@@@@ 797 กิโลเมตร ผลงานจาก MJ Bike นครปฐม+ทัวริ่งทั่วไทย โดย พี่โอฬาร ครับ #########

จำหน่ายจักรยาน(เก่าญี่ปุ่น) เสือภูเขาโครโมลี-อลูมิเนียมแบบตะเกียบ พร้อมซ่อมและโมดิฟายด์เสือภูเขาทางเรียบ-จักรยานเดินทางไกล โทร. 0814881440

ผู้ดูแล: เอ็ม.เจ.ไบค์ นครปฐม

กฏการใช้บอร์ด
จำหน่ายจักรยาน(เก่าญี่ปุ่น) เสือภูเขาโครโมลี-อลูมิเนียมแบบตะเกียบ พร้อมซ่อมและโมดิฟายด์เสือภูเขาทางเรียบ-จักรยานเดินทางไกล โทร. 0814881440
รูปประจำตัวสมาชิก
Felix
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 580
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2010, 14:14
team: OSK 101
Bike: Nishiki Amust/Gary Fisher Zebrano

Re: @@@@ 797 กิโลเมตร ผลงานจาก MJ Bike นครปฐม+ทัวริ่งทั่วไทย โดย พี่โอฬาร ครับ #########

โพสต์ โดย Felix »

ระยะทางช่วงแรก ปอยเปต-ศรีโสภณ

แม้ว่าจะแดดไม่จัด มีเมฆเต็มฟ้า แต่อากาศกลับร้อนจัดอึดอัด
เหงื่อชุมโชกไปทั้งตัว เราแวะกินอาหารที่ร้านชัยพฤกษ์
เข้าใจว่าเป็นร้านอาหารสำหรับนักท่องเที่ยวที่มากับบริษัททัวร์

รสชาติแบบไทยๆ แต่ราคาแพงโคตรๆ กินอาหารกลางวันเป็นข้าวผัดกะเพราไก่จานใหญ่
ไข่ดาว 4 ฟอง แกงจืดเต้าหู้ผักกาดขาวหมูสับ 1 ชาม น้ำอัดลม 4 กระป๋องน้ำแข็ง 4 แก้ว
รวมราคาทั้งหมด 950 บาท

หลังจากผ่านช่วงเวลาบายที่อากาศร้อนจัด คราวนี้ก็ต้องเจอวิบากกรรมอีกครั้ง
จากถนนที่แต่เดิมเป็นยางมะตอยเรียบๆ ก็ปั่นทำความเร็วแบบทัวริงสบายๆที่ 22-23 กม/ชม
คราวนี้เจอสภาพถนน ที่ยางมะตอยหมดอายุ ร่อนหายไปเกือบหมดเหลือแต่กรวดหยาบๆ
ทำให้หนืดมากความเร็วตกลงมาเหลือแค่ 17-18 กม/ชม ระยะทางก็ยังอีกไกล

และยิ่งหนักขึ้นไปอีกก็คือ ฝนตกลงมาอย่างหนัก เราก็ต้องปั่นกันกลางฝนไปเรื่อยๆ
เทคนิคการปั่นกลางฝนโดยไม่ให้หนาวก็คือ การเพิมรอบขาให้สูงขึ้น ด้วยการปรับเกียร์ให้เบาลง
1-2 เกียร์ เพาะเมื่อรอบขาสูงขึ้น หัวใจเราจะเต้นเร็วขึ้นและมีการเผาผลาญพลังงานมากขึ้น
ช่วยให้ร่างกายจะอบอุ่น แต่ก็ต้องระมัดระวังเพราะการทรงตัวของรถจะง่อกแง่ก
เมื่อรอบขาสูงแต่ความเร็วต่ำ

ฝนตกหลายชั่วโมงติดต่อกันตั้งแต่ช่วงบ่ายๆจนถึงค่ำ
ช่วงประมาณ 40 กม จะถึงเสียมเรียบ มีการซ่อมถนนเป็นระยะๆ ด้วยการขุดยางมะตอยเก่าทิ้งไป
ถนนก็เป็นหลุมสี่เหลี่ยมผืนผ้า เป็นระยะ รวมๆแล้วประมาณ 20 กม.
และที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ เราปั่นกันตอนหัวค่ำ ไม่มีแสงจากดวงอาทิตย์แล้ว
ถนนมีแต่ความมืด เรามีแต่เพียงไฟส่องสว่างที่ติดอยู่บนแฮนด์รถเท่านั้น
ไฟริมถนนสองข้างทางไม่มีเลยสักดวง

นานๆครั้งจะมีรถตามหลังมาเราก็เห็นทางได้ชัดขึ้น แต่ถ้ารถที่แล่นสวนมา
ก็ทำให้เราตาพร่าแทบตกข้างทางเพาะเปิดไฟสูงกันทุกคัน

แต่ก้เห็นใจคนขับรถยนต์เหมือนกัน เพราะถนนไม่มีเส้น บนพื้นเอาไว้นำทางเลย
ไฟหน้ารถที่ฉายไปจะกลืนหายไปกับสีดำๆของพื้นถนนไปหมด

เกือบๆ 2 ทุ่ม การปั่นของเราเริมมองเห็นสวรรค์
เมื่อเรามาถึงเมืองปวก ซึ่งไม่ไกลจากสนามบินเสียมเรียบนัก

ร้านขายอาหารข้าวแกง พออาศัยกินได้ แกงเขียวหวานไก่ กุนเชียง และต้มไก่มะนาวดอง
ข้าวสวยคนละจาน ใช้เงินไป 160 บาท

รูปภาพ

หลังจากกินอาหารค่ำเสร็จ เราก็ปั่นตรงดิ่งไปที่สนามบินเสียมเรียบ
เพื่อไปรับน้องกอล์ฟ หญิงสาวคนเดียวในทริป ที่หาญกล้ามาร่วมกลุ่มเดินทาง
กับคณะตุหรัดตุเหร่

น้องกอล์ฟ เดินทางด้วยแอร์เอเซีย โดยจ่ายเงินค่าระวางพิเศษ สำหรับอุปกรณ์กีฬา(จักรยาน)
ประมาณ 800 บาท สำหรับน้ำหนัก 20 กก.

