ขออนุญาตเปิดกระทู้ พูดคุยประสาชาวฟูลซัสเมืองคอน ครับ

[วัฒน์ จันดี_008]

ขออนุญาตเปิดกระทู้ พูดคุยประสาชาวฟูลซัสเมืองคอน ครับ
จริงๆแล้ว ชาวคอนก็ขี่หลังอ่อนกันอยู่พอสมควร แล้วน่าจะยังมีอีกหลายท่านที่สนใจแต่ไม่รู้จะคุยกับใคร
จึงขอเปิดกระทู้เพื่อเป็นช่องทางพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้-ประสบการณ์กันนะครับ
หรือจะแนะนำรถดีๆที่ขี่อยู่ หรือเส้นทางปั่น-รูด มันส์ๆ ก็เต็มที่กันเลยครับ

[หมาหอบแดด]

รถสวยมากครับคุณวัฒน์ เดี๋ยวให้อายุน้อย(ที่เหลือ) กว่านี้นิดถึง จะลองหันไปคบฟูลซัสบ้าง

[โกเร่ง]

[วัฒน์ จันดี_008]

รถสวยมากครับคุณวัฒน์ เดี๋ยวให้อายุน้อย(ที่เหลือ) กว่านี้นิดถึง จะลองหันไปคบฟูลซัสบ้าง

สวัสดีครับพี่ ลองแบบดีๆสักคันสิครับแล้วจะติดใจ พาลเอานิสัยเสียไปด้วย

[วัฒน์ จันดี_008]

ใช้อยู่เหมือนกัน คันนี้คันที่สองเเล้วครับ ช่วงขึ้นเขาถ้าอาจช้าหน่อยถ้าไม่ล๊อคโช๊ค

เเต่ขาลงเขาถ้าได้ยางนอกเส้นใหญ่ ดอกเยอะดาวมันส์ มากๆ ครับ เทียบกับรถเสือภูเขา

เเบบอาร์ดเทลเเล้วสู้ฟูลซัสไม่ได้ ขี่ทางเรียบก็นุ่มกว่า ผู้ที่มีปัญหาเรื่องกระดูกสันหลัง

ก็เหมาะครับเพราะลดเเรงกระเเทกได้ดีกว่า

ข้อเสียที่ผมเจอคือ ทางเรียบต้องออกแรงเยอะกว่า ขึ้นเขาต้องล๊อคโช๊ค

เพราะถ้าไม่ล๊อคจะทำให้ขึ้นช้ากว่า และต้องดูเเลน๊อตที่เป็นจุดหมุนของเฟรม บางครั้ง

น๊อตก็คลายออก โช๊คหลังถ้าอ่อนก็ต้องเพิ่มลม ผมน้ำหนักมากลมก็มากกว่าปกติหน่อย


ได้เเค่นี้ครับ ใครมีประสปการณ์การใช้งาน ดูเเล บำรุงรักษา ก็ ... เชิญเลยครับ

สวัสดีครับ โกเร่ง เจ้า element ตัวนั้นมันก็เป็นอย่างนั้นแหละครับ จริงแล้วเป็น single pivot ธรรมดาการปั่นจึงกินแรงหน่อย ว่าแต่โช๊คกลางเป็น rp23 แล้วใช่ไหมครับ.............ถ้าจะมันส์จริงๆผมแนะให้ลองพวก virtual pivot ครับ คันเดียวเปรี้ยวไปทุกงานเลย

[spawn10]

virtual pivot มันเป็นยั่งไงครับไม่รู้เรื่อง

[วัฒน์ จันดี_008]

มาแล้วครับ
Guide to fullsuspention bike
แปลและเรียบเรียงจาก bikeradar.com โดย กระผมเอง [/size]

[วัฒน์ จันดี_008]

Single Pivot

ดีไซน์ดั้งเดิมที่สุด ง่ายที่สุด และเบาที่สุด โดยอาศัยจุดหมุนเพียงจุดเดียวในตำแหน่งท่อล่างเหนือกระโหลก
ประสิทธิภาพจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งของจุดหมุน โดยที่ยิ่งใกล้กระโหลกเท่าไหร่ก็จะยิ่งดี( bob น้อยลง) แต่จากการที่ระยะโซ่มีการเปลี่ยนแปลงได้(ทั้งการเบรคและการทำงานของระบบ) ทำให้เกิดอาการ pedal kick back (อาการจะมากจะน้อยก็ขึ้นกับระยะของ กระโหลก-จุดหมุน)
ข้อดี : ดูแลง่าย เบา ทำงานรวดเร็ว
ข้อเสีย : มีอาการ pedal kick back และสูญเสียประสิทธิภาพของเบรคจากการที่ระยะโซ่เปลี่ยนไปเมื่อเบรค
ตัวอย่าง : Santa Cruz Superlight, Santa Cruz Heckler, Santa Cruz Bullit, Cannondale Rush

[วัฒน์ จันดี_008]

Faux Bar

อีกสายหนึ่งของ Single Pivot โดยจุดหมุนหลักจะอยู่ใกล้กระโหลกมากที่สุด และเพิ่มจุดหมุนที่หางหลังบริเวณเหนือแกนล้อ และ Rocker Linkage เพื่อเป็นตัวถ่ายแรงลงไปกดโช๊ค ซึ่งจะเพิ่มความ stiff ให้กับระบบมากขึ้น ระบบ faux bar มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็น 4 bar อยู่เสมอๆ แต่จุดที่ต่างกันก็คือ จุดหมุนรองซึ่ง 4 bar จะอยู่ที่ chain stay
ข้อดี : เบา นุ่ม เกิด pedal kick back น้อย
ข้อเสีย : bob ย้วย และเกิด brake jack
ตัวอย่าง : Trek Fuel ปีเก่า

[วัฒน์ จันดี_008]

4-Bar Linkage

อีกชื่อคือ Horst Link หรือ FSR โดยภาพรวมแล้วเกือบจะเหมือน Faux bar เพียงย้ายจุดหมุนรองไปบริเวณ chain stay แทน ผลทำให้ลดแรงกระทำจากการเบรคลง (brake jack) การขี่จะรู้สึกได้ถึงแรงส่งจากระบบ ซึ่งทาง Specialized เป็นผู้พัฒนาและเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์
ข้อดี : แทบจะไม่มี pedal kick back, ลดอาการ brake jack
ข้อเสีย : bob, ต้องการการดูแลรักษาจุดหมุน
ตัวอย่าง : Specialized ทั้งหมด, Ellsworth, Turner ปีเก่าๆ

[วัฒน์ จันดี_008]

Twin Link 4 Bar

พัฒนาขึ้นมาจาก 4 bar เดิมโดยใช้การยึดสามเหลี่ยมหลังของเฟรมเข้ากับสามเหลี่ยมหน้าด้วย Link สั้นๆ 2 ชุด
ซึ่งทำให้เกิดจุดหมุนแบบลอยตัวที่จะทำงานอยู่ตลอดเวลา โดยแตกเป็นสายๆย่อยๆอีก เช่น
VPP (Virtual Pivot Piont) พัฒนาขึ้นโดย Outland Cycles ในช่วงยุค 90s และได้รับการปรับปรุงโดยSanta Cruz และ Intense โดยใช้ Link 2 ตัววางหน้าสามเหลี่ยมหลัง ทำให้เกิดจุดหมุนเสมือนขึ้น และใช้วางตึงของโซ่มาขจัดอาการ bob ออกไป ตัวอย่าง : Santa Cruz Blur, Santa Cruz Nomad, Intense Spider, intense Tracer
DW-LINK พัฒนาขึ้นโดย Dave Weagle ซึ่งคล้ายๆกับ VPP แต่จุดหมุนของ Link ตัวล่างจะอยู่เหนือกระโหลกหัวใจหลักของ DW-LINK คือระบบ Anti-Squat. ในระบบนี้ ตราบใดที่ยังคงควงขาปั่นไปอย่างปกติก็จะไม่เกิด pedal kick back ขึ้นเลย แต่อย่างไรก็ตามความรู้สึกที่ได้ก็จะต่างกันไปตามที่ผู้ผลิตเฟรมออกแบบมาด้วย
ตัวอย่าง : Ibis Mojo, Pivotทั้งหมด, Turner ปีใหม่ๆ, Iron horse azureและ MK III
อย่างไรก็ตาม ระบบ Meastro ของ Giant และ Quad link ของ Marin ก็จัดอยู่ในกลุ่ม Twin Link 4 bar ด้วย
ตัวอย่าง : Giant anthem และ Trance, Marlin mount vision
ข้อดี : ไม่ bob มี pedal kick back และ brake jack น้อย
ข้อเสีย : น้ำหนักมาก ต้องการการเซ็ท-ดูแลรักษาที่

[วัฒน์ จันดี_008]

Active Brake Pivot

ระบบนี้มองเผินๆจะคล้ายๆกับ faux bar และ 4 bar แต่จะวางจุดหมุนต่างไปคือ โช๊คจะวางอยู่บนจุดหมุนทั้งของ chain stay และ seat stay และเลื่อนจุดหมุนรองไปอยู่รวมกับแกนดุมล้อ ผลคือ ระบบจะมีแรงส่งจากระบบมาก และมีอาการ brake jack น้อยที่สุด
ข้อดี : ปราศจาก brake jack, pedal kick back น้อยมาก
ข้อเสีย : bob, ต้องการแกนดุมหลังโดยเฉพาะ
ตัวอย่าง : Trek ปีใหม่ๆ

[วัฒน์ จันดี_008]

Floating Drivetrain

หนึ่งในระบบที่เก่าแก่ที่สุดแบบนึง โดยระบบนี้ ชุดขับเคลื่อนทั้งหมดรวมทุ้งกระโหลกจะอยู่ที่ชุด Swing arm โดยจะยึดกับเฟรมโดยจุดหมุน ผลคือ ไม่มีการเปลี่ยนระยะของโซ่เลยทำไม่ bob และมี pedal kick back น้อยมากๆ แต่เนื่องจากระบบต้องการน้ำหนัก(ของคนขี่)เพื่อกดลงบน swing arm ทำให้เมื่อยืนปั่นจะสูญเสียประสิทธิภาพลงมากๆ
ข้อดี : ไม่ bob, ไม่มี pedal kick back
ข้อเสีย : น้ำหนักมาก, สูญเสียประสิทธิภาพเมื่อยืนปั่น, มี brake jack
ตัวอย่าง : GT i-drive, Mongoose Teocali, Maverick ML8, Klein Palomino

[chin chanchum]

ขอบคุณมาก ได้ความรู้เพิ่มขึ้น ลุงสนใจเป็นพิเศษเพราะเป็นหนุ่มน้อยแล้ว เฟรมตัวไหนที่น่าสนใจบ้าง ปั่นเล่นๆออกกำลังกาย ราคาไม่เกิน3xxxx(เฉพาะเฟรม) ช่วยแนะนำด้วย ขอบคุณอีกครั้ง..........จากลุงจินต์

[วัฒน์ จันดี_008]

ขอบคุณมาก ได้ความรู้เพิ่มขึ้น ลุงสนใจเป็นพิเศษเพราะเป็นหนุ่มน้อยแล้ว เฟรมตัวไหนที่น่าสนใจบ้าง ปั่นเล่นๆออกกำลังกาย ราคาไม่เกิน3xxxx(เฉพาะเฟรม) ช่วยแนะนำด้วย ขอบคุณอีกครั้ง..........จากลุงจินต์

ถ้าเฉพาะเฟรม 3xxxx เนี่ย ลิงจินต์มองไปถึงพวก giant anthem มือหนึ่ง หรือว่าพวก santa cruz หรือ intense มือสองได้เลยครับ
อีกตัวที่น่าสน(สำหรับหนุ่มน้อยๆไม่ค่อยลุยมากก็ klein palomino ครับมือสองสวยกยังพอหาได้ในบ้านเรา ขึ้นชื่อว่า klein งานสวยอยู่แล้วครับ )