายในหมู่บ้านชุมชนบางแก้ว วันละ 2 รอบ คือในช่วงเช้า และช่วงเย็น สร้างรายได้วันละ 200-300 บาท นำมาเป็นค่าใช้เลี้ยงครอบครัวส่งลูกเรียนหนังสือ

ทั้งนี้ มีลูกค้าขาประจำในหมู่บ้านเป็นส่วนใหญ่ ที่คอยช่วยเหลือสั่งซื้อกับข้าวที่ราคาถูกกว่ารถกับข้าวทั่ว ๆ ไป เนื่องจากการใช้แรงปั่นจักรยาน ไม่ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิง จึงมีต้นทุนต่ำ

ด้านนางระเบียบ ศีลปี อายุ 65 ปี ลูกค้าประจำกล่าวว่า ได้ซื้อของจากนางนาติ แม่ค้าปั่นจักรยานขายกับข้าวมานานแล้ว ซึ่งก็มีราคาถูก และที่สำคัญคือหากเราอยากจะได้ของสิ่งใดก็สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้เลย แม่ค้าก็จะซื้อของตามที่เราต้องการมาส่งถึงหน้าบ้าน ก็เป็นการสะดวกสำหรับเรา และได้ของตามที่ต้องการ
รูปภาพ :) :D

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

:) :D เข้าเขตวัดสัพพัญญูเราก็ตรงไปที่พระใหญ่ทันที โดยไม่แวะกราบนมัสการท่านเจ้าอาวาส เมื่อไปถึงปรากฏว่าเขามีการสัมมนาพระหลายร้อยรูปก็ไม่ได้สอบถามเพราะเวลานี้เป็นเวลามื้อเที่ยง ประกอบกับกำลังหิวกันพอดีเราจัดการกับอาหารมื้อเที่ยงตรงที่ครูบาเจ้าศรีวิชัย มองดูวิวเมืองสันป่าตองไปด้วยเรียกว่าได้บรรยากาศมาก ๆ กินข้าวเสร็จก็ตามด้วยกาแฟสดที่เราไม่มีวันลืม ดื่มไปคุยกันไปเป็นปรกติของคนแก่หลังอาหารมื้อเที่ยงมักชอบเอน แต่วันนี้ห้ามเพราะพระเณรเยอะมาก(อายท่าน)เรานั่งพักให้ข้าวเรียงเมล็ดและการแฟมีผลก็จะเดินทางไปชมสิ่งก่อสร้างที่สามารถมองเห็นรอบทิศทาง ๓๖๐ องศา ที่ผมเคยเล่าไว้ว่าอีกหน่อยอนาคตคนจะแห่กันมาที่วัดดอยสัพพัญญูนี้มากขึ้น ๆ และก็เป็นจริงเพราะขณะนี้เท่าที่สังเกตุเห็น กุฏิและอาคารที่พักต่างผุดขึ้นหลาย ๆ อาคาร :lol: :lol:

เช้าวันนี้วันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๙ เด็กที่เกิดวันนี้ดวงชะตาเด็กเกิดใหม่ในเดือนมีนาคม 2559

New born child horoscope in March 2016.

•ตามหลักสากลทั่วโลก (ใช้ปฎิทินในระบบสุริยคติ)__เด็กที่เกิดในเวลากลางคืน ช่วงระหว่างเที่ยงคืน-เช้ามืด (24.00 น. – ก่อน 06.00 น.) จะถูกปรับเปลี่ยนวันเกิด ให้เป็นวันใหม่
•แต่ตามหลักวิชาโหราศาสตร์ไทย (ใช้ปฎิทินในระบบจันทรคติ)__ จะปรับเปลี่ยนเป็นวันใหม่ก็ต่อเมื่อรุ่งเช้า-สว่างแล้วเท่านั้น ที่เรียกกันติดปากว่า “เช้าวันใหม่” (หลัง 06.00 น.)
•สรุปว่าเด็กที่เกิดในเวลากลางคืน ช่วงหลังเที่ยงคืน-เช้ามืด (24.00 น. – ก่อน 06.00 น.) ถ้าจะอ่านคำพยากรณ์ดวงชะตาจากเว็บไซต์นี้ จะต้องอ่านจากวันเกิดของวันก่อนเที่ยงคืนในคืนนั้น

คนเกิดปีวอก (ปีลิง) : ผู้ที่เกิดในปี พ.ศ. 2463, 2475, 2487, 2499, 2511, 2523, 2535, 2547, 2559

ธาตุกำเนิด คือ ธาตุทอง

อุปนิสัยของคนเกิดปีวอก เป็นซุปเปอร์ฮีโร่ที่ไม่ได้สวมหน้ากาก ชอบต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ทำให้คุณเป็นที่นับถือของคนรอบข้าง จิตใจคุณละเอียดอ่อน และเห็นใจในความทุกข์ของคนอื่น ไม่ชอบง้อใคร มีเหลี่ยมคู ชอบเข้าสังคม หัวไว และชอบเรื่องตื่นเต้นท้าทาย คุณไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย อยู่นิ่งกับใครเขาไม่เป็น มีปฏิภาณไหวพริบ ตัดสินใจดี เมื่ออยู่ในสถานการณ์คับขันก็รับมือได้อย่างฉลาด และทันท่วงที เวลาคุณอยู่กลางวงสนทนา คุณมีอารมณ์ขัน และสรรหาเรื่องมาคุยได้ไม่รู้จบ จนบางทีก็เกินหน้าเกินตาคนอื่น คุณเป็นเพื่อนที่ใจดี และคอยสร้างเสียงหัวเราะให้เพื่อนฝูง คอยรับฟังความกังวลและปัญหาของพวกเขา ในเรื่องความรัก คุณเป็นคนมีชีวิตชีวาแต่ขี้เบื่อ ความสัมพันธ์สั่นคลอน คุณจะแก้ปัญหาด้วยการหลีกหนี ในวัยเด็กคุณช่างจินตนาการ มีหัวประยุกต์ดัดแปลง ช่างพูดช่างเจรจา และตื่นเต้นกับสิ่งต่างๆ ได้ง่าย คุณเป็นพ่อแม่ที่น่ารัก คอยรับฟังเรื่องที่ลูกสนใจ และอดทนต่อความผิดพลาดของลูก


รูปภาพ

พยากรณ์โดย ซินแสหวาง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ............พาคุณนาย ไปทัวริ่ง ..... โดย พี่แดงสารภี ..............

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:lol: :lol: คงจะมีหลาย ๆ ท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมกระทู้แล้วก็คงจะสงสัยว่า "ทำไมผมจึงเอาดวงคนปีวอกมาให้อ่านกัน" ก็ไม่ต้องสงสัยนะครับเช้านี้จะมาเฉลยให้ทราบ เมื่อวันที่ ๑ มีนาคม คุณนายต้องสูญเสียญาติผู้ใหญ่และทำการฌาปนกิจศพไปแล้วเมื่อวันที่ ๕ มีนาคม มีเหตุการณ์ประจวบเหมาะระทึกใจมาก ๆ คือลูกสะใภ้ก็เจ็บท้องใกล้คลอดภายในวันสองวันนี้(๓-๔ มีค.)ในขณะที่ติดงานศพญาติผู้ใหญ่ คุณนายก็เลยส่งใจไปบอกหลานว่า "ขอให้คุณย่าเสร็จงานคุณตาเล็กก่อนย่าจะเดินทางไปหา อย่าพึ่งคลอดให้นอนในท้องคุณแม่นั่นแหละ รอคุณย่าหน่อย"

รูปภาพ

รูปภาพ

:lol: :lol: เมื่อเสร็จงานขาวดำเช้าวันที่ ๖ มีนาคม เรา ๓ คน(ผมคุณนาย น้อม่อย) ก็รีบเดินทางไปเชียงราย(ภูแสงจันทร์)ทันที เพื่อไปดูแลตัวน้อยที่จะเกิดมาดูโลก เมื่อไปถึงลูกสะใภ้ก็เจ็บท้องแต่ไม่มีอาการว่าจะคลอด ๗ - ๘ ก็แล้ว ส่วนวันที่ ๙ มีนาเป็นวันสุริยุปราคา คุณย่า(คุณนาย) กระซิบบอกหลานในท้องว่า "เจ้าหนูน้อยอย่าเพิ่งออกมาวันนี้นะ" ก็เป็นไปตามที่คุณย่าขอ

ผมช่วงเช้ามืดของวันที่ ๙ ก็นั่งเฝ้าพระอาทิตย์ขึ้นรอชมสุริยุปราคา พระอาทิตย์ขึ้นตื่นเต้นเก็บภาพไว้ได้หลายภาพ แต่พอสุริยุปราคาเริ่มเข้า แสงอาทิตย์ก็เจิดจ้าจนไม่สามารถมองได้ อุปกรณ์ก็ไม่ได้เตรียมไว้ จึงได้เพียงภาพที่เริ่มต้นเข้ามองผ่านกระจกธรรมดาเท่านั้น เสียดายมาก ๆ หลังจากชมสุริยุปราคาผ่านไปก็มานั่งลุ้นกันว่าวันนี้องค์ชายน้อยจะคลอดหรือไม่ ช่วงกลางคืนลูกสะใภ้เริ่มเจ็บท้องแต่ก็ไม่มีอาการว่าคลอด จวบจนรุ่งเช้าวันที่ ๑๐ ก็ยังไม่คลอดน้ำคล่ำแตกจนหมด ในที่สุดหมอต้องตัดสินใจผ่าออกเมื่อเวลา ๑๑.๓๔ น.เจ้าองค์น้อยก็ออกมาดูโลก ออกมาได้เพียงไม่กี่ชั่วโมงเมื่อคุณย่า(คุณนาย) อุ้มตัวน้อยก็ยิ้มให้คุณย่าซะแล้ว ยอมรับครับว่าเด็กสมัยนี้วิวัฒนาการเร็วมาก ๆ ต่อนี้ไปสงสัยคุณนายคงติดหลานแงม :lol: :lol:


รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพไปฉลองหลานน้อยที่ร้านกาแฟดอยหลวงในเมือง

รูปภาพ

รูปภาพลูกสะใภ้ออกจากห้องผ่าตัดต้องพักฟื้นอีกหลายวัน

รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ คุณย่าชื่นชมว่าหลานบอกง่ายเชื่อฟัง จะคลอดแต่วันที่ ๕ คุณย่าขอไว้พอวันที่ ๙ วันที่หลาย ๆ คนเกรงกลัว(ราหู) คุณย่าก็ขอไว้อย่าคลอดนะ ก็ไม่คลอดจนถึงวันที่ ๑๐ จึงคลอดแบบนี้ไม่ให้คุณย่ารักก็เป็นเรื่องแปลกซะแล้ว สำหรับผมในฐานะเจ้าคุณปู่ ก็เรียกว่าดีใจครับจะได้เป็นคุณปู่กับเขาซะที :lol: :lol:

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ............พาคุณนาย ไปทัวริ่ง ..... โดย พี่แดงสารภี ..............

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

รูปภาพมื้อเที่ยงผ่านไปเมื่อตบท้ายด้วย คาเฟอีน(เอสเปรสโซ)คนละถ้วยตะไลเราก็พากันไปเยี่ยมชมเจดีย์ ๓๖๐ องศาที่เมื่อครั้งก่อนเรามากำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง บัดนี้ได้สำเร็จเรียบร้อยแล้ว เตรียมงานฉลองตามประเพณี ดอยสัพพัญญูที่เคยพูดไว้ว่าอนาคตจะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่ไม่แพ้ พระธาตุดอยสุเทพ แต่บัดนี้ความคิดนี้เริ่มเปลี่ยนแปลงแล้วครับ ด้วยสาเหตุใดไม่ทราบ ผมมีลางสังหรณ์บางอย่างที่ไม่สามารถพูดได้ ขอเรียนเชิญทุกท่านได้ไปสัมผัสด้วยตัวท่านเองแล้วมาวิเคราะห์วิจารณ์กันดีกว่านะ :(

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพขึ้นไปอยู่ชั้นที่ ๑ ของอาคารมองดูวิวทิวทัศน์ครับ

รูปภาพ

รูปภาพคุณนายไม่อยากขึ้นไป ๕๕.

รูปภาพมองจากชั้นสองของอาคาร

รูปภาพมีพระมานั่งทำสมาธิด้วย

รูปภาพมองจากชั้นบนสุดของอาคาร

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ............พาคุณนาย ไปทัวริ่ง ..... โดย พี่แดงสารภี ..............

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:o :o แย่งเก็บแบงก์ปลิวว่อนถนน หนุ่มดวงซวยทำกระเป๋าหล่น (แบบนี้ก็มีด้วยนะ)

เมื่อวันที่ 22 มี.ค. พ.ต.ท.สิทธิพร บัวสุข รองผกก.สส.สภ.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ รับแจ้งจากนายพุฒิพงษ์ บุญตา อายุ 25 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ว่า ทำกระเป๋าเงินหล่นหาย ข้างในมีเงินสดจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีภาพพลเมืองดีถ่ายภาพ และกระจายภาพในโลกโซเซียลฯว่ามีคนทำกระเป๋าเงินตกธนบัตรใบละ 1,000 กว่า 50 ใบปลิวว่อนกลางถนนซูเปอร์ไฮเวย์ ทำให้ประชาชนจอดรถแย่งเก็บเงินจำนวนมาก การจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัดเป็นระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร

นายพุฒิพงษ์ ให้การว่า ก่อนหน้านี้มารดาตนทำงานอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นส่งเงินมาให้ เพราะตนอยากได้รถจยย.ใหม่ พอได้เงินเข้าบัญชีก็ไปเบิกเงินสดออกมา 58,000 บาท จากนั้นก็นำเงินทั้งหมดใส่ในกระเป๋า โดยกระเป๋าเงินดังกล่าวมีบัตรประชาชน บัตรสำคัญอื่น ๆ จำนวนมาก ก่อนจะใส่ในกระเป๋ากางเกงด้านขวา จากนั้นขับรถช็อปเปอร์สีดำมาตามถนนเส้นซูเปอร์ไอเวย์ถนนสายเชียงใหม่-ลำปาง ใกล้โรงพยาบาลลานนา ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จนมาถึงร้านจยย.ที่หมายตาไว้ ปรากฏว่ากระเป๋าเงินหล่นหายไปแล้ว กระทั่งมาเห็นภาพคนแย่งกันเก็บเงินในโซเชียลฯ จึงรีบเข้าแจ้งความให้ตำรวจช่วยติดตามเงินดังกล่าวคืน

ด้าน พ.ต.ท.สิทธิพร บัวสุข รองผกก.สส.สภ.ช้างเผือก เปิดเผยว่ากรณีนี้ทางเราก็รับเป็นคดี และมีภาพคนเก็บปรากฏในโลกโซเซียลฯ อีกทั้งบริเวณนั้นมีกล้องวงจรปิดเป็นจำนวนมาก จะได้มีการตรวจสอบหาเงินมาคืนให้กับเจ้าของโดยเร็ว ดังนั้นหากใครที่เก็บเงินดังกล่าวไว้ได้ ขอให้นำมาส่งคืนโดยเร็ว มิเช่นนั้นถ้าปรากฏภาพในวงจรปิด ตรวจพบว่าเอาไปแล้วไม่คืนก็จะเข้าข่าย"ลักทรัพย์หรือรับของโจร" มีโทษทางคดีอาญา.


รูปภาพเรามาตามดูข่าวกันว่าจะได้คืนไหม?

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

:) :D ออกจากอาคารเจดีย์อเนกประสงค์ ๓๖๐ องศา ที่ชมวิวที่บอกว่าอนาคตจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของเชียงใหม่ เราออกมาจากอาคารก็กลับมายังที่เดิมคือจุดที่เราหยุดทานมื้อเที่ยง ไม่ลืมที่จะแวะเยี่ยมหลวงพี่นักกราฟฟิค และมือโปรคอมพิวเตอร์ของวัดสัพพัญญู ท่านดีใจที่พบกับพวกเราอีกครั้งไม่ลืมที่จะบอกให้พวกเรามาพักและปฏิบัติธรรม เราก็กราบเรียนว่าว่ามาเยี่ยมและออกกำลังแค่นั้น ขอเป็นครั้งหน้าค่อยมาใหม่ ท่านได้เล่าเรื่องต่าง ๆ มากมายให้พวกเราได้รับฟัง อดที่จะแหย่ ๆ ท่านเล่นไม่ได้ว่า "อยากเก่งคอม ฯ ไปอยู่กับพระ อยากเก่งธรรมะไปอยู่กับแม่ชี" ท่านก็ตอบว่า "มันช่วยไม่ได้นะอาตมาเรียมมาทางนี้ ช่วงนี้ก็ได้ช่วยท่านเจ้าอาวาสออกแบบสร้างกุฏิเพื่อให้ญาติโยมได้มาปฏิบัติธรรม สังเกตุว่ากุฏิต่าง ๆ ผุดขึ้นหลาย ๆ แห่ง (เห็นแล้วตกใจครับ) กุฏิที่ท่านพักจำพรรษาผมยังขออนุญาตุแปลนของท่านเพื่อไปสร้างไว้ที่ภูแสงจันทร์ ถูกใจครับ ผมเรียนถามท่านว่าเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะมากมาย ? :o :o
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
ตอบกลับ

กลับไปยัง “เอ็ม.เจ.ไบค์-นครปฐม”