แต่ดูเหมือนว่า แอร์เอเซีย จะเรียกเก็บค่าอะไรเพิ่มมาอีกสักอย่าง
แต่น้องกอล์ฟใช้ วาจาศักดิ์สิทธิ์ จนท แอร์เอเซียก็เลยไม่เก็บหรือจริงๆคือ เก็บไม่ได้หรือ จำใจไม่เก็บ

รูปภาพ
รูปประจำตัวสมาชิก
Felix
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 580
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2010, 14:14
team: OSK 101
Bike: Nishiki Amust/Gary Fisher Zebrano

Re: @@@@ 797 กิโลเมตร ผลงานจาก MJ Bike นครปฐม+ทัวริ่งทั่วไทย โดย พี่โอฬาร ครับ #########

โพสต์ โดย Felix »

คราวนี้คณะตุหรัดตุเหร่มีจำนวน 5 คนแล้ว
ก็ถึงเวลาที่ไปเยี่ยมชมเมืองพระนคร กันแล้ว

รูปภาพ

ตัวเข้าชมเมืองพระนคร จะมีตั๋ว 3 แบบ คือ ตั๋ว 1 วัน, 3 วันและ 7 วัน
ผมเองอยากซื้อตั๋ว 7วัน เพราะอยากไปดูหลายๆปราสาท แต่ไอ้เบิร์ดลางานมาได้ไม่นาน
ต้องกลับก่อน ก็เลยต้องซื้อตั๋วแบบ 3 วัน

การซื้อตั๋วต้องซื้อทีละคนเพราะจะถ่ายรูปใส่ลงไปในตั๋วด้วย
นักท่องเที่ยวต่างชาติ จะเข้าไปในบริเวณเมืองพระนครโดยไม่มีตั๋วไม่ได้
แม้ว่าจะเช่าจักรยานมาขี่เล่นๆก็ตาม

การเที่ยมชมปราสาทในบริเวณเมืองพระนคร ใช้จักรยานจะเหมาะที่สุด
ในเมืองเสียมเรียบมีจักรยานให้เช่ามากมาย ที่เป็นเสือภูเขา รถแม่บ้าน(มือสองญี่ปุ่น)
แต่หากคิดจะปั่นจักรยานชมปราสาทคงต้องมีทักษะและพละกำลังพอสมควร
เพราะแต่ละปราสาทอยู่ไม่ไกลกันแต่ก็ไม่ใกล้

ทางเลือกอีกทางหนึ่งคือการเช่ารถสามล้อ ที่เป็นรถพ่วงกับมอเตอร์ไซคล์
นักท่องเที่ยวหลายคนใช้วิธีนี้ ราคาเช่าหมาประมาณ 400-500 บาท แล้วแต่จะตกลงกัน
มีชาวเขมร มาเสนอให้บริการรถแบบนี้เยอะแยะไปหมด แม้กระทั่งเด็กสาวๆ
ที่ทำหน้าที่ตรวจตั๋วตรงทางเข้าปราสาทก็มาขายบริการรถเช่ากะเขาด้วย

รูปภาพ

การขี่จักรยานเที่ยวชมปราสาทเมืองพระนครถือว่าได้รับความนิยมมาก
เพราะสองข้างทางเป็นปาไม้ร่มครึ้ม มีร้านค้าร้านอาหารอยู่เป็นระยะ
มีห้องน้ำที่สะอาดมาก สำหรับนักท่องเที่ยว (ชาวต่างชาติไม่เสียเงินเพาะซื้อตั๋วแล้ว แต่ถ้าไม่มีตั๋ว
เสียเงินประมาร 3 บาท - 5 บาท)
รูปประจำตัวสมาชิก
Felix
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 580
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2010, 14:14
team: OSK 101
Bike: Nishiki Amust/Gary Fisher Zebrano

Re: @@@@ 797 กิโลเมตร ผลงานจาก MJ Bike นครปฐม+ทัวริ่งทั่วไทย โดย พี่โอฬาร ครับ #########

โพสต์ โดย Felix »

อาหารกลางวันของคณะตุหรัดตุเหร่
ริมถนนก่อนจะถึงสำนักงานขายตั๋วและจุดตรวจตั๋ว ของเมืองพระนคร
จะมีร้านขายอาหารทอดอยู่ริมทาง แป้งทอดใส้มะพร้าวหวานๆ
ข้าวเม่าทอด, มันเทศทอด ,กล้วยหอมทอด ราคาอันละ 10 บาท

โปรดสังเกต ตะแกรงรองน้ำมัน เข้าใจว่ายี่ห้อฮาตาริ

รูปภาพ

หลังจากได้อาหารกลางวันแล้วเราก็เอามัดกับตะแกรงท้ายรถ แม่ค้าหน้าหวาน แซวว่า "ทุลักทุเล"
ไอ้แจ้บอกว่า เออเนอะ... พูดเหมือนภาษาไทยเลย
ผมก้เลยบอกไอ้แจ้ว่า ไม่ใช่ ไม่ใช่ "เราพูดเหมือนภาษาเขมรตะหาก"

รูปภาพ

วิธีการเที่ยมชมปราสาทที่นิยมกันก็คือ มาซื้อตั๋วตอนเย็น ช่วงประมาณ 4 โมงครึ่ง
พอได้ตั๋วแล้วก็เขาไปในบริเวณเมืองพระนครได้เลย จะไม่มี เจ้าหน้าที่มาตรวจตั๋ว
นักท่องเที่ยวก็จะพากันไปชมพระอาทิตย์ตกที่ พนมบาเค็ง ซึ่งเป็นพุทธสถานที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก
เท่ากันว่า การชมเมืองประนครช่วงเย็นๆจะเป็นของแถม จะไม่มีการนับเป็นหนึ่งวัน

ผมเองชอบปราสาทปักษีจำกรงในภาพนี้มาก ในสมัยยังเรียนอยู่เวลาอ่านหนังสือ
มักจะมีการอ้างอิงข้อมูลจากจารึกปักษีจำกรงบ่อยๆ เวลามาเห้นของจริงก็เลยเกิดความรู้สึกพิเศษ
และอีกอย่างหนึ่งก็คือ ผมว่าชื่อ ปักษีจำกรง นั้นน่ารักดี

ปราสาทแห่งนี้ไม่ใหญ่โตนักแต่มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครคือ มีโครงสร้างแบบปิรามิด
ซึ่งปราสาทอื่นๆในเมืองพระนครไม่มี และหากเปรียบเทียบกับ เจดีย์หรือพระธาตุ
ที่สร้างขึ้นในแคว้นสุโขทัย ล้านนา ดูเหมือนจะเห็นร่องรอยที่เชื่อมโยงกันชัดเจน

มาชมปราสาทปักษีจำกรงคราวใด ทำให้ผมนึกเจดีย์ที่วัดเจ็ดยอดเขียงใหม่
กับเจดีย์ที่วัดเจดีย์หลวงจริงๆ ผมว่าคล้ายๆละม้ายเหมือนกันไม่น้อยเลย
รูปประจำตัวสมาชิก
Felix
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 580
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2010, 14:14
team: OSK 101
Bike: Nishiki Amust/Gary Fisher Zebrano

Re: @@@@ 797 กิโลเมตร ผลงานจาก MJ Bike นครปฐม+ทัวริ่งทั่วไทย โดย พี่โอฬาร ครับ #########

โพสต์ โดย Felix »

รูปภาพ

ปราสาทแต่ละแห่งในเมืองพระนครล้วนใหญ่โตมโหฬาร รายละเอียดมีมากมาย
แต่การไปชมประสาทเมืองพระนคร ถ้าหากได้อ่านหนังสือก่อนเดินทางไปชมจะทำให้สนุกมากยิ่งขึ้น
หรือหากมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเทพปกรณัมของอินเดีย บ้างจะทำให้การชมมีอัฒรส

รูปภาพ

ภาพจำหลักนูนต่ำภาพนี้พอเห็นปุ๊บเราก็คงเดาได้ว่าเป็นทศกันณฑ์แน่ๆ
เพราะเราคุ้นเคยกับรามเกียรติ์ แต่ถ้าเป็นเทพอื่นๆ ก็มึนๆงงๆ เหมือนกันครับ

รูปภาพ

นางอัปรา เป็นภาพสลักที่มีจำนวนมากในทุกปราสาท ผมสังเกตว่า รูปร่างและเครื่องแต่งกายของ
นางอัปสรานั้นไม่เหมือนกัน หน้าตาและรอยยิ้มก็ไม่เหมือนกัน
รอยยิ้มนางอัปสราแบบนี้กระมังที่เรียกกันว่า ยิ้มละไม

รูปภาพ

แต่ยิ้มแบบนี้ไม่รู้ว่าจะเรียกอะไรเหมือนกันแต่เครื่องแต่งกายสวยอลังการจริงๆ

รูปภาพ
รูปประจำตัวสมาชิก
Felix
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 580
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2010, 14:14
team: OSK 101
Bike: Nishiki Amust/Gary Fisher Zebrano

Re: @@@@ 797 กิโลเมตร ผลงานจาก MJ Bike นครปฐม+ทัวริ่งทั่วไทย โดย พี่โอฬาร ครับ #########

โพสต์ โดย Felix »

รูปภาพ
รูปประจำตัวสมาชิก
Felix
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 580
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2010, 14:14
team: OSK 101
Bike: Nishiki Amust/Gary Fisher Zebrano

Re: @@@@ 797 กิโลเมตร ผลงานจาก MJ Bike นครปฐม+ทัวริ่งทั่วไทย โดย พี่โอฬาร ครับ #########

โพสต์ โดย Felix »

รูปภาพ

ปราสาทตาแก้ว

คณะตุหรัดตุเหร่ ทั้ง 5 คน ใช้เวลาอยู่เที่เมืองเสียมเรียบ 4 คืน
ทุกวัน เราก็จะปั่นจักรยานออกไปชมปราสาทในเขตเมืองพระนคร
แต่ละวันจะมีฝนตกทุกวัน มากบ้างน้อยบ้าง

ในแต่ละวันเราสามรถชมปราสาทได้เพียงวันละหนึ่งแห่งเท่านั้น
เนื่องจากแต่ละแห่งนั้นใหญ่โตเหลือเกิน เพียงแค่กำแพงแก้วล้อรอบบริเวณปราสาทก็หลายกิโลเมตร

ปราสาทสำคัญที่เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยว ก็คือ
ปราสาทนครวัต, ปราสาทนครธม หรือปราสาทบายน, ปราสาทตาพรหม,ปราสาทพระขรรค์ และปราสาทพนมบาเค็ง

สมัยแรกๆ ช่วง 20 ปีก่อนหรือมากกว่านั้น ปราสาทตาพรหม ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเข้าไปชมมากนัก
แต่พอมีการถ่ายหนังเรื่อง Tomb Raider ก็มีนักท่องเที่ยวมากขึ้น จุดไฮไลท์ของปราสาทตาพรหมก็คือ ต้นไม้ใหญ่
ที่เติบโตคลุมหลังคาของระเบียงทางเดินของปราสาท จนท.นักท่องเที่ยวมาถ่ายภาพที่ต้นไม้กันเอิกเกริก
โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน พร้อมกับส่งเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวตามธรรมเนียม

หากเป็นคนไทย ก็มักจะเดินไปชมภาพสลักนูนต่ำ ที่เชื่อกันว่าเป็นของทัพสยาม
หรือกองทัพจากกลุ่มชนแถบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา

แต่คราวนี้ผมไม่ได้เดินอ้อมไปดู แต่สนุกกับการดูภาพวิถีชีวิตของชาวขอมโบราณ
และบรรดานางอัสราที่มีอยู่มากมาย

รูปภาพ

นางอัปสราที่ปราสาทพระขรรค์

ในบรรดาภาพสลับนางอัปสราที่มีอยู่มากมาย ในความรู้สึกของผมคิดว่า
นางอัปสราที่ประสาทพระขรรค์ นั้นสมบูรณ์และสวยงามวิจิตรมากที่สุด
ทั้งเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับศีรษะ รวมทั้งใบหน้าที่สวยหวาน และยิ้มละไม

รูปภาพ

ในทุกปราสาท นอกจากจะมีนางอัปสราขนาดใหญ่แล้วยังมีนางอัปสราขนาดเล็กที่กำลังร่ายรำด้วย
ในภาพข้างล่างเป็นทับหลักที่โคปุระชั้นใน ใกล้กับปรางค์ประธานขององค์ปราสาท

อาจารย์ท่านหนึ่งเคยบอกว่า บริเวณหน้าบันและทับหลัง มักจะเป็นภาพสลักที่สวยงามวิจิตรบรรจง
ประหนึ่งเป็นงานที่สร้างขึ้นเพื่อฝากฝีมือให้เป็นที่ประจักษ์ และเมื่อเห็นทับหลังชิ้นนี้
ผมว่าตามที่อาจารย์ท่านว่าไว้นั้นคือความจริงยิงกว่าจริง

รูปภาพ

บริเวณหน้าบันของโคปุระแต่ละชั้น มักจะมีเรื่องราวในมหากาพย์เสมอๆ
ที่ปราสาทพระขรรค์ก็มีเรื่องราวการรบระหว่างพระรามและทศกัณฑ์
สังเกตได้จากรูปสลักทางด้านขวา ที่เป็นรูปยักษ์ถือธนูบนรถศึก มีหลายแขน

รูปภาพ

ปราสาทหลายแห่งในเมืองพระนครจะพังทลายลงจำนวนมาก
เพื่อนรวมคณะตุหรัดตุเหร่มีคำถามว่า ทำไมสิ่งก่อสร้างด้วยหินขนาดมหึมาน้ำหนักลายสิบตัน
จึงพังลงมาได้ หลายแห่งแตกหักเสียหาย

ผมตอบว่า สาเหตุมาจาก "นก" ตัวเล็กๆ ที่กินลูกไม้ผลไม้ในป่าแล้วถ่ายมูลทิ้งเอาไว้
หลายสิบปี หลายร้อยปี ผานไป ต้นไม้เติบโตขึ้นช้าๆ รากไม้ก็ค่อยๆแทรกไปตามรอบต่อ
ของหินแต่ละก้อน และขยายขนาดอกไปเรื่อยๆเพื่อความอยู่รอด ความแข็งแกร่งของก้อนหิน
ก็ไม่อาจต้านทานได้และเมื่อหินก่อนหนึ่งขยับ ก้อนอื่นๆก็ขยับตามต่อเนื่องกันไป

รูปภาพ

ในบริเวณเมืองพระนคร มีกองหินที่ถล่มพังลงมามากมาย
น้องกอล์ฟ สาวสวยคนเดียวในคณะถามว่า ทำไมเขาไม่เอากลับไปตั้งไว้เหมือนเดิม

ผมก็เลยอธิบายว่า การเอาก้อนหินที่พังทลายลงมาเป็นกองๆแล้วยกกับไปตั้งทีเดิมนั้นไม่ง่าย
เพราะเหมือนการที่เราต่อตัวเลโก้ที่มีต้นแบบไม่สมบูรณ์ เราอาจจะมีเครื่องมือยกกลับไปตั้งได้
แต่เราจะไปตั้งตรงไหน วางเหลี่ยมไหน แล้วถ้าเอาไปวางแล้วไม่ใช่ไม่ถูกต้อง
แล้วต้องยกกลับออกมาใหม่ มันคงไม่สนุกแน่ๆ แต่ละก้อนก็หนักหลายตัน

รูปภาพ

นักโบราณคดีก็เลยต้องใช้วิธีการ อนัสติโลสิส Anastylosis คือ การศึกษารูปแบบโครงสร้างของปราสาท
แล้วรื้อหินทุกก้อนลงมาทำเครื่องหมาย และรหัสไว้ จากนั้นก่อเสริมฐานรากให้มั่นคง
แล้วยกกับไปตั้งไว้ใหม่ ถ้าชิ้นไหนไม่มีก็หาวัสดุชนิดเดียวกันเข้าไปเสริม

วิธีการนี้ใช้เป็นครั้งแรก ที่โบราณสถานอะโครโปลิส ในกรุงเอเธนส์ เมื่อ พ.ศ.2456
โดยวิศวกรชื่อ นายนิโคลาโอส บาลาโนส

เป็นการนำกลับไปสู่ที่เดิมขององค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมของสิ่งก่อสร้างโบราณ
กล่าวคือ การนำเอาวัสดุดั้งเดิม กลับไปวางไว้ในตำแหน่งดั้งเดิม โดยใช้วิธีการก่อสร้างดั้งเดิม

วิธีก่อสร้างดั้งเดิมแต่ไม่เกี่ยวกับการใช้เครื่องมือสมัยใหม่ครับ เพราะถ้าใช้เครื่องมือดั้งเดิมด้วย
การบูรณะปราสาทแต่ละแห่งคงใช้เวลาหลายสิบปี
รูปประจำตัวสมาชิก
Felix
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 580
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2010, 14:14
team: OSK 101
Bike: Nishiki Amust/Gary Fisher Zebrano

Re: @@@@ 797 กิโลเมตร ผลงานจาก MJ Bike นครปฐม+ทัวริ่งทั่วไทย โดย พี่โอฬาร ครับ #########

โพสต์ โดย Felix »

ปราสาทพระขรรค์ ดูเหมือนจะได้รับผลกระทบจากรากไม้และต้นไม้มากกว่าปราสาท
นครวัตและปราสาทบายน การบูรณะปราสาทยังคงเป็นเพียงการประคับประคองเอาไว้ชั่วคราว

รูปภาพ

เหมือนว่าจะมีความพยายามจะลดทอนพลังทำลายล้างของต้นไม้บ้างแต่ไม่แน่ใจ
ว่าจะทำได้เหรือไม่ เพาะต้นไม่นี่เรี่ยวแรงมหาศาลจริงๆ

รูปภาพ

ที่ปราสาทพระขรรค์แม้ว่าจะโดนต้นไม้บุกมากกว่าปราสาทอื่นๆ แต่บรรดารูปสลักต่างก็ยังคงมีสภาพดี ลวดลายยังคมกริบสวยงาม

รูปภาพ
รูปประจำตัวสมาชิก
Felix
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 580
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2010, 14:14
team: OSK 101
Bike: Nishiki Amust/Gary Fisher Zebrano

Re: @@@@ 797 กิโลเมตร ผลงานจาก MJ Bike นครปฐม+ทัวริ่งทั่วไทย โดย พี่โอฬาร ครับ #########

โพสต์ โดย Felix »

ในบริเวณปรางค์ประธานของปราสาทพระขรรค์
จะมีลักษณะเป็นห้องขนาดใหญ่พอสมควรตรงกลางห้องเป็นที่สถูปเจดีย์
แบบทรงระฆังคว่ำองค์หนึ่ง นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกัน
เพราะภาพที่ออกมาจะเป็นภาพย้อนแสงเหมือนว่าบริเวณปลายยอดจะมีแสงสว่าง

รูปภาพ

ในห้องนี้จะมีการเจาะรูเล็กๆที่กำแพงหินจำนวนมากทั่วทั้งห้อง
หากเราใช้มือทุบที่หน้าอกของเราแรงๆ จะเกิดเสียงดังกังวาน
ห้องนี้จึงทำหน้าที่เป็นระฆังใบใหญ่ ที่ทำให้เกิดเสียงทุ้มๆนุ่มกังวานออกมาได้ด้วยตัวเอง

เมื่อผมเห็นเหินเจาะรูจำนวนมากเป็นครั้งแรกก็เข้าใจว่า เป็นการเจาะรูเพื่อการลากจูงขนย้าย
แต่เมื่อพิจารณาตำแหน่งของรูต่างๆที่เจาะนั้น เห็นว่า ตำแหน่งรูนั้นมีความสมมาตรและเป็นสัดส่วน
ที่พอเหมาะพอดีมากเกินไป และได้รับคำตอบเอาตอนที่เห็นเด็กเขมรคนหนึ่งยืนทุบอกตัวเอง
ก็ถึงเข้าใจว่า รูเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดเสียงนั่นเอง

รูปภาพ
รูปประจำตัวสมาชิก
Felix
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 580
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2010, 14:14
team: OSK 101
Bike: Nishiki Amust/Gary Fisher Zebrano

Re: @@@@ 797 กิโลเมตร ผลงานจาก MJ Bike นครปฐม+ทัวริ่งทั่วไทย โดย พี่โอฬาร ครับ #########

โพสต์ โดย Felix »

คณะของเราใช้เวลาชมปราสาทต่างๆ 3 วัน เท่าที่เราซื้อตั๋วเอาไว้
ไอ้เบิร์ด มีคำถามว่า ทำไมรูปสลักที่กำลังดึงนาคอยู่นี้ ช่วงหัวๆของนาค
หน้าตาถึงถทึง ดุดัน ตาใหญ่ๆ โปนๆ แต่ที่อยู่ท้ายๆใกล้ๆโคปุระหรือซุ้มประตู
จะหน้าตาอ่อนหวานและหล่อเหลามาก

ผมก็เลยอธิบายว่า

เมื่อคราวมีการเกษียรสมุทร เทวดาและอสูร จะมาช่วยกันโดยเอาเขาพระสุเมรุมาเป็นแกนหมุน
มีพญานาคมาเป็นเชือกพันรอบเขาพระสุเมรุ พวกเทวดา เลือกจับพญานาคทางด้านหาง
แล้วให้พวกอสูรจับทางด้านหัว เพราะระหว่างที่ฉุดดึงนั้นพญานาคจะสำรอกพิษออกมา
พวกเทวดาจะรอดตัวไปไม่โดนพิษ พวกอสูรโดนไปเต็มๆ

เทวดามันเอาเปรียบนี่หว่า" ไอ้เบิร์ด มันว่างั้น

รูปภาพ


รูปภาพ
รูปประจำตัวสมาชิก
Felix
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 580
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2010, 14:14
team: OSK 101
Bike: Nishiki Amust/Gary Fisher Zebrano

Re: @@@@ 797 กิโลเมตร ผลงานจาก MJ Bike นครปฐม+ทัวริ่งทั่วไทย โดย พี่โอฬาร ครับ #########

โพสต์ โดย Felix »

รูปภาพ

หลังจากเที่ยวชมปราสาทจนครบตามวันในตั๋วที่ซื้อไว้แล้ว
ไอ้เบิร์ดก็ต้องเดินทางกลับ

แรกทีเดียวคณะเราทั้งหมดก็คิดว่าจะปั่นกลับไปทางเดิมกันทั้ง 5 คน
ระยะทางไปถึงปอยเปต 140 กม. แต่ทว่า การปั่นกลับนั้นไม่ง่ายแน่ๆ เพราะเป็นการปั่นสวนลม
ซึ่งเป็นลมกลางทุ่งที่แรงเอาเรื่องเลย เกรงว่าน้องกอล์ฟ สาวสวยคนเดียวอาจจะปั่นไม่ไหว

เราก็มีอีกทางเลือกหนึ่งก็คือ เดินทางขึ้นเหนือ เพือเข้าประเทศไทยที่ด่านช่องสะงำ
ระยะทางเส้นนี้ใกล้กว่า คือประมาณ 121 กม.

ส่วนไอ้เบิร์ดยอมเสียสละ ด้วยการเหมารถแท็กซี่กลับมาปอยเปตคนเดียว
แล้วให้เพื่อนขับรถมารับที่ตลาดโรงเกลือ

คณะตุหรัดตุเหร่ก็เหลือ 4 คน ที่จะออกเดินทางไปที่ ชอม Choam
โดยเส้นทางจะผ่านอุทยานแห่งชาติพนมกุเลน และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ากุเลนพรหมเทพ
แต่จากแผนที่ในกูเกิ้ล เส้นทางจะผ่านส่วนที่เป็นขอบๆของเขตป่าและภูเขา
จนไปถึงเมืองอันลองเวง จากเส้นถนนในกูเกิ้ล ออกแนวตรงๆ ไม่มีเส้นยึกยักซิกแซก
ก็เดาว่าคงไม่เป็นทางขึ้นขาสูงชันมากนัก

หลังจากที่เรารอส่งไอ้เบิร์ดขึ้นรถแท็กซี่ตอน 10 โมงกว่าๆ
คณะตุหรัดตุเหร่โอ้เอ้วิหารรายก็ออกเดินทาง โดยกำหนดคร่าวๆว่า
จะปั่นจักรยานประมาณ 40 กม.แล้วไปหาที่พักช่วงพนมกุเลน หรือแถวๆ
ปราสาทบันทายศรี ที่หางจากเสียมเรียบไปประมาณ 40 กม.

แต่เส้นทาง 40 กม.นั้นถนนค่อนข้างจะไม่ค่อยดี คือ เป็นยางมะตอยเสื่อมสภาพ
ปั่นแล้วมันออกจะหนืดๆ รถไม่ค่อยวิ่ง ความเร็วทำได้แค่ประมาณ 14-15 กม/ชม
แทนที่จะเป็น 21-22 กม/ชม จนเวลาผ่านไปบ่ายโมงเศษๆเราก็มาถึงปากทางเข้าประสาทบันทายศรี
หลังจากหาอาหารกลางวันกินกันแล้วก็สอบถามถึงทำเลที่พัก
ปรากฏว่าละแวกนี้ "ไม่มีที่พัก" กรรรมล่ะกรู

เราก็ต้องตัดสินใจไปต่อ หรือ ปั่นกลับเสียมเรียบแล้วนั่งเครื่องบินกลับ
ก้ให้น้องกอล์ฟเป็นคนตัดสินใจ เพราะเป็นสาวสวยคนเดียว
ปรากฏว่า สาวสวยบอกว่า "สู้ต่อไป ไม่มีถอย จักรยานไม่มีเกียรถอยหลัง"

รูปภาพ

เราออกจากปากทางบันทาายศรีประมาณ บ่ายสองโมงเศษ
จากตรงนี้ถึงเมืองที่ใกล้ที่สุดคือ อันลองเวง ระยะทางประมาณ 80 กม.เศษๆ

เราก็ปั่นไปเรื่อยๆ และเรื่อยๆ ผ่านหลักกิโลเมตรแต่ละหลักอย่างช้าๆ
จนกระทั่งตะวันลับขอบฟ้า สองข้างทางจากที่เคยเป็นทุ่งนาและป่าเขา
กลายเป็นความมืดทั้งหมด มีแต่แสงหิ่งห้อยจำนวนมากอยู่ข้างทาง นับพันๆตัว

แล้วทุรกรรมอีกประการก็มาเยือน

"ฝนตกหนัก เมื่อตอน 1 ทุ่มเศษๆ ตกแบบกระน้ำเหมือนเขื่อนแตก"

เราก็ยังค่อยๆปั่นแบบกระดืบๆคืบๆคลานๆ ไปเรื่อยๆ ช้าๆ

หนักไปกว่านั้น ยางรถพี่ปูเกิดรั่วซะนี่
Panaracer T-Serve ที่นุ่มนวล เจอหลุมเจอลูกรัง สบายและเบามือ
แต่เนื้อยางที่นิ่มมากๆทำให้มันอมก้อนกรวดเล็กๆเอาไว้ แล้วค่อยๆแทรกตัว
จนเข้าไปถึงยางใน จนเกิดรูเล็กๆ ลมซึมออกมาช้าจน แบนแฟบ

3 ทุ่มครึ่ง พวกเรามาถึงเมือง อันลองเวง
เป็นเมืองชายแดน ก่อนถึงเมือง ชอม Choam ซึ่งเป็นจุดผ่านแดน
มีโรงแรมแห่งเดียวที่พออาสัยพักแรมได้คือ โรงแรม New Star
ราคาคืนละ 550 บาท ห้องพักสะอาดพอสมควร สำหรับอาศัยนอนแค่คืนเดียว
และได้อาบน้ำอุ่นๆหลังจากที่โดนฝนมานานหลายชั่วโมง


รุ่งเช้า เราก็เดินทางต่อไปที่เมือ Choam หรือที่คนไทยเรียกว่า ช่อง
ด่านชายแดนจุดนี้มีชื่อว่า ช่องสะงำ

รูปภาพ

วิบากกรรมยังไม่หมด เพราะระยะทางจากอันลองเวงไปช่องสะงำนั้นแม้ว่า
จะห่างกันแค่ 19 กม. แต่เส้นทางนั้นโหดเหลือเกิน เป็นเนินเขาสูงและชันมากๆๆๆ
ระดับความชัน 10% ซึ่งสำหรับพวกหนุ่มๆก็ไม่ค่อยเป็นปัญหา
แต่สำหรับ น้องกอล์ฟสาวสวยของเราอาจจะลำบากแล้ว

รูปภาพ


หลังจากขึ้นมาได้แล้วก็มาถึงศาลบนเนินเขา พวกเราก็นึกดีใจว่า คงจะต้องเป้นยอดสูงสุดแน่ๆ
เพาะคงจะเหมือนธรรมเนียมการสร้างศาลแบบเมืองไทยที่จะสร้างศาลตรงที่จุดสูงสุด เช่น
ศาลเจ้าพ่อขุนตาน จ.ลำปาง ศาลพระวอที่ จ.ตาก

แต่ที่ไหนได้ ตรงเนินชันๆตรงนี้ยังไม่ใชจุดที่สูงที่สุด

รูปภาพ
น้องกอล์ฟถึงกับทำหน้าหมดอาลัยกับภูเขาเอาเลย ^^
รูปประจำตัวสมาชิก
Felix
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 580
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2010, 14:14
team: OSK 101
Bike: Nishiki Amust/Gary Fisher Zebrano

Re: @@@@ 797 กิโลเมตร ผลงานจาก MJ Bike นครปฐม+ทัวริ่งทั่วไทย โดย พี่โอฬาร ครับ #########

โพสต์ โดย Felix »

รูปภาพ

ช่วงสุดท้าย ก่อนจะถึงชายแดน เราต้องผ่านเนินเขาชันๆอีกหนึ่งช่วง
ระยะทางประมาณ 1.5 กม ความชันประมาณ 8 % ก็ถือว่าไม่มาก
แต่สำหรับสาวน้อยบอบบางแต่ใจสู้ก็แทบแย่เหมือนกัน

คณะตุหรัดตุเหร่ มาถึงชายแดนประมาณ บ่าย 2 โมงเศษ

หลังจากพิจารณาสภาพของน้องกอล์ฟ สวยนักสู้แล้ว คิดว่าถ้าไปต่ออาจจะลำบาก
ก็เลยตัดสินใจหาที่นอนละแวกนี้ดีกว่า เพราะหากไปต่อก็ยังอีกไกลมากกว่าจุะถึงศรีสะเกษ

รูปภาพ

โรงแรมที่นี่มีไม่มาก มีโรงแรมใหญ่แห่งเดียว เป็นโรงแรมคาสิโน
สำหรับสูบเงินนักพนันชาวไทยอีกแล้ว

ที่คาสิโนแห่งนี้ มีรถตู้จากจังหวัดภาคอิสานตอนล่างนำคนมาส่งที่โรงแรมช่วงสายๆ
น่าตกใจและเศร้าใจมากก็คือ นักพนันที่มานั้น ดูจากรูปการณ์แล้วน่าจะเป็นกลุ่มนักพนัน
ที่มาพื้นเพจากภาคเกษตรกรรม พวกเขาคงเหมือนแมงเม่าบินเข้ากองไฟ

ถือเงินติดตัวมาจำนวนหนึ่ง อาจจะไม่มาก ไม่กี่พันบาท
แล้วพวกเขาก็คงนั่งรถกลับบ้านมือเปล่า และเงินทีมีอยู่ก็หายไปหมดแล้ว

รูปภาพ

ที่นี่มีสถานที่เผาศพของพอลพต อดีตผู้นำเขมรแดง
อยากเข้าไปดูเหมือนกัน แต่หลังจากสอบถามข้อมูลจากชาวบ้านแถวๆนั้น
บอกว่าไม่มีอะไร เป็นที่เผาศพหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่งเท่านั้น

ชาวเขมรดูจะเกลียดชังพอลพตอย่างมาก แต่เมื่อย้อนนึกถึงสิ่งที่พอลพตได้กระทำต่อชาวเขมรแล้ว
ก็ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมถึงถูกเกลียดชังได้มากขนาดนั้น

ชาวเขมรคนหนึ่งเล่าว่า เมื่อตอนเผาศพพอลพตนั้น มีชาวเขมรจำนวนมาก
ไปยืนฉี่รดบริเวณที่เผาศพ บางคนไปทำพิธีสาปแช่งไม่ให้ไปผุดไปเกิดอีกด้วย

รูปภาพ

อาหารว่างของชาวเขมรเป็นหอยขมที่งมมาจากลำห้วยเอามานึ่งในกระด้ง
ขายกระป๋องละ 5 บาท เห็นสาวๆและเด็กๆชาวเขมรดูดหอยกินจุ๊บๆกันทั่วไป
ไม่เห็นมีน้ำจิ้มอะไรเลย ดูๆแล้วไม่ค่อยน่าอร่อยสักเท่าไหร่
รูปประจำตัวสมาชิก
Felix
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 580
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2010, 14:14
team: OSK 101
Bike: Nishiki Amust/Gary Fisher Zebrano

Re: @@@@ 797 กิโลเมตร ผลงานจาก MJ Bike นครปฐม+ทัวริ่งทั่วไทย โดย พี่โอฬาร ครับ #########

โพสต์ โดย Felix »

เราเข้าพักโรงแรมคาสิโนแห่งเดียว ที่นี่ เพื่อให้น้องกอล์ฟได้พัก
เพราะจากชายแดนถึงจังหวัดศรีสะเกษก็เกือบ 100 กม.
เราออกจากโรงแรมแต่เช้า ด่านชายแดนที่ช่องสะงำ ไม่ค่อยมีคนเข้าออกหนาแน่นมากนัก
สอบถามจากเจ้าหน้าที่ ตม.ได้บอกว่า เส้นทางสบายๆ ไม่มีภูเขาสูงชัน ส่วนมากเป็นทางลงเขา

แต่ถึงกระนั้นเราก็ยังไมวางใจ

รูปภาพ


รูปภาพ

แล้วก็เป็นไปตามคาด เส้นทางไมได้ราบๆเรียบๆ เหมือนถนนในภาคกลาง
เนินเขาให้คลานก็ยังมีอยู่บ้างแต่นับว่ายังดีที่มีไม่มากนัก และผิวถนนก็เรียบกริบ
ปั่นได้สบายๆ

รูปภาพ

หลังจากผ่านเนินชันๆมาพอสมควรก็เป็นทางลงเขาสบายๆ
และสภาพถนนก็เปลี่ยนเป็นที่ราบ สองข้างทางเป็นทุ่งนาที่ชาวนาเพิ่งจะดำนาเสร็จได้ไม่นาน

อากาศกำลังสบาย มีลมเย็นๆของละอองฝนมาเป็นระยะๆและกลุ่มเมฆดำที่ตั้งเค้ามาแต่ไกล

เรามีช่วงเวาที่ดีๆสบายๆอยู่ไม่นาน
แล้วก็ต้องปั่นกลางฝนไปตลอดทั้งช่วงบ่าย จนถึงช่วงค่ำ
ที่เราไปถึง จังหวัดศรีสะเกษเมื่อปะมาณ 1 ทุ่มเศษ

รูปภาพ
รูปประจำตัวสมาชิก
Felix
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 580
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2010, 14:14
team: OSK 101
Bike: Nishiki Amust/Gary Fisher Zebrano

Re: @@@@ 797 กิโลเมตร ผลงานจาก MJ Bike นครปฐม+ทัวริ่งทั่วไทย โดย พี่โอฬาร ครับ #########

โพสต์ โดย Felix »

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ


ยางจักรยานนั้นมีความสำคัญอยางมากโดยเฉพาะการปั่นจักรยานทางไกลแบบทัวริ่ง

คณะของเราใช้ยาง 3 ยี่ห้อ 4 รุ่น คือ พอจะสรุปข้อดีข้อเสียได้ดังนี้

Panaracer T-Serve น้ำหนักเบา นุ่มนวล นั่งสบาย ไม่สะเทือนมาก เนื้อยางนิ่ม แต่ยางรั่วได้ง่ายแม้ว่าจะใส่แผ่นกันหนาม
เนื้อยางอมก้อนหินเล็กๆเอาไว้แล้วค่อยๆรั่ว เหมาะกับทัวริ่งบนทางหลวงหรือในเมือง

Panarace Tour Guard หน้ายางหนา ทนถึก อึด ไม่รั่วไม่ซึม เศษแก้วเศษกรวด บดไปได้เลยไม่ต้องหลบ
ตลอดทริปทุกสภาพถนนไม่เคยรั่ว และราคาถูก แต่ข้อเสียคือ หนักมาก และกระด้างเด้ง
เกาะถนนไม่ดีนักเมื่อปั่นรถเปล่า ต้องมีน้ำหนักบรรทุกจะเกาะถนนและนุ่มนวลขึ้น

Schwalbe Road Cruiser ยางนุ่มนวลปานกลาง ความทนทานปานกลาง น้ำหนักปานกลาง
เป็นยางครอบจักรวาล ใช้งานได้แบบทั่วไป

Continental Touring Plus หนา หนัก ถึก ทน อึด ไม่รั่วไม่ซึม คุณสมบัติเหมือนกับ Panaracer Tour Guard ทุกอย่าง
แต่ราคาแพงเกินไป ถ้าเปรียบกันระหว่าง 2 รุ่น เลือก Panaracer Tour Guard ราคา เส้นละ 600 บาท ดีกว่า
รูปประจำตัวสมาชิก
Felix
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 580
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2010, 14:14
team: OSK 101
Bike: Nishiki Amust/Gary Fisher Zebrano

Re: @@@@ 797 กิโลเมตร ผลงานจาก MJ Bike นครปฐม+ทัวริ่งทั่วไทย โดย พี่โอฬาร ครับ #########

โพสต์ โดย Felix »

รูปภาพ

คณะตุหรัดตุเหร่ หลังจากนอนพักผ่อนที่โรงแรมพรมพิมาน หนึ่งคืนก็ออกเดินทางต่อไปยังอุบลราชธานี
แรกทีเดียวนั้นคิดว่าจะกลับ กทม.ด้วยรถไฟ จากศรีสะเกษ แต่ด้วยความที่ผู้นำทริปคือผมเอง
ชอบเดินทางแบบนอกลู่นอกทาง ทั้งคณะก็เลยเปลี่ยนแผนไปขึ้นรถไฟที่อุบลฯแทน

ทั้งนี้เนื่องจากว่าเป็นเมืองต้นทาง การนำจักรยานขึ้นรถไฟทำได้สะดวกกว่า
เราก็เลยต้องอกแรงสองน่องกับร่องตูดกันต่ออีก ประมาณ 90 กม.

ผ่านลมฝนผ่านแดดร้อนสลับกันมาตลอดทาง พอเมื่อมาถึง อ.กันทรารมย์
น้องกอล์ฟสาวสวยคนเดียวเริ่มออกอาการหมดแรง ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
เพราะน้องกอล์ฟเว้นว่างการปั่นจักรยานมาานเกือบๆครึ่งปี
ที่ผ่านมาได้จนถึงตรงนี้เป้นเพาะจิตใจที่เข้มแข็งไม่ย่อท้อจริงๆ

แต่บรรดาพี่ๆ เห็นว่า เราไม่ควรให้น้องกอล์ฟต้องตกระกำลำบากอีกต่อไป
ก็เลยบังคับให้น้องขึ้นรถกระบะไปรอที่สถานีรถไฟ ส่วนพวกเรา ที่เหลือสามคนจะปั่นจักรยานตามไป

ช่วงจาก อ.กันทรารมย์ ไปถึงวารินชำราบ เราทำเวลาได้ดี ควมเร็วยืนระยะที่ 28-30 กม/ชม
เนื่องจากลมฝนจากพายุรามสูร และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ส่งลมดันหลังเรามาตลอดทาง

รูปภาพ

คณะตุหรัดตุเหร่ทัวร์จบทริปลงที่อุบลราชธานี เพียงเท่านี้
พี่ปู ไอ้แจ้ และน้องกอล์ฟ เดินทางกลับด้วยรถไฟ ส่วนผมก็พักค้างแรมคืนที่อุบลฯ
ที่โรงแรม นาถสิริ เรสสิเดนท์ ราคาคืนละ 650 บาท
เป็นโรงแรมที่ดีที่สุดเท่าที่เดินทางผ่านมาทั้งหมด

โรงแรมนี้สะอาดมาก จนถึงมากที่สุด
องค์ประกอบสำคัญของการเป็นโรงแรมที่พักสำหรับนักเดินทางมีครบถ้วนในราคาที่น่าพอใจ

ใครที่ต้องไปท่องเที่ยวหรือมีธุระที่อุบลฯ ก็ขอแนะนำที่โรงแรมนี้เลยครับ ดีที่สุดเลย
และที่สำคัญคือ โรงแรมนี้เป็นมิตรกับคนปั่นจักรยาน มีพื้นที่ที่ปลอดภัยให้จักรยานของเราด้วย
รูปประจำตัวสมาชิก
Felix
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 580
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2010, 14:14
team: OSK 101
Bike: Nishiki Amust/Gary Fisher Zebrano

Re: @@@@ 797 กิโลเมตร ผลงานจาก MJ Bike นครปฐม+ทัวริ่งทั่วไทย โดย พี่โอฬาร ครับ #########

โพสต์ โดย Felix »

ลงจากจบการเดินทางด้วยจักรยานในสเตจที่หนึ่งแล้ว
สเตจที่สองก็เริ่มขึ้นจากอุบลฯ คราวนี้เป็นการปั่นเดี่ยวเที่ยวเลียบริมโขง


จุดหมายแรกของการเดินทางคือ อ.โขงเจียม
ท่ามกลางสายฝน ที่ตกหนักต่อเนื่องมาตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้า และยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกเลย

ระยะทางจาก อุบลฯ-โขงเจียม ประมาณ 80-90 กม.โดยใช้เส้นทางผ่าน อ.สว่างวีระวงศ์
อ.พิบูลมังสาหาร ก่อนจะเข้าโขงเจียม
ระยะทางไม่ไกลมาก สำหรับการปั่นจักรยนรถเปล่าไม่มีสัมภาระ

แต่การแบบน้ำหนักทั้งจักรยานและสัมภาระมากกว่า 35 กก.
ต่อเนื่องกันมาหลายและและยังต่อเนื่องต่อไปอีกหลายวัน ด้วยตัวคนเดียว
ต้องรอบคอบและระมักระวังเรื่องการสะสมกรดแลคติค การใช้พลังงาน
และการรักษาอุณหภูมิระหว่างการเดินทางให้รอบรอบคอบ

ผมออกจากโรงแรมนาถสิริ ช่วงสาย เป็นช่วงสายๆที่ไม่มีแสงแดดมีแต่น้ำฝน
จากอิทธิฤทธิ์ของพายุรามสูร

รูปภาพ
ผมเลือกเส้นทางฝั่งขวาของแม่น้ำมูล ก็เลยต้องย้อนกลับไปทาง อ.วารินชำราบ
แต่กว่าจะพ้นจากตวจังหวัดอุบลมาได้ก็หลงทางไปหลายรอบเหมือนกัน
ถนนหนทางในเมืองอุบลฯ ป้ายบอกเส้นทางไม่ค่อยชัดเจนสำหรับคนต่างถิ่นนัก

และเมื่อพ้นจาก อ.วาริน ได้นิดเดียว ก็ต้องพบสภาพถนนที่กำลังก่อสร้าง
ผิวการจราจรเละเทะมีแต่น้ำโคลนและทราย ฝนก็ยังคงตกหนัก ไม่หยุด

รูปภาพ

ระหว่างทางผม ได้มีโอกาสนั่งเรือข้ามไปที่วัดดอนธาตุ ที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำมูล
เพื่อกราบสมัสการอัฐิของหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล ปรมาจารย์ด้านวิปัสสนา
มีเรือข้ามฟากบริการฟรี

รูปภาพ

ช่วงประมาณ 4 โมงเย็น ผมก็เดินทางไปถึง อ.โขงเจียม
สิ่งแรกที่ต้องทำคือการหาที่พัก และก็ไม่ผิดหวัง เพราะได้เจอที่พักเล็กๆ ราคาถูก
โขงเจียมเพลส ราคาคืนละ 350 บาท อยู่ห่างจากตลาดแค่ 50 เมตร
เจ้าของโรงแรมก็เป็นนักปั่นจักรยานเหมือนกัน

รูปภาพ
ตอบกลับ

กลับไปยัง “เอ็ม.เจ.ไบค์-นครปฐม